เคยบ้างไหม? เวลาที่เราหาซื้อบ้าน แต่เลือกยังไงก็ยังไม่โดนใจซักที ทำเลก็ยังไม่ใช่ แบบบ้านก็ยังไม่โดนใจ ฟังก์ชั่นก็ยังไม่ตอบโจทย์ รูปร่างหน้าตาก็เหมือนๆ กันไปหมด เพราะทุกวันนี้ โครงการบ้านจัดสรร คือตลาดหลักของคนที่ต้องการหาซื้อบ้าน จึงมีคำถามตามมาว่ายังมี solution อื่นๆ สำหรับคนที่มีความต้องการที่ต่างกันออกไปบ้างไหม
ธุรกิจรับสร้างบ้านจึงเข้าตอบโจทย์ของคนกลุ่มนี้ ซึ่งมีทั้งการว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างทั่วๆ ไป มาออกแบบสร้างให้บนที่ดินที่มีอยู่ แต่ผลที่ได้คือ งบบานปลาย งานที่ได้ไร้คุณภาพ ไม่ตรงตามเวลา บางทีก็ทิ้งงานกันไปเฉยๆ จึงเป็นที่มาของบริษัทที่ให้บริการรับสร้างบ้านขึ้นโดยเฉพาะ ให้บริการแบบมืออาชีพ มีทั้งทีมสถาปนิก วิศวกร ทีมการตลาดให้บริการลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงหลังการอยู่อาศัย
ธุรกิจนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามความเชื่อมั่นและการยอมรับของผู้บริโภค ขยายตัวจากมูลค่าตลาดหลักพันล้านเป็นระดับหมื่นล้านบาท เกิดการแข่งขันทั้งในเรื่องของรูปแบบบ้าน ราคา บริการ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคให้ได้ดีที่สุด แต่ละช่วงเวลา จนกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง บ้านที่ตอบโจทย์ ตรงใจได้มากกว่า บ้านจัดสรร ที่มีอยู่ในท้องตลาด ในราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาทไปจนถึงหลัก 10 หลัก 100 ล้านบาท
ข้อดีของธุรกิจรับสร้างบ้าน
- ได้รับบริการจากมืออาชีพ ทั้งสถาปนิก วิศวกร ทีมการตลาด
- เลือกแบบที่ถูกใจ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามที่ต้องการ
- มีสัญญามาตรฐานที่ควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
- ระยะเวลาส่งมอบที่กำหนดชัดเจน
- งบประมาณไม่บานปลาย
สร้างบ้านโดนใจไร้กังวล ต้องเตรียมตัวอย่างไร
เงื่อนไขแรกเลยคือเราต้องมีที่ดินเป็นของตัวเอง แน่นอนว่า การสร้างบ้านบนที่ดินที่มีอยู่ ทำให้ได้อยู่ในพื้นที่หรือทำเลที่คุ้นเคย อยู่ในบริเวณเดียวกับสมาชิกของครอบครัวแบบไทยๆ
สำหรับคนที่ไม่มีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ก็ยังพอมีทางเลือกอื่นๆ เช่น บริษัทรับสร้างบ้านบางแห่งก็มีบริการจัดหาที่ดินให้ หรือจะออกแรงหาซื้อเองก็มีหลายแหล่งให้เลือกซื้อ เช่น แหล่งรวมที่ดินในออนไลน์ สินทรัพย์หลุดจำนองของกรมบังคับคดี หรือสินทรัพย์ NPA ((Non Performing Asset) ของสถาบันการเงินต่างๆ เป็นต้น
กรณีที่ซื้อที่ดินเองไม่ว่าจะเลือกซื้อจากแหล่งไหน ก็ควรดูที่ดินที่อยู่ในพื้นที่บริการสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ที่สะดวก เข้าถึงง่าย มีทางเข้าออกที่ชัดเจน ไม่อยู่ในพื้นที่เปลี่ยว และโดดเดี่ยวจนเกินไป ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมด้วยหรือเปล่า เพราะที่ดินที่อยู่ในทำเลที่ดีย่อมมีผลต่อการประเมินสินเชื่อของธนาคารด้วยเช่นกัน
วางแผนด้านการเงิน ที่ผ่านๆ คนที่จะปลูกสร้างบ้านเองมักจะต้องมีฐานะ รายได้ที่ดีพอจนไม่จำเป็นต้องกู้ธนาคาร แต่สำหรับคนรายได้ปานกลาง เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว ก็สามารถสร้างบ้านเองได้ เพราะปัจจุบันมีหลายธนาคารให้บริการสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน ด้วยเงินกู้สูงถึง 100% ของค่าก่อสร้าง (กรณีที่มีที่ดินปลอดภาระจำนอง) หรือ 90% ของค่าที่ดินและค่าก่อสร้าง (กรณีขอกู้ซื้อที่ดินมาปลูกสร้างบ้าน) ยิ่งถ้าที่ดินเป็น NPA ของธนาคารเอง ก็จะมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มอีกต่างหาก
แต่ถึงอย่างไร เราก็ต้องมีเงินก้อนสักประมาณ 20% ของราคาบ้าน เนื่องจากวงเงินสินเชื่อปล่อยแค่ 90% ของราคาที่ดินและค่าปลูกสร้าง นอกจากนี้ การปล่อยสินเชื่อสร้างบ้าน ธนาคารจะทยอยให้ตามสัญญาเงินกู้เป็นงวดๆ ตามความคืบหน้าของการปลูกสร้าง ดังนั้นจึงต้องมีเงินเตรียมไว้สำหรับการก่อสร้างในงวดแรกก่อน การออมเงินไว้ล่วงหน้าจะทำให้เราคล่องตัวขึ้น
เลือกบริษัทที่ดีมีคุณภาพ ดูจากผลงานที่ผ่านๆ มา ทีมงานที่เป็นมืออาชีพ ทั้งสถาปนิก วิศวกรที่มีเพียงพอ ไปจนถึงคนงานก่อสร้างต้องมีทักษะในงานที่ดี เราสามารถเช็คประวัติการทำงานได้ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ หรือเช็คไปที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ในกรณีที่บริษัทนั้นๆ เป็นสมาชิกของสมาคม
บริษัทที่ทำธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นจริงเป็นจัง (ไม่ใช่ผู้รับเหมา) ปัจจุบันมีอยู่เป็นร้อยๆ บริษัท แต่ละรายก็พยายามแข่งขันกันด้วยคุณภาพสินค้า และบริการที่ดี ยิ่งในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยเป็นใจแบบนี้ แต่ละรายก็ล้วนแข่งขันกันแย่งชิงลูกค้าด้วยข้อเสนอพิเศษต่างๆ มากมาย
- ขอบคุณรูปแบบบ้านจากซีคอน โฮม