ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ระหว่างการขาย ไตรมาส 1 ปี 2563 ขยายตัวต่ำสุดนับจากปี 2555 ชี้คอนโดแข่งลดราคาสูงสุดกว่า 30% กดดันดัชนีราคาติดลบเป็นไตรมาสแรก
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลได้จัดทำรายงานดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2563 พบว่า
ห้องชุดแข่งลดราคากดดันดัชนีติดลบ
ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย พบว่า มีค่าดัชนีเท่ากับ 153.4 จุด เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่มีการเริ่มจัดทำดัชนี แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) พบว่า ดัชนีมีอัตราการขยายตัวที่ลดลงเป็นไตรมาสแรกที่ร้อยละ 0.3
ทั้งนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดได้รับผลกระทบเชิงลบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ตั้งแต่การประกาศใช้มาตรการ LTV ภาวะสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา และล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่มีผลกระทบรุนแรง และฉุดกำลังซื้อห้องชุดให้ลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสนี้ ทั้งกำลังซื้อคนไทยและคนต่างด้าว โดยเฉพาะชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่เป็นผู้ซื้อหลักของตลาดอาคารชุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ในไตรมาสนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.8 ของจ่านวนโครงการตัวอย่างที่ทำการส่ารวจ 150 โครงการ ใช้กลยุทธ์ลดราคาห้องชุดที่เหลือขายและห้องชุดที่นำกลับมาขายใหม่ (ห้องชุดหลุดดาวน์) โดยมีการลดราคาขายลงตั้งแต่ร้อยละ 10-36.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จึงส่งผลให้ดัชนีราคาห้องชุดที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ ลดลงเป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มจัดทำดัชนีราคาห้องชุด
- สำหรับดัชนีราคาห้องชุดใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 155.0 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- ส่วนในพื้นที่ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 145.6 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
บ้านแนวราบดัชนีราคายังปรับเพิ่ม
ขณะที่ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย (บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์) มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 128.4 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)
ราคาที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ยังมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบจะประสบกับปัจจัยลบรุมเร้ามากกว่าปัจจัยบวก ทั้งทางเศรษฐกิจและโรคระบาดจากไวรัส COVID-19 เนื่องจากต้นทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งราคาที่ดินและราคาวัสดุและค่าแรงในการก่อสร้าง
ประกอบกับ ที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นประเภทที่มีผู้ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าการซื้อเพื่อลงทุน จึงส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทนี้ซึ่งมีอยู่มาก ทำให้ราคายังคงมีการปรับตัวเพิ่ม แต่ในอัตราที่น้อยตามสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน
หากพิจารณาเฉพาะดัชนีราคาบ้านเดี่ยว จะพบว่า ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.7 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- ในพื้นที่กรุงเทพฯ บ้านเดี่ยวมีค่าดัชนีเท่ากับ 126.3 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- ส่วนพื้นที่ปริมณฑล บ้านเดี่ยวมีค่าดัชนีเท่ากับ 126.8 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับดัชนีทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.3 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทาวน์เฮ้าส์มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.5 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
- ส่วนปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 132.2 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า