แคปปิตอล วัน แตกไลน์ 2 ธุรกิจใหม่ พัฒนาโครงการ-ตัวแทนขายบ้านมือสอง ประเดิมผุดโครงการทาวน์เฮ้าส์ย่านบางนาราคา 2 ล้านต้นๆ รองรับกลุ่มคนเริ่มทำงาน ส่วนธุรกิจนายหน้าในนาม KW Thailand ตั้งเป้าเปิดรับตัวแทนขาย 1,000 คน ดันยอดขายปีแรก 5,000 ล้านบาท
นาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด บริษัทตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์และที่ปรึกษาด้านการบริการตลาดและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย affordable รองรับกลุ่มคนในวัยเริ่มต้นทำงานให้สามารถซื้อได้ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ แคปปิตอล วัน ดีเวลล็อปเม้นท์ พัฒนาโครงการแรกเป็นทาวน์เฮ้าส์ ราคา 2.2 ล้านบาท และบ้านแฝด ราคา 3 ล้านบาทต้นๆ จำนวนรวม 150-200 ยูนิต อยู่ในซอยวัดศรีวารี บางนา-สุวรรณภูมิ เนื้อที่ 15 ไร่ มูลค่าโครงการ 300-500 ล้านบาท โดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่
โครงการดังกล่าวจะสอดรับกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ การลดค่าธรรเนียมการโอนและการจดจำนอง เหลือ 0.01% ที่จะมีผลบังคับใช้ถึงสิ้นปีนี้ ทำให้ที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมีโอกาสที่จะเติบโตได้ โดยตั้งเป้าว่าจะพัฒนาโครงการในระดับราคาที่กลุ่มวัยเริ่มต้นทำงานสามารถซื้อได้ปีละ 1 โครงการ ส่วนคอนโดมิเนียมคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ปีถึงจะระบายสต๊อกเก่าได้หมด บริษัทจึงยังไม่มีแผนในการลงทุนในตอนนี้
นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมลงนามสัญญากับบริษัท Keller Williams หรือ (KW) จัดตั้ง บริษัท KW Thailand แห่งแรกในประเทศไทย ด้วยมูลค่าความร่วมมือตามแผนสัญญาระยะยาว 20 ปี ผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยบริษัท KW เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตสูงมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากเป็นบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ที่มีนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนอย่างแท้จริง และมีระบบผลตอบแทน แบบ Passive Income (การให้เงินทำงานแทนตัวเอง) สามารถทำให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานกับบริษัท มีรายได้ที่ไม่มีข้อจำกัดตามความสามารถ
“บริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปภายใน 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากการขายต้องการผู้ขายที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ตลอดจนมองเห็นช่องว่างทางการตลาดที่จะพัฒนาการขายอสังหาริมทรัพย์ ระหว่างเจ้าของทรัพย์กับผู้ซื้อ และนอกจากนั้นการทำการตลาดสำหรับโครงการใหม่ ณ ปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องใช้ระบบการพัฒนา Network หรือเครือข่ายตัวแทนขายเข้ามาช่วย นอกเหนือจากการทำการตลาดโดยการใช้สื่อทั่วไป และการพัฒนาฐานข้อมูลจำเป็นที่จะต้องใช้ แพลนฟอร์มเดียวกัน เพื่อที่จะสร้างโอกาสทางการขายให้มากขึ้น”
สำหรับ Keller Williams Realty ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1983 (พ.ศ.2526) เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีและแฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติสัญชาติอเมริกัน ถือเป็นบริษัทแฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ด้านปริมาณยอดขาย จำนวนของตัวแทนขายมากกว่า 180,000 คนทั่วโลก และจำนวนอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน KW มีแฟรนไชส์ กว่า 36 ประเทศทั่วโลก มียอดขายในปี 2561 มากกว่า 9 ล้านล้านบาท
ในปี 2563 ซึ่งเป็นปีแรกของ KW Thailand นั้น มีแผนที่จะเปิดรับตัวแทนขายในนาม KW จำนวน 1,000 คน โดยตั้งเป้ายอดขาย 5,000 ล้านบาท และจะมียอดขายเติบโตเป็นเท่าตัวในปีถัดไป ภายใต้นโยบายยกระดับสู่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ที่จะเป็นทางเลือกใหม่ที่มีเข้ามาในประเทศไทย
สำหรับการดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านการบริการตลาดและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีพอร์ตที่บริหารโครงการอยู่ในมือรวมมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า ในปี 2563 ได้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 10% จากยอดขายปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 9,000-10,000 ล้านบาท เนื่องจากสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อตลาด ทำให้ยอดขายต่อหนึ่งโครงการมีแนวโน้มว่าจะน้อยลง แต่ที่ทางบริษัทรักษาระดับยอดขายได้คงที่ เนื่องจากทางบริษัทมีโครงการเข้ามาบริหารจัดการเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีโครงการอยู่ประมาณ 15 โครงการ และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนโครงการขึ้นอีก 40% เพื่อรักษาระดับรายได้ภาพรวม และพยายามรักษาจำนวนโครงการให้ไม่มากจนเกินไปเพราะจะส่งผลถึงคุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการ