fbpx
SYMYS Sukhumvit 61

ทุนญี่ปุ่นผนึก 2 บ.อสังหาฯไทย เปิดศึกคอนโดทองหล่อ-เอกมัย

ทุนญี่ปุ่นยังขยายการลงทุนในบริษัทอสังหาฯรายกลางของไทยต่อเนื่อง ล่าสุด ลิสต์ กรุ๊ป จับมือ ฮาบิแทท กรุ๊ป ลุนคอนโดลักชัวรีโลว์ไรส์ ขณะที่ เคฮัง เรียลเอสเตทผนึกซันเคียว โฮม เปิดศึกคอนโดทองหล่อ-เอกมัย

ยังคงเป็นความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาดูกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับการรุกเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยของทุนจากประเทศญี่ปุ่นด้วยการร่วมลงทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยไล่มาตั้งแต่บรรดาบิ๊กเนมต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีเพื่อนร่วมทุนเป็นญี่ปุ่นด้วยกันหลายราย มาจนถึงคิวบริษัทรายกลางๆ รายเล็กๆ ก็ได้พันธมิตรจากแดนอาทิิตย์เข้ามาคบหาดูใจกันแล้วหลายราย

ล่าสุด ฮาบิแทท กรุ๊ป ได้ประกาศจับมือกับ “ลิสต์ กรุ๊ป” จากญี่ปุ่น เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยเครือข่ายการตลาดที่ครอบคลุมทั่วโลกของ ลิสต์ กรุ๊ป พร้อมกับประเดิมพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน 2 โครงการที่ย่านทองหล่อ

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า การร่วมทุนกับ ลิสต์ กรุ๊ป ครั้งนี้ จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรีโลว์ไรซ์ บนทำเลศักยภาพย่านทองหล่อจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ 8” และโครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ 13” นับเป็นก้าวสำคัญเพื่อให้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ผลักดันการเติบโตของธุรกิจของ ฮาบิแทท กรุ๊ป ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ของกรุงเทพฯ

ชนินทร์/คิตะมิ

อีกทั้งยังเป็นการขยายธุรกิจต่อยอดความสำเร็จจากการไปเปิดตลาดจีน และฮ่องกง ที่ผ่านมา ซึ่งเราสามารถใช้โอกาสจากเครือข่ายสำนักงานที่กระจายอยู่ในหลายประเทศรวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในประเทศญี่ปุ่นของ ลิสต์ กรุ๊ป ในการส่งเสริมการเติบโตและต่อยอดการขยายตลาดลูกค้าต่างประเทศของ ฮาบิแทท กรุ๊ป”

สำหรับการร่วมทุนระหว่างบริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท ลิสต์ กรุ๊ป จำกัด ได้มีการจัดตั้งบริษัทในการร่วมทุน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป ลิสต์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ 8” และ บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป ลิสต์ 2 จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ 13” โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น ฮาบิแทท กรุ๊ป ถือหุ้น 62% และลิสต์ กรุ๊ป ถือหุ้น 38%

วาลเด้น ทองหล่อ 13

สำหรับ ลิสต์ กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2534 ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น มีประสบการณ์และความชำนาญทั้งในด้านการเป็นตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านพร้อมที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย การจัดการด้านสินทรัพย์ รวมถึงการจัดการด้านกองทุนอีกด้วย

ทั้งนี้ ลิสต์ กรุ๊ป ได้ซื้อสิทธิ์ “ซอเธอบี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลตี้” ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2553 และในฮาวายเมื่อปี 2556 และได้ขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสำนักงานในฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และฮ่องกง และได้เปิดสำนักงานในประเทศไทยเมื่อไตรมาส 3 ปี 2561 ที่ผ่านมาอีกด้วย นอกจากนั้น ซอเธอบี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียลตี้ ยังมีสำนักงานในเครือข่ายกว่า 990 แห่งใน 72 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเครือข่ายระดับโลกนี้จะเป็นการช่วยขยายตลาดของโครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ 8” และโครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ 13” สู่ระดับนานาชาติได้เป็นอย่างดี

วาลเด้น ทองหล่อ 8

นายฮิซาชิ คิตะมิ ผู้ก่อตั้ง ซีอีโอ และประธาน, ลิสต์ กรุ๊ป กล่าวว่า เมืองไทยเป็นตลาดสำคัญสำหรับ ลิสต์ กรุ๊ป โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ซึ่งบริษัทได้เล็งเห็นความแข็งแกร่งในพื้นฐานหลายเรื่องๆ อีกทั้งยังมองว่าตลาดอสังหาฯระดับพรีเมียมจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเลือกร่วมทุนกับ ฮาบิแทท กรุ๊ป เพราะเป็นบริษัทอสังหาฯที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว อีกทั้งมีแนวคิดที่สอดคล้องกันในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมเพื่อการลงทุน และมีการศึกษาข้อมูลการตลาดเชิงลึก โดยเชื่อว่าประสบการณ์จากการทำงานในระดับนาชาติของลิสต์กรุ๊ปจะสามารถนำองค์ความรู้ และมุมมองสากลมาสู่การร่วมทุนครั้งนี้

ส่วนอีกรายเป็นการเข้าร่วมทุนระหว่าง ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) ซึ่งเป็นบริษัทลูกครึ่งญี่ปุ่นกับ “เคฮัง เรียลเอสเตท”ที่ได้เข้ามาร่วมทุนในไทยเป็นโครงการที่ 2 “SYMYS Sukhumvit 61” ย่านทองหล่อ-เอกมัย

นางโสภิดา โองาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากมีโอกาสได้แต่งงานกับผู้ก่อตั้ง บริษัท ซันเคียว โฮม ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในแถบคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้เห็นมาตรฐานและโนว์ฮาวที่ยอดเยี่ยมของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสไตล์ญี่ปุ่นหลายเรื่อง และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ต้องการส่งมอบมาตรฐานและ โนว์ฮาวคุณภาพเหล่านี้ให้แก่คนไทย

ทั้งนี้ จึงได้ก่อตั้ง บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด ขึ้น เป็นบริษัทสัญชาติไทย 100% โดยใช้โนว์ฮาวจากซันเคียว โฮม ประเทศญี่ปุ่น และพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหลากหลายเซ็กเมนท์ในพื้นที่สุขุมวิทมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558

โสภิดา/มาเอดะ/วรวิทย์

ล่าสุด บริษัทกำลังจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการที่ 3 และเป็นโครงการร่วมทุนโครงการที่ 2 กับ บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ เคฮัง กรุ๊ป ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 100 ปี เจ้าของรถไฟฟ้าสายเคฮังเชื่อมโยงโอซาก้า-เกียวโต และอีกหลากหลายธุรกิจในแถบคันไซ โดยใช้ชื่อโครงการซิมมิส สุขุมวิท 61 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ 7 ชั้น มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท ในทำเลศักยภาพอย่างทองหล่อ-เอกมัย (ก่อนหน้านี้ได้ร่วมทุนโครงการแรกกับเคฮัง เรียลเอสเตท ชื่อ The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย)

“เราและเคฮัง เรียลเอสเตท ต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งมอบมาตรฐานและโนว์ฮาวการพัฒนาที่อยู่อาศัย แบบญี่ปุ่นให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย จึงตัดสินใจร่วมทุนกันเป็นโครงการที่ 2 โดยเราได้คัดสรรโนว์ฮาวที่เหมาะสม มาประยุกต์และต่อยอดให้เหมาะกับความต้องการของคนไทย” นางโสภิดา กล่าว

ด้านนาย โยชิฮิโกะ มาเอดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า เพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เคฮัง กรุ๊ป ได้ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดศักยภาพแถบเอเชีย โดยวางเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศ (Overseas Asset Size) ณ ปี 2570 ที่ 50,000 ล้านเยน (ราว 14,232 ล้านบาท)

ปัจจุบัน บริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเดินหน้าการลงทุนของ เคฮัง กรุ๊ป ในต่างประเทศ มีมูลค่าการลงทุนธุรกิจในต่างประเทศทั้งหมดกว่า 3,300 ล้านเยน (ราว 942 ล้านบาท) อาทิ โครงการที่อยู่อาศัยในไทยภายใต้การร่วมทุนกับพันธมิตรอย่าง บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด และโครงการกอล์ฟวิลล่าในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย

SYMYS Sukhumvit 61

“ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีปัจจัยต่างๆ โดดเด่นมากที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซียน มีความชอบ วัฒนธรรมคล้ายคลึงกับคนญี่ปุ่น มีการลงทุนสะสมจากบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมหาศาล เราเองยังเป็นพันธมิตรพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพร่วมกับ บริษัท ซันเคียว โฮม ในประเทศญี่ปุ่น มาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจในการร่วมทุนกับ บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จะมาช่วยเติมเต็มความฝันและความหวังในการมีที่อยู่อาศัยคุณภาพของคนไทย” นายโยชิฮิโกะ กล่าว

ด้านนายวรวิทย์ แซ่หลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า โครงการซิมมิส สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 อยู่บนพื้นที่ขนาดประมาณ 1 ไร่ 1 งาน 53.2 ตารางวา ประกอบด้วย อาคารสูง 7 ชั้น 1 อาคาร ยูนิตพักอาศัยแบบ 1-2 ห้องนอน ขนาด 33-88 ตารางเมตร(ตร.ม.) รวมจำนวน 109 ยูนิต มีชั้นใต้ดิน 3 ชั้นสำหรับที่จอดรถระบบ Auto Parking แบรนด์คุณภาพจากญี่ปุ่นกว่า 120 ช่องจอด หรือราว 113% ของจำนวนยูนิตพักอาศัย ราคาเริ่มต้นที่ 7.5 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 220,000-240,000 แสนบาท/ตร.ม.

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *