มีตัวเลขที่น่าสนใจในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ที่เพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 21-24 มีนาคมที่ผ่านมา งานนี้ลุ้นกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานว่าคนจะบางตากว่าครั้งก่อนๆ หรือเปล่า เพราะวันสุดท้ายของงานเป็นวันเลือกตั้ง แถมใกล้จะประกาศใช้มาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กลัวว่าหลายๆ คนอาจจะลังเล ขอรอดูไปก่อน แต่ยอดคนเข้างาน และยอดขายเพิ่มขึ้น 11.84% และ 10.58% ตามลำดับ
“ที่สำคัญงานนี้ส่วนใหญ่เป็นเรียลดีมานด์ คนที่มางานคือ คนที่ตั้งใจมาซื้อหรือมาดูบ้านอย่างเดียว ประเภทที่มางานขายโทรศัพท์แล้วแวะมาเดินดูพริตตี้งานขายบ้านนั้นปีนี้ไม่มี แต่สำหรับนักลงทุนอสังหาฯที่ยังหนังเหนียวอยู่ก็ยังมีให้เห็น”
ผู้จัดงานแจกแจงว่า ผู้ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในงานประมาณ 80% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และอีก 20 % ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งมองว่ามาตรการคุมสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อมากนัก เนื่องจากมาตรการจะเน้นไปที่บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาท และบ้านหลังที่ 2 จึงไม่ใช่ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคกลุ่มนี้
คอนโดมิเนียม ยังคงมียอดการซื้อขายมากที่สุดคิดเป็น 52.20% รองลงมาเป็น บ้านเดี่ยว คิดเป็น 16.87% และ ทาวน์เฮ้าส์คิดเป็น 10.71% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทที่ดินเปล่าและอื่นๆ 9.31% นอกจากนี้ ยังมีลูกค้ามาขอสินเชื่อในงานอีกกว่า 10,000 ล้านบาท
ด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยพบว่า 30.73% ต้องการที่อยู่อาศัยระดับ ราคา 2-3 ล้านบาท และ 23.99% ต้องการระดับ 1-2 ล้านบาท และอีก 18.31% ต้องการราคา 3-4 ล้านบาท มีเพียง 5.07% ที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
“จริงๆ ผู้ที่ต้องการบ้านราคาไม่เกินล้านบาทมีอยู่ไม่น้อยที่เข้ามาหาซื้อบ้าน คนกลุ่มนี้คือคนที่ไปขอสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังกับธอส.ไว้แล้ว แต่หาซื้อบ้านไม่ได้ เพราะในตลาดเอกชนนั้นแทบจะไม่มีของอยู่เลย เพราะต้นทุนมันทำไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องคิดต่อว่า นโยบายบ้านล้านหลังจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร”
เท่าที่คุยกันอยู่เห็นจะเป็นการให้ บีโอไอเข้ามาส่งเสริมการพัฒนาบ้านผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ยังหาจุดลงตัวกันไม่ได้สักที เรื่องนี้คงต้องตามกันยาวๆ
มาต่อกันที่ช่วงอายุของคนที่เข้ามาหาซื้อบ้าน พบว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Y ในช่วงอายุ 21-30 ปี 33.15% รองลงมาจะอยู่ในช่วงอายุ 31-40 ปี คิดเป็น 30.50% มีแค่15.45% ที่เป็นกลุ่ม Gen X ในช่วงอายุ 41-50 ปี ส่วนรายได้ต่อเดือน 34.09% มีรายได้อยู่ไม่เกิน 30,000 บาท และ 29.50% มีรายได้ ระหว่าง 30,000-50,000 บาท ส่วนที่มีรายได้เกิน 50,000 บาท จะอยู่ที่ 11.55%
ถ้าดูจากกลุ่มอายุ และรายได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะสามารถซื้อบ้านในราคา 1 ล้านกว่าๆ ไปจนถึง 3 ล้านบาท จะสอดรับกับงบประมาณที่ผู้เข้าชมงานตั้งไว้ว่าต้องการบ้าน 1-3 ล้านบาทมากที่สุด และต้องเป็นบ้านหรือคอนโด ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่วัยเริ่มทำงาน ถึงจะโดนใจ และมีโอกาสขายได้ดี