สำหรับคนที่กำลังวางแผนสร้างบ้านไม่ควรพลาดกับการไปชมงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2022 จัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน งานที่รวบรวมแบบบ้านใหม่ๆ กว่า 1,000 แบบ จากบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 ล้านบาทไปจนถึงหลัก 100 ล้านบาท ซึ่งงานในครั้งนี้จัดภายใต้แนวคิด “สร้าง-เปลี่ยน-โลก” ชวนทุกคนที่ต้องการมีบ้านใหม่ สร้างบ้านสวยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“แนวคิดของการจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2022 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-18 กันยายน 2565 ที่ อิมแพ็ค ฮอลล์ 6 เมืองทองธานี ก็เพื่อต้องการสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการสร้างบ้านที่นอกจากจะเน้นเรื่องความสวยงาม การออกแบบฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังต้องคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อโลกใบ อยากเห็นทุกคนในสังคมหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยสาเหตุหลักมาจากมนุษย์ที่ใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ในส่วนของการสร้างบ้านกระบวนการทำงานของบริษัทรับสร้างบ้านสามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่ต้องคำนึงถึงแดดและลมตามธรรมชาติที่จะนำมาใช้ภายในบ้านได้อย่างเพียงพอ เพื่อให้มีการลดใช้พลังงานภายในบ้าน หรือ ใช้เท่าที่จำเป็น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การนำพลังงานธรรมชาติมาใช้ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ไปจนถึงการก่อสร้างที่ช่วยลดมลภาวะต่างๆ ที่ส่งผลต่อสภาพอากาศและสภาวะแวดล้อม เช่น ขยะ น้ำเสีย เสียง และ PM 2.5″ นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านกล่าว
ไฮไลต์ของงานจึงเป็นการให้ความรู้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องบ้านประหยัดพลังงาน ที่จัดโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน รวมถึง การนำเสนอบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดโดยมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และบูธการเคหะแห่งชาติ นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น คูปองส่วนลด 5,000 บาท และ 10,000 บาท สำหรับจองปลูกสร้างบ้านในงาน รับส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อหนังสือ “รวมแบบบ้านสวยของบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ” ร่วมลุ้นทองคำ มูลค่ากว่า 300,000 บาท รวมทั้งโปรโมชั่นพิเศษจากบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำที่มาร่วมออกงาน
นอกจากโปรโมชั่นเด็ดๆ ที่คาดว่าแต่ละบริษัทจะจัดให้แบบเต็มๆ ไม่ว่าจะลด แจก แถม เพราะถือเป็นอีเวนต์งานรับสร้างบ้านสุดท้ายของปี แต่ที่ถือนอกเหนือไปกว่านั้น และถือเป็นช่วงเวลานาทีทองของการสร้างบ้านก็คือ ราคาบ้าน จะยังไม่ปรับขึ้นไปอีก แม้ว่าต้นทุนการก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลังจะยังปรับขึ้นไม่หยุดหย่อนรวมๆ แล้ว 3% แต่นายวรวุฒิ ก็มั่นอกมั่นใจว่า บริษัทรับสร้างบ้านจะยังพยายามตรึงราคา เพื่อไม่ให้ภาระตกไปถึงผู้บริโภคไปจนถึงปลายปีนี้ จังหวะนี้จึงยังเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการตัดสินใจสร้างบ้าน
ในขณะเดียวกัน สำหรับคนที่ยังต้องการใช้บริการสินเชื่อภายในงานก็มีธนาคารมาคอยให้บริการ 2 ราย ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารกสิกรไทย ซึ่งแน่นอนว่า ณ เวลานี้ดอกเบี้ยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ดอกเบี้ยอ้างอิงก็ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 0.25% และล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐก็มีแนวโน้มที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นไปอีก 0.75% (หลังจากปรับ 0.75% ติดต่อกันมาแล้ว 2 ครั้ง) ซึ่งจะกดดันให้ไทยต้องปรับดอกเบี้ยตาม ดังนั้นการตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงเวลานี้ ก็จะยังอยู่ในช่วงที่ดอกเบี้ยยังไม่ปรับขึ้นไปมากนัก และที่สำคัญ 2 ธนาคารที่มาร่วมให้บริการก็คงมีข้อเสนอพิเศษมาช่วยจูงใจด้วยเช่นกัน
สำหรับคนที่มีที่ดินเปล่าและต้องจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบเต็ม 100% ตั้งแต่ปี 2565 อาจจะรู้สึกว่า ภาระการจ่ายภาษีนั้นเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร จึงอยากจะหาช่องทางลดภาระการจ่ายภาษี ซึ่งส่วนใหญ่ที่เห็นทำกันอยู่ก็คือเปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์เป็นที่ดินเกษตร ซึ่งตอนนี้แต่ละท้องถิ่นก็พยายามจะเรียกเก็บภาษีจากที่ดินที่จงใจเปลี่ยนเป็นที่ดินเกษตรเพื่อลดภาระภาษีจึงมีความเสี่ยงที่จะหนีไม่พ้นกับการต้องจ่ายภาษีแพงๆ การเอาที่ดินที่มีอยู่ในปลูกสร้างบ้านจึงเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจในการช่วยแบ่งเบาภาระภาษีแม้อัตราจะได้ไม่ต่ำเท่าที่ดินเกษตร แต่ก็มีข้อยกเว้นให้เช่นเดียวกัน
ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น ถ้าเรามีที่ดินแต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร แต่ละปีเราจะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.3-0.7% ของราคาประเมินที่ดิน และถ้ายังคงเป็นที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ในปีต่อไปจะขึ้นเพิ่ม 0.3% ในทุก 3 ปี ไปจนชนเพดานที่ 3%
ถ้าเราเอาที่ดินนั้นมาทำเป็นที่ดินเกษตร ซึ่งต้องเข้ากับหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดจะเสีนภาษีในอัตรา 0.01-0.10% และที่ดินเกษตรที่มีมูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีที่ต่ำที่สุด แต่ตอนนี้หน่วยงานท้องถิ่นอย่างเช่น กรุงเทพมหานครพยายามจะหาช่องทางเก็บภาษีเพิ่มอยู่
ดังนั้น การนำที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาสร้างเป็นที่อยู่อาศัย เพื่อขยับขยายครอบครัว หรือยกให้บุตรหลานในช่วงนี้ก็จะช่วยลดภาษีภาระภาษีลงได้เช่นกัน โดยอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับที่ดินประเภทที่อยู่อาศัย ถ้าเป็นบ้านและที่ดินที่เจ้าของใช้เป็นที่อยู่อาศัยหลัก จะเก็บภาษีที่ 0.03-0.1% โดยบ้านและที่ดินราคารวมกันไม่เกิน 50 ล้านบาทจะได้รับการยกเว้นภาษี หรือถ้าเป็นบ้านที่ไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย จะเสียภาษีในอัตรา 0.02-0.1% มองมุมไหนก็ยังจ่ายภาษีถูกกว่าที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ และที่สำคัญเมื่อสร้างบ้านแล้วมูลค่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ก็จะปรับเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี
การนำที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาสร้างบ้านจึงเป็นทางออกที่จะช่วยลดภาระภาษี มีสินทรัพย์ส่งต่อให้ลูกหลาน และยังได้มูลค่าเพิ่มจากบ้านและที่ดินนั้นด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวทีเดียวทั้งหมดคือ เหตุผลดีๆ ที่ควรคิดตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงเวลานี้ครับ
ส่วนหลายคนที่ยังสงสัยว่าทำไมต้องใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้าน และจะเริ่มต้นอย่างไรกับการสร้างบ้าน อ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงค์นี้เลยครับ
สร้างบ้าน ตามสั่ง กับบริษัทรับสร้างบ้าน
5 คำถามสุดฮิตเมื่อคิดจะสร้างบ้าน