อสังหาฯเมืองเชียงใหม่ “ศิริปันนา กรุ๊ป” สวมหัวใจสิงห์ รุกลงทุนในกทม. ประเดิมโครงการแรก วันเดอร์ เกษตร คอนโดโลว์ไรส์ย่านงามวงศ์วาน เจาะเรียลดีมานด์ แหล่งงาน สถานศึกษา ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้าน
นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกภูมิทรัพย์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ในเครือศิริปันนากรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากเชียงใหม่ เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายการลงทุนจากธุรกิจโรงแรม และโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
สำหรับโครงการแรกเปิดตัวภายใต้แบรนด์ วันเดอร์ เกษตร (Oneder Kaset) พัฒนาบนที่ดินกว่า 4 ไร่ ย่านงามวงศ์วาน มูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาท เป็นคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 585 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 9 หมื่นกว่าบาท ถือเป็นราคาที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับคอนโดฯที่อยู่ในย่านใกล้เคียงกัน มีห้องชุด 3 แบบ ได้แก่ ขนาด 21.50-25.35 ตารางเมตร 27.95-28.85 ตารางเมตร และ 35-36 ตารางเมตร
ปัจจุบัน มียอดจองแล้วกว่า 52% ถือว่าสวนกระแสตลาดคอนโดฯที่อยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากอยู่ในทำเลที่ดีอยู่ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงพยาบาลวิภาวดี และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และใกล้รถไฟสายสีแดงสถานีบางเขน 200 เมตร โดยคาดว่าจะปิดการขายครึ่งหลังของปี 2565
“การขยายฐานลงทุนเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อขยายพอร์ตการลงทุนของกลุ่มศิริปันนากรุ๊ปให้กว้างขึ้น และสร้างฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยมองว่ากรุงเทพฯมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งอายุและอาชีพ เมื่อเทียบกับฐานลูกค้าในต่างจังหวัดที่มีจำกัด แม้จะมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ความต้องการซื้อก็สูงตาม จึงเลือกพัฒนาในทำเลที่มีดีมานด์จริงเป็นหลัก”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์จากเดิมโครงการออกแบบให้เป็นคอนโดมิเนียมแนวสูง 38 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท จำนวนมากกว่า 500 ยูนิต ราคาเฉลี่ยกว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิต แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องปรับรูปแบบโครงการ เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร ราคาเฉลี่ยกว่า 2 ล้านบาทต่อยูนิต
แม้กำไรหายไปประมาณ 40% แต่ดีกว่าขาดทุน ซึ่งในด้านดีจะช่วยให้เกิดการหมุนรอบของกระแสเงินสดที่ขึ้น เนื่องจากการพัฒนาโครงการคอนโดฯแนวสูง ใช้เวลาในการขายและก่อสร้างรวมเกือบ 4 ปี ซึ่งการปรับมาสู่คอนโดฯโลว์ไรส์ จะใช้เวลาการขายและก่อสร้างที่สั้นลง”
นายศุภมิตร กล่าวอีกว่า สำหรับแผนลงทุนโครงการใหม่คงต้องรอปีหน้า ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยจะเน้นขนาดโครงการที่เล็กลง เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มูลค่าโครงการไม่สูงเท่ากับโครงการแรก อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ยังคงใช้แบรนด์ Oneder เจาะกลุ่มลูกค้าไม่เกิน 2 ล้านบาท ในทำเลที่แตกต่างกันไป โดยพิจารณาในเรื่องของกำลังซื้อจริงเป็นหลัก
อ่านเพิ่มเติม
-Top 5 บริษัทอสังหาฯ กวาดรายได้ฝ่าวิกฤติโควิด-19
ติดตามช่อง Property Mentor Chanel ทาง YouTube
Property Mentor Line Official: https://lin.ee/nE9XYOo4