fbpx
shutterstock 4602344021

โหมเปิดโครงการใหม่เดือนส.ค.พุ่ง 89% บ้าน-คอนโด 2-5 ล้านยังขายดี

LPN Wisdom เปิดข้อมูลโครงการเปิดใหม่เดือนส.ค.พุ่ง 89% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. บ้านแนวราบ 2-5 ล้าน คอนโด 2-3 ล้าน ยังขายได้ดี เผยทำเลเทพารักษ์ บางพลี บางนา รัตนาธิเบศร์ บางบัวทอง บ้านใหม่ผุดพรึบ ส่วนคอนโด เกาะรถไฟฟ้าสายสีนน้ำเงิน ชมพู ส้ม ยังฮอต คาดไตรมาส 4 ผู้ประกอบการแห่ผุดโครงการต่อเนื่อง

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด หรือ LPN Wisdom:LWS บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่มาตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2563 ได้เริ่มทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 10,215 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 37,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% ทั้งจำนวนและมูลค่า เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่าน

“บ้านที่พักอาศัยแนวราบยังเป็นที่อยู่อาศัยที่มีการเปิดตัวสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้ง ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด จำนวน 5,594 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 54% ของจำนวนโครงการที่เปิดตัวทั้งหมดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่เหลืออีก 4,621 หน่วยเป็นคอนโดมิเนียม คิดเป็นสัดส่วน 46% ขณะที่อัตราการขายโครงการเปิดตัวใหม่เฉลี่ยในเดือนสิงหาคม (Absorption Rate) อยู่ที่ 23%” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

บ้านพักอาศัยแนวราบที่มีการเปิดตัวสูงสุดยังคงเป็นทาวน์เฮ้าส์ที่มีการเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 3,138 หน่วย และเป็นกลุ่มที่มียอดขายสูงสุดโดยเฉพาะที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาท โดยมียอดขายเฉลี่ยในช่วงเปิดตัวใหม่ที่ 18% ขณะที่คอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 30% เป็นคอนโดมิเนียมระดับราคาเฉลี่ย 2-3 ล้านบาทต่อหน่วย

การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้จำนวนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่สะสม 8 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-สิงหาคม 2563) อยู่ที่ 43,956 หน่วย มูลค่า 177,664 ล้านบาท ลดลง 34% ทั้งจำนวนและมูลค่าเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีกว่าช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ที่มีจำนวนการเปิดตัวและมูลค่าลดลง 43% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 ขณะที่ยอดขายเฉลี่ยเปิดตัวในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 18% ลดลงจาก 29% ในช่วงเดียวกันของปี 2562

ในขณะที่ทำเลที่มีการเปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมในเดือนสิงหาคม ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่การคมนาคมสะดวกและใกล้กับพื้นที่ชุมชน โดยแนวราบส่วนใหญ่การเปิดตัวโครงการใหม่จะอยู่ในพื้นที่โดยรอบวงแหวนรอบนอก อาทิ เทพารักษ์, บางพลี, บางนา, รัตนาธิเบศร์, บางบัวทอง ในขณะที่คอนโดมิเนียมอยู่ในแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (เตาปูน-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) และแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีส้ม (บางกะปิ-มีนบุรี-สุวินทวงศ์)

“ผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นหลังจากที่ชะลอการเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งแรกของปี เป็นผลมาจากสินค้าคงเหลือที่ลดลงผลจากการเร่งลดสต๊อกสินค้าด้วยแคมเปญทางการตลาดเพื่อลดภาระการถือครองสินค้าคงเหลือและเก็บเงินสด เพราะความไม่แน่ใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องทยอยเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เพื่อจะลดความเสี่ยงจากปริมาณสินค้าคงเหลือที่ลดลง พร้อมกับรักษาการจ้างงานกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอสังหาฯในอนาคต” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

ด้านนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า จากการจัดงาน Pre-Sales โครงการศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน อย่างเป็นทางการ ในราคาเริ่ม 3.69 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26-27 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างหนาแน่น สร้างปรากฏการณ์สวนกระแสอีกครั้ง! Sold Out 100% กวาดรายได้ 2,300 ล้านบาท จากจำนวนห้องพักอาศัย 384 ยูนิต