ต้นสัปดาห์นี้หลายคนเริ่มเตรียมตัว เตรียมความพร้อมกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งหลังจากที่ stay at home เก็บตัวมานาน ข้าวของ เสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้นาน และของที่ช็อปปิ้งออนไลน์มาแบบไม่ยั้ง ก็อาจจะล้นตู้ได้ จึงขอนำเสนไอเดียดีๆ เพื่อ DIY ตู้เสื้อผ้าด้วยตนเอง จัดระเบียบข้าวของต่างๆ ให้มีพื้นที่จัดเก็บตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ที่สวยงามและการใช้สอย
เริ่มต้นจากการจัดหมวดหมู่เสื้อผ้าและสิ่งของต่างๆ ที่มีก่อน โดยเสื้อผ้า แบ่งแยกย่อยเป็น เสื้อ กางเกง กระโปรง เดรส ชุดทำงาน ชุดออกงานที่เป็นทางการ ชุดลำลอง ชุดออกกำลังกาย ชุดว่ายน้ำ ชุดนอน และชุดชั้นใน แยกเครื่องประดับและแอคเซสเซอรี่ ผ้าขนหนูและเสื้อคลุมอาบน้ำ ก็ควรจัดแยกให้เป็นระเบียบ จากนั้นประเมินว่าเครื่องแต่งกายแต่ละชนิดมีปริมาณมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ง่ายต่อการแบ่งสัดส่วนพื้นที่จัดเก็บให้เพียงพอ โดยเลือกใช้ตัวช่วยด้านการจัดเก็บในตู้เสื้อผ้าที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
แต่หากใครต้องการที่จะซื้อตู้เสื้อผ้าใบใหม่เลย ก็ทำได้ด้วยตัวเองเช่นกันด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆ
ขั้นที่ 1 การวัดพื้นที่
วัดขนาดพื้นที่ที่จะนำตู้เสื้อผ้ามาวางว่ามีความกว้าง ความสูง และความลึกเท่าไร ซึ่งความลึกจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจว่าควรเลือกบานตู้เป็นบานเลื่อนหรือบานพับ
ขั้นที่ 2 เลือกโครงตู้
เลือกชุดประกอบของโครงตู้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ของห้อง และจำนวนโครงตู้ตามที่ประเมินการจัดเก็บไอเท็มต่าง ๆ ไว้ อย่าลืมเผื่อความสูงให้พอดีกับเพดานห้องด้วย เช่น ถ้าเลือกโครงตู้สูง 236 ซม. เพดานจะต้องสูงไม่น้อยกว่า 250 ซม. จึงจะพอดีเมื่อประกอบเสร็จ
ขั้นที่ 3 เลือกบานตู้
บานตู้แบบพับ เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ให้เปิดตู้ให้กว้างได้ สามารถมองเห็นและหยิบของทุกชิ้นได้อย่างสะดวก
บานตู้แบบเลื่อน มีข้อดี คือ ประหยัดพื้นที่ส่วนด้านหน้าตู้เสื้อผ้า เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก
นอกจากนี้ การเลือกบานตู้ยังช่วยให้ได้ตู้เสื้อผ้าที่มีสไตล์และฟังก์ชั่นที่ต้องการ เช่น บานตู้กระจกเงามีประโยชน์ใช้สอย ช่วยประหยัดพื้นที่ และยังเก็บของให้พ้นสายตาได้อีกด้วย บานตู้แบบปิดทึบเพื่อความมิดชิด หรือแบบกระจกใสเพื่อให้มองเห็นของข้างในได้ง่ายขึ้น หรือจะเลือกแบบไร้บานและตกแต่งเพิ่มเติมด้วยผ้าม่านที่เหมาะมากสำหรับตู้วอล์กอิน
ขั้นที่ 4 เพิ่มอุปกรณ์ยึดติดภายใน
เพิ่มอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อการจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบและคุ้มค่าในทุกพื้นที่ใช้สอย อาทิ ราวแขวนผ้า ชั้นวาง และลิ้นชัก ไปจนถึงตะกร้า ที่วางรองเท้า และถาดใส่เครื่องประดับ โดยคำนึงถึงของที่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน หยิบใช้ได้สะดวก และวิธีที่ดีที่สุดในการเก็บสิ่งของของให้เป็นระเบียบ
ขั้นที่ 5 เพิ่มการตกแต่งขั้นสุดท้าย
เพิ่มกล่องเก็บของ ตะกร้า และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วทั้งด้านในและด้านบนตู้เสื้อผ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด จัดเก็บทุกอย่างให้อยู่เป็นที่เป็นทาง และยังช่วยรักษาตู้เสื้อผ้าอีกด้วย รวมถึงแถบไฟในตู้เสื้อผ้าที่ช่วยให้หาของได้สะดวกขึ้น หรือจะเลือกติดไฟส่องตู้ไว้บนตู้เสื้อผ้าเพื่อเพิ่มบรรยากาศที่อบอุ่นสบายให้ทั้งห้องก็ได้ และองค์ประกอบสุดท้ายที่ห้ามลืม คือ มือจับหรือปุ่มจับ เพื่อสร้างสรรค์ตู้เสื้อผ้าในสไตล์ที่ใช่
เพียงเท่านี้เมื่อเริ่มสู่่โหมดใช้ชีวิตปรกติก็ไม่วุ่นวายแล้วครับ แต่หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นออกแบบพื้นที่จัดเก็บอย่างไร อิเกีย มีบริการออกแบบตู้เสื้อผ้าออนไลน์ ฟรี! เพียงส่งอีเมลมาที่ IKEA.TH.planning@ikano.asia ครับ