โครงการบ้านดีมีดาวน์ หนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อลดภาระให้กับประชาชนในการซื้อที่อยู่อาศัยจำนวน 100,000 คน
สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร โดยมีรายได้พึงประเมินในปีภาษี 2561 ไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี
ซึ่งรายได้พึงประเมินนี้ นอกจากรายได้จากเงินเดือนแล้วยังรวมไปถึงรายได้อื่นๆ ที่นำมาคำนวณภาษีด้วย เช่น รายได้จากค่าล่วงเวลา รายได้จากเงินโบนัส รายได้จากงานพิเศษอื่นๆ เป็นต้น
ส่วนที่อยู่อาศัยที่สามารถซื้อได้ต้องเป็นบ้านใหม่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่ซื้อจากผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่รวมที่อยู่อาศัยมือสองและทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ของสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ และไม่รวมทรัพย์รอการขายของกรมบังคับคดี
โดยสามารถซื้อได้ทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และอาคารพาณิชย์ ไม่จำกัดราคา และยังสามารถซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง หลังที่สามก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้กู้ และการอนุมัติของแต่ละธนาคาร
ขั้นตอนสำคัญอยู่ที่การซื้อบ้าน การขอสินเชื่อ และการโอนให้ได้ภายในเวลาที่รวดเร็ว เพราะอย่าลืมว่า การขอใช้สิทธิิ์ มีกติกาอยู่ว่า อยู่ใครขอก่อนได้ก่อน ดังนั้นการซื้อบ้านจะต้องคำนึงถึงราคาที่เหมาะสมกับรายได้
ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีรายได้ 30,000 บาท โดยไม่มีหนี้อย่างอื่นให้ต้องผ่อนรายเดือน จะสามารถผ่อนบ้านได้ 40% ของรายได้ หรือประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน สามารถขอวงเงินกู้ในการซื้อบ้านได้ 1.6 ล้านบาท เมื่อรวมเงินดาวน์แล้วราคาบ้านที่ซื้อก็ไม่ควรจะเกินไปกว่า 1.7-1.8 ล้านบาท แต่ถ้ามีภาระหนี้อย่างอื่นให้ผ่อนอยู่ด้วย วงเงินกู้ที่ได้จะลดลงตามไปด้วย
และเมื่อบ้านที่จะซื้อจะต้องเป็นบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ดังนั้นผู้ซื้อจะต้องเตรียมเงินไว้สำหรับโปะดาวน์ 5% ในกรณีที่ซื้อทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยว และ 10% ในกรณีที่ซื้อคอนโดมิเนียม และถ้าเป็นการซื้อบ้านหลังที่สองจะต้องเตรียมเงินดาวน์ 10-20% ส่วนบ้านหลังที่สามต้องเตรียมเงินดาวน์ไว้โปะ 30%
ในขั้นตอนของการขอสินเชื่อ นอกจากการซื้บ้านที่เหมาะสมกับรายได้ และการเตรียมเงินก้อนสำหรับการโปะดาวน์แล้ว สิ่งสำคัญที่จะต้องตรวจสอบ คือ ภาระหนี้ที่ผู้ซื้ออาจจะหลงลืม และอาจจะมีประวัติค้างชำระ โดยที่เราไม่รู้ตัว ให้ตรวจสอบกับเครดิต บูโร ให้เรียบร้อยก่อน ถ้ายังมีภาระหนี้ตกค้างก็ควรรีบเคลียร์ให้เรียบร้อย โดยประวัติการชำระนั้นจะอยู่ในรายงานเครดิตบูโร 3 ปี ซึ่งในระหว่างนี้อาจจะมีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ได้
เมื่อผ่านกระบวนการทุกอย่างตั้งแต่การซื้อ ขอสินเชื่อ โอนและจดจำนอง และลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ในเรียบร้อยแล้ว ระบบจะตรวจสอบตั้งแต่ การยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิ์ การอยู่ในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร การอนุมัติสินเชื่อที่นับตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 และการโอนกรรมสิทธิ์ที่ต้องไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2563 ถ้าผ่านทุกขั้นตอน รัฐจะจ่ายเงินคืนให้ 50,000 บาท ช่วยผู้ซื้อบ้านในช่วงที่เศรษฐกิจยังซบเซาได้อีกแรง