fbpx
tower เมืองไทยประกันชีวิต

เมืองไทยประกันชีวิต ขยับเติมพอร์ตอสังหาฯเพื่อการลงทุน

เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อการลงทุน ล่าสุดเผยโฉม 66 Tower อาคารสำนักงานเกรดเอ บนทำเลสุขุมวิท 66 พร้อมเล็งหาที่ดินในทำเล CBD ผุดโครงการใหม่ สร้างผลตอบแทนระยะยาว

เมืองไทยประกันชีวิต ได้เผยโฉมออฟฟิศแห่งใหม่ 66 Tower มูลค่า 3,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนโครงการที่ 2 ของเมืองไทยประกันชีวิตต่อจากอาคารเมืองไทย ภัทร คอมเพล็กซ์ บนถนนรัชดาภิเษก ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2537 โน้นเลย โดยนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า แม้ว่าเราจะสนใจการลงทุนอสังหาริมทรัพย์อยู่ตลอด แต่ทั้ง 2 โครงการก็ทิ้งช่วงห่างกันยาวนานพอสมควร แต่ในระยะ 3-5 ปีนี้ คาดว่าบริษัทจะมีการลงทุนเพิ่มอีก 1 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็มีความสนใจอสังหาริมทรัพย์อยู่หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ รีเทล หรือโครงการมิกซ์ยูส รวมไปถึงเฮลท์แคร์หรือเนอสซิ่งโฮม เป็นต้น แต่ต้องเป็นการลงทุนในระยะยาวที่ต้อง match กับแบบประกันที่มีอยู่ และที่สำคัญคือต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังและรอบครอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

สาระ ล่ำซำ

ปัจจุบันเมืองไทยประกันชีวิตมีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม การลงทุนทางตรงก็คือ โครงการออฟฟิศทั้ง 2 แห่ง ซึ่งมีมูลค่ารวมกันราวๆ 5,000-6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1% ของสินทรัพย์รวมที่มีอยู่ 600,000 ล้านบาท ส่วนการลงทุนทางอ้อม ได้แก่ การลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือ Real Estate Investment Trust: REIT ซึ่งมีอยู่กว่า 15 กอง กระจายการลงทุนในหลากหลายรูปแบบ คิดเป็น 3-5% ของสินทรัพย์รวม ซึ่งเมืองไทยประกันชีวิต ยังมองหาโอกาสในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ CBD ของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการหาที่ดินว่าจะมีความเหมาะสมกับการลงทุนมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม อสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสนใจอย่างแน่นอน เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว และสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัท

สำหรับโครงการใหม่ล่าสุด 66 Tower หรือ Sixty-six Tower เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้ซอยสุขุมวิท 66 ภายใต้คอนเซปต์ Human Centric Living Workplace มุ่งเน้นออกแบบพื้นที่โดยเน้นผู้ใช้งานอาคารเป็นศูนย์กลาง ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 4-2-32 ไร่ สูง 28 ชั้น พื้นที่เช่าทั้งหมดประมาณ 30,000 ตารางเมตร โครงการได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนตุลาคม ในปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมีบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CBRE เป็นตัวแทนในการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงานหลักของโครงการ ปัจจุบันมีอัตราการปล่อยเช่า (Occupancy Rate) อยู่ที่ระดับ 60% ในปีนี้ตั้งเป้าจะขยับ Occupancy Rate ให้ได้ 70% และปี 2567 ตั้งเป้าหมายไต่ระดับไปที่ 80-90%

tower เมืองไทยประกันชีวิต

66 Tower ออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นความทันสมัยควบคู่ไปกับความยั่งยืนเพื่อตอบโจทย์การใช้พื้นที่ของผู้เช่า โครงการเลือกใช้วัสดุที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและจัดให้มีพื้นที่สีเขียว สถานที่ตั้งซึ่งอยู่บนทำเลถนนสุขุมวิท ใกล้ซอยสุขุมวิท 66 ทำเลศักยภาพง่ายต่อการเชื่อมต่อย่านธุรกิจเศรษฐกิจชั้นใน (CBD: Central Business District) โซนธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC: Eastern Economic Corridor) สะดวกต่อการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าที่มีการสร้างสะพานเชื่อมโดยตรงกับรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สถานีอุดมสุข เข้ามายังตัวตึก รถโดยสารประจำทาง รวมถึงยังใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ทั้ง 3 สาย (ทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนบูรพาวิถี) และสามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ โครงการยังให้ความสำคัญในเรื่องของความสะดวกสบาย เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของผู้เช่าเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด ได้แก่ การออกแบบพื้นที่เช่าในรูปแบบ Column Free Design หรือพื้นที่เช่าแบบเปิดโล่งไม่มีเสากั้นกลางระหว่างพื้นที่ทำให้ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเกือบเต็ม 100% เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน และรองรับการเติบโตของธุรกิจของผู้เช่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ที่มากกว่าอาคารสำนักงานทั่วไป เช่น จำนวนห้องน้ำ จำนวนลิฟท์โดยสาร เป็นต้น และยังมีพื้นที่ Co-Working Space และห้องประชุมให้เช่าไว้อำนวยความสะดวก รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย การจัดการพลังงาน และระบบการควบคุมคุณภาพอากาศภายในอาคารทั้งการกรองฝุ่น PM 2.5 และการฆ่าเชื้อโรคด้วยเทคโนโลยี UVGI (Ultraviolet Germicidal Irradiation) ในระบบปรับอากาศ มาตรฐานเดียวกันกับที่ใช้ในโรงพยาบาลชั้นนำ และสนามบิน มาใช้อีกด้วย

สาระ ล่ำซำ เมืองไทยประกันชีวิต

66 Tower ได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการอสังหาริมทรัพย์ การันตีด้วยรางวัลต่างๆ ที่ได้รับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ จนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย

รางวัล “Award Winner Office Development Thailand” และ “Best Office Architecture Thailand” จากงาน Asia Pacific Property Awards ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเลิศในด้านการพัฒนาและการออกแบบอาคารสำนักงาน ในปี 2562-2563 และได้รับการรับรองมาตฐานสากลเป็นอาคารสีเขียว “LEED Green Building Certification with Gold standard” ที่เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในปี 2564

รางวัล “BSA Building Safety Awards 2022” ระดับ Gold” โดยสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร จากโครงการประกวดอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย ในปี 2565 และได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารด้านเทคโนโลยี “WiredScore” ระดับ GOLD เป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย เพื่อยืนยันความเป็นเลิศด้านการเชื่อมโยงดิจิทัลทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล วัดจากความสามารถในการเชื่อมต่อ (Connectivity) โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ความพร้อม (Readiness) และ นวัตกรรม (Innovation) ซึ่งได้รับในปี 2566

“เราเข้าใจพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้พื้นที่สำนักงาน ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในแง่ของการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบ hybrid-workplace และการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยในการทำงาน และหาแนวทางในการประยุกต์ใช้ระบบบริหารอาคารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งยังปรับเงื่อนไขการให้บริการต่างๆ ให้มีความยืดหยุ่นเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่ามากขึ้น ดังนั้น 66 Tower ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสะดวกต่อการเข้าถึงในเมืองและออกนอกเมืองได้สะดวก เหมาะกับทุกขนาดธุรกิจ ตั้งแต่ Start Up ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานที่มีคุณภาพและใส่ใจในการออกแบบเพราะเราคำนึงถึงผู้ใช้งานอาคารเป็นหลัก” นายสาระ กล่าว

รุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย

ด้านนางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯเริ่มมีความคึกคักในปีที่ผ่านมา และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีพื้นที่สำนักงานให้เช่าในตลาดเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 830,836 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสของผู้เช่าในการเลือกสำนักงานที่ตอบโจทย์ความต้องการ อีกทั้งจะทำให้ผู้เช่าได้เปรียบเป็นอย่างมากในการต่อรองหาเงื่อนไขการเช่าที่ดี อย่างไรก็ตาม อาคารสำนักงานยุคใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากล คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 94% ของอาคารสำนักงานใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีเป้าหมายที่จะพัฒนาเพื่อให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงมุ่งเน้นสุขภาวะที่ดีของผู้เช่าพื้นที่สำนักงานและผู้ใช้อาคารเป็นสำคัญ

“เทรนด์ที่ต้องจับตามองของตลาดอาคารสำนักงานยุคใหม่ คือการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและนำเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาใช้ เราจะเห็นได้ว่า บริษัททั้งไทยและต่างชาติจะยึดหลัก ESG (Environment, Social and Governance) และข้อกำหนดของสำนักงานเพื่อความยั่งยืนมากขึ้น ทั้งให้ความสำคัญและมีแนวโน้มผลักดันแนวคิดการดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG (Environmental, Social, and Governance) ด้วยการเลือกอาคารสำนักงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล สำหรับโครงการ 66 Tower มีการออกแบบพื้นที่สำนักงานตามมาตรฐานอาคารสำนักงานระดับเกรดเอ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับการรับรองมาตฐานสากลเป็นอาคารสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ LEED ระดับ Gold แต่ยังได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารด้านเทคโนโลยี หรือ WiredScore ระดับ GOLD อีกด้วย ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งของอาคารสำนักงาน”