fbpx
ปก ต้นทุน ดอกเบี้ย ขึ้น

ราคาบ้านยังขึ้นต่อ หลังต้นทุนก่อสร้างปรับยกแผง

ราคาบ้าน ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เปิดเผยดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 1 ปี 66 ปรับขึ้น 3.5% จากราคาวัสดุ และค่าออกแบบ/งานระบบที่ปรับขึ้นยกแผง

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน (คำนวณจากราคาค่าก่อสร้างแบบบ้าน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 169 ตารางเมตร ใช้สมมติฐานระยะเวลาการก่อสร้างบ้านไว้ประมาณ 180 วัน นับรวมค่าดำเนินการ และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว แต่ไม่นับรวมราคาที่ดินและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาที่ดิน) ในไตรมาส 1 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยพบว่าดัชนีราคาที่เพิ่มขึ้นมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบที่เพิ่มขึ้นทุกรายการ ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือหมวดงานสถาปัตยกรรมร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐานในกรุงเทพฯและอัตราการขยายตัว (ปี 2553 = 100.0)

นอกจากนี้ ในหมวดราคาวัสดุก่อสร้างได้มีการปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ทั้ง 7 รายการ ได้แก่ สุขภัณฑ์ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ กระเบื้อง เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ผลิตภัณฑ์คอนกรีต และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ โดยพบว่า ราคาสุขภัณฑ์มีการปรับเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 13.2 ในขณะที่ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ก็มีการปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13.0 ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการผลิตและภาคการขนส่งวัสดุก่อสร้าง ทำให้เกิดการส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปเป็นราคาค่าก่อสร้างที่อยู่อาศัย ขณะที่องค์ประกอบหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบได้ปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการเช่นกัน จึงมีผลให้ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 1 ปี 2566 มีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในไตรมาสนี้หมวดแรงงานยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

องค์ประกอบของดัชนีราคาค่าก่อสร้างแยกตามหมวดงาน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจำแนกต้นทุนของงานก่อสร้างหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบที่มีการปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการ จะพบว่า หมวดงานสถาปัตยกรรม ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 65.6 ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 ถือว่าเป็นหมวดที่มีการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 ขณะที่หมวดงานวิศวกรรมโครงสร้างมีสัดส่วนร้อยละ 28.0 ของหมวดงานออกแบบและงานระบบ มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ -0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565

สำหรับต้นทุนงานก่อสร้างหมวดวัสดุก่อสร้าง พบว่ามีรายการที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 จำนวน 3 รายการ ได้แก่ สุขภัณฑ์ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และกระเบื้อง โดยสุขภัณฑ์ มีสัดส่วนร้อยละ 2.0 ของหมวดวัสดุก่อสร้างเป็นรายการที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 ราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ มีสัดส่วนร้อยละ 16.7 ของหมวดวัสดุก่อสร้าง พบว่ามีการปรับราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 กระเบื้อง มีสัดส่วนร้อยละ 3.5 ของหมวดวัสดุก่อสร้าง ราคาปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นสูงถึง 14.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565

องค์ประกอบของดัชนีค่าก่อสร้าง แยกตามประเภทวัสดุก่อสร้าง

ส่วนเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก มีสัดส่วนร้อยละ 5.8 ของหมวดวัสดุก่อสร้าง เป็นอีกรายการที่ราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มีแนวโน้มการชะลอของการปรับขึ้นราคาโดยพบว่าลดลงร้อยละ -0.4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์คอนกรีต ที่มีสัดส่วนร้อยละ 4.3 ของหมวดวัสดุก่อสร้าง แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่พบว่าราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 ซึ่งทั้งสองรายการเป็นองค์ประกอบสำคัญของดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐานจึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงราคาต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 2566