fbpx
เลมอน ลี รองประธานฝ่ายขาย บริษัท โฟกัส มีเดีย ประเทศไทย จำกัด 1

โฟกัส มีเดีย รุกหนักลิฟท์แอดคอนโด-ออฟฟิศ

โฟกัส มีเดีย เดินหน้ารุกตลาดโฆษณาในลิฟท์ทั้งออฟฟิศ-คอนโดฯ เผยผลงานไตรมาสแรกปี 66 โตก้าวกระโดดมั่นใจถึงปลายปีกวาดยอด 250 ล้าน วางเป้าหมายทำกำไรต่อเนื่องปูทางเข้าตลาดหลักทรัพย์

นายเลมอน ลี รองประธานฝ่ายขาย บริษัท โฟกัส มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านสื่อโฆษณาในและนอกลิฟท์ (Lift Advertising/Elevator Media) อาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า ตลาดที่ประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นับจากเดือนกรกฎาคม 2565 ที่มีสื่อโฆษณา 3,000 จอ ถึงปี 2566 ในไตรมาสแรก จำนวนสื่อทะลุเกิน 10,000 จอ เป็นผลจากการขยายทีมงานจากแค่ 20 คน เป็นประมาณ 100 คนทำให้บุกตลาดได้มากขึ้น

ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทมียอดขายทั้งปีอยู่ที่ 20 ล้านบาท ขณะที่ปี 2566 แค่ไตรมาสแรกยอดขายก็ทะลุ 20 ล้านบาทไปแล้วจึงตั้งเป้าหมายทั้งปีไว้ที่ 250 ล้านบาท ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่าจะทำได้เมื่อขยายทีมงานได้เพียงพอและเชื่อใน Business Model จากประสบการณ์ 20 ปีในจีน

นายเลมอนกล่าวว่า โควิดไม่มีผลต่อตลาดมากนักเพราะ INDOOR MEDIA ไม่เหมือน OUTDOOR MEDIA แม้ช่วงล็อคดาวน์ถึงอย่างไรก็ต้องใช้ลิฟท์ ความจริงเป็นโอกาสของ INDOOR MEDIA ด้วยซ้ำจึงมีผลให้ตลาดเติบโตในช่วงนี้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บุคลากรยังไม่พอเพียงสำหรับการเจาะตลาดและการติดตั้งจอในช่วงไตรมาสสองจึงต้องปรับจังหวะให้เหมาะสม ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2565 บริษัทได้ปรับขนาดจอโฆษณาจากเดิมมีขนาด 21 นิ้ว ให้มีความเด่นชัดขึ้นเป็นขนาด 25-32 นิ้ว และฉายวิดีโอได้ โดยจอโฆษณานี้มีทั้งในลิฟท์ นอกลิฟท์ และลิฟท์ที่จอดรถ เป้าหมายถึงสิ้นปีคือ 15,000-18,000 จอ โดยจะมุ่งเป้าอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ตของค่ายต่างๆ ทั่วประเทศ หัวเมืองสำคัญ อาทิ จังหวัดชลบุรีที่มีอยู่แล้ว 700 จอ จะขยายตลาดให้ถึง 5,000 จอ ส่วนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็ยังมีโอกาสอีกมากเพราะประเมินว่ายังมี INDOOR MEDIA ไม่ถึง 50,000 จอ

รองประธานฝ่ายขายโฟกัส มีเดีย ยังอธิบายถึง 4 ปัจจัยที่หนุนให้การโฆษณาในลิฟท์มีความโดดเด่น ได้แก่ 1.กลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท และเป็นกลุ่มคนทำงานในเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมคือผู้ใช้ลิฟท์ที่มีโอกาสเห็นจอโฆษณามากที่สุด 2.มีเส้นทางการเดินทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตประจำวันที่ต้องใช้ลิฟท์ในคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงาน 3.ลิฟท์คือพื้นที่ปิด คนเข้าลิฟท์ไม่รู้จักกันมีแต่จอโฆษณา ความสนใจจึงอยู่ที่จอเท่ากับถูกบังคับให้ดู 4-8 ครั้งต่อวัน 4.ในพื้นที่ปิด ด้วยความถี่ที่สูงทำให้เกิดประสิทธิภาพต่อการรับรู้ได้เป็นอย่างดี

“ในชีวิตประจำวันแม้สายตาจะถูกดึงดูดจากป้ายโฆษณาและโทรศัพท์มือถือ แต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่เป็นที่จดจำ ในขณะที่ลิฟท์คือสิ่งที่ต้องเผชิญตั้งแต่เริ่มงานจนเลิกงาน” นายเลมอนกล่าว

สำหรับตลาดโฆษณาในไทยมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี(ประมาณ 100,000 ล้านบาท) แบ่งเป็นสื่อโทรทัศน์ 50% สื่ออินเตอร์เน็ท 20% สิ่งพิมพ์และโรงภาพยนตร์ 10% สื่อ Out of Home (OOH) 10-12% ซึ่งงานของโฟกัส มีเดียอยู่ในกลุ่ม OOH โดยตลาดโฆษณาของไทยวันนี้เหมือนกับตลาดจีนเมื่อ 10-15 ปีก่อน

นายเลมอนกล่าวในตอนท้ายว่า เป้าหมายของบริษัทคือต้องการแชร์ส่วนแบ่งการตลาด 2-3% เมื่อต้นปีซีอีโอของโฟกัส มีเดียจากประเทศจีนมาประชุมกับทีมงานไทยมีการคุยกันถึงการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย นั่นหมายถึงต้องทำกำไรต่อเนื่อง 3 ปี และต้องมียุทธศาสตร์ในระยะยาวซึ่งบริษัทกำลังหาผู้ร่วมงานด้านการเก็บและวิจัยข้อมูลมาช่วยสร้างความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

อนึ่ง บริษัท โฟกัส มีเดีย(ประเทศไทย) จำกัด อยู่ในเครือของบริษัท โฟกัส มีเดีย ประเทศจีน ซึ่งบริษัทแม่ที่จีนนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดในจีนเกินกว่า 1 แสนล้านหยวน(5 แสนล้านบาท) มียอดขาย 16,000 ล้านหยวนต่อปี ปี 2548 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กที่สหรัฐอเมริกา ปี 2549 ติดท็อป 100 ของแนสแด็ก ปี 2558 ถอนจากตลาดแนสแด็กไปจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2560 โฟกัส มีเดีย เริ่มขยายออกต่างประเทศในแถบเอเชียที่เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย และไทย ปี 2564 สาขาเกาหลีใต้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นจุดเปลี่ยนให้บริษัทแม่ที่จีนให้ความสำคัญต่อตลาดต่างประเทศมากขึ้นทั้งด้านเงินทุนและบุคลากร โดยเฉพาะในสิงคโปร์และไทยที่มีตลาดหลักทรัพย์