fbpx
100364 รับสร้างบ้าน FOCUS 2021 1108 1 scaled

งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 ตอบโจทย์ทุกความต้องการสร้างบ้าน

ใครกำลังวางแผนสร้างบ้านไม่ควรพลาดไปงานนี้ “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023” งานแสดงแบบบ้านและบริการรับสร้างบ้านจากบริษัทที่ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านโดยตรง จัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นงานที่มัดรวม 32 บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคม นำเสนอแบบบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบกว่า 1,000 แบบ หลากหลายระดับราคาตั้ง 1 ล้านบาทไปจนถึงกว่า 100 ล้านบาท พร้อมบริการรับสร้างบ้านและที่ขาดไม่ได้คือ โปรโมชั่นพิเศษ ที่มีให้เลือกช็อปภายในงาน

นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า สำหรับงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 มีนาคม 2566 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สร้างบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ” เป็นงานที่รวบรวมบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมมานำเสนอบริการแบบครบวงจร และที่เพิ่มสีสันให้กับงานก็คือ บริษัทรับสร้างบ้านจากภูมิภาคที่เข้ามาร่วมงานในจำนวนที่มากขึ้นทำให้ลูกหลานของคนต่างจังหวัดที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯมีทางเลือกที่จะวางแผนสร้างบ้านที่ต่างจังหวัดได้ง่ายขึ้น

อีกหนึ่งสีสันที่ขาดไม่ได้สำหรับงานรับสร้างบ้านที่จัดขึ้นทุกครั้งก็คือ โปรโมชั่นภายในงาน โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นทุนปรับสูงขึ้นส่งผลให้บ้านจะต้องปรับราคาประมาณ 5-10% แต่เราจะตรึงราคาเอาไว้อย่างน้อยๆ ในไตรมาสแรก ทำให้ภายในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 ยังคงเป็นบ้านราคาเดิม โดยที่แต่ละบริษัทแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเอาไว้แทน และยังมีโปรโมชั่นที่แต่ละบริษัทจัดให้ไม่ว่าจะเป็นการลด แลก แจก แถม ที่ต้องมีเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ารีบตัดสินใจ

นอกจากนี้ ทางสมาคมยังมีโปรโมชั่นกลาง สำหรับผู้ที่จองปลูกสร้างบ้านภายในงานจะได้สิทธิ์ลุ้นรับทองคำแท่งมูลค่ารวมกว่า 180,000 บาท และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า จะได้รับ ฟรี e-Book New Home Designs 2023 ฟรี พร้อมคูปองส่วนลดมูลค่าสูงสุด10,000 บาท นอกจากบริษัทรับสร้างบ้านที่มาร่วมออกงานแล้ว ยังมีบริษัทวัสดุก่อสร้างที่จะมานำเสนอเทรนด์วัสดุ ตกแต่งใหม่ๆ สำหรับใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งบ้าน และยังมีสถาบันการเงินที่จะนำเสนอสินเชื่อพิเศษภายในงานนี้อีกด้วย เรียกว่า มีบริการครบจบในที่เดียว

นายโอฬาร ยังกล่าวอีกว่า สมาคมพยายามสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งมีความแตกต่างจากการสร้างกับผู้รับเหมาก่อสร้าง แม้ว่าราคาของบริษัทรับสร้างบ้านอาจจะสูงกว่าสักประมาณ 10% แต่สิ่งที่จะได้จากบริษัทรับสร้างบ้านก็คือมาตรฐาน เพราะบริษัทรับสร้างบ้านจะมีทั้งสถาปนิกที่คอยให้คำปรึกษา และวิศวกรคุมงานก่อสร้าง ส่วนบริษัทรับเหมาเขาก็คุมกันเอง นอกจากนี้บริษัทรับสร้างบ้านเป็นนิติบุคคลมีสำนักงานที่ตั้งเป็นหลักแหล่งหากเกิดปัญหาอะไรก็ตามตัวได้ และมีผลรับผิดชอบตามกฎหมายและสัญญาที่ตกลงไว้กับลูกค้า ขณะที่ผู้รับเหมาส่วนใหญ่เป็นบุคคลเวลาทิ้งงานก็ตามตัวกันได้ลำบาก

นอกจากนี้ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับคนที่ต้องการสร้างบ้านควรต้องรีบตัดสินใจสร้าง ก่อนที่ราคาบ้านจะปรับขึ้น ซึ่งแนวโน้มของราคาวัสดุก่อสร้างหลายรายการยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้อีก ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มปรับขึ้นด้วยเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอยู่ที่ 2% ภายในปี 2566 (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.5%) ซึ่งจะส่งผลต่อดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะปรับขึ้นตาม (ปัจจุบัน ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ประมาณ 7%+-) นอกจากนี้ ภาระจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก็มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต

การนำที่ดินมาปลูกสร้างบ้านก่อนที่ราคาบ้านจะขึ้น ดอกเบี้ยจะขยับ และต้องจ่ายภาษีที่ดินมากขึ้นถ้าหากที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงเป็นช่วงเวลาที่ควรรีบตัดสินใจ

รู้ก่อนตัดสินใจสร้างบ้าน
รู้หรือไม่การสร้างบ้านกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านโดยตรงมีข้อดีอยู่หลายข้อดังนี้
-ได้รับบริการจากมืออาชีพ ทั้งสถาปนิก วิศวกร ทีมการตลาด ที่สามารถให้บริการทั้งแต่การเตรียมงาน การออกแบบ การก่อสร้างไปจนถึงการขอสินเชื่อ
-สามารถเลือกแบบที่ถูกใจ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามที่ต้องการ
-มีสัญญามาตรฐานที่ควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
-ระยะเวลาส่งมอบที่กำหนดชัดเจน
-งบประมาณไม่บานปลาย เพราะถูกกำหนดไว้ในสัญญา

สร้างบ้านโดนใจไร้กังวล ต้องเตรียมตัวอย่างไร
เงื่อนไขแรกเลยคือเราต้องมีที่ดินเป็นของตัวเอง แน่นอนว่า การสร้างบ้านบนที่ดินที่มีอยู่ ทำให้ได้อยู่ในพื้นที่หรือทำเลที่คุ้นเคย อยู่ในบริเวณเดียวกับสมาชิกของครอบครัวแบบไทยๆ

สำหรับคนที่ไม่มีที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ก็ยังพอมีทางเลือกอื่นๆ เช่น บริษัทรับสร้างบ้านบางแห่งก็มีบริการจัดหาที่ดินให้ หรือจะออกแรงหาซื้อเองก็มีหลายแหล่งให้เลือกซื้อ เช่น แหล่งรวมที่ดินในออนไลน์ สินทรัพย์หลุดจำนองของกรมบังคับคดี หรือสินทรัพย์ NPA ((Non Performing Asset) ของสถาบันการเงินต่างๆ เป็นต้น

กรณีที่ซื้อที่ดินเองไม่ว่าจะเลือกซื้อจากแหล่งไหน ก็ควรดูที่ดินที่อยู่ในพื้นที่บริการสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ที่สะดวก เข้าถึงง่าย มีทางเข้าออกที่ชัดเจน ไม่อยู่ในพื้นที่เปลี่ยว และโดดเดี่ยวจนเกินไป ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมด้วยหรือเปล่า เพราะที่ดินที่อยู่ในทำเลที่ดีย่อมมีผลต่อการประเมินสินเชื่อของธนาคารด้วยเช่นกัน

วางแผนด้านการเงิน ที่ผ่านๆ คนที่จะปลูกสร้างบ้านเองมักจะมีฐานะการเงินที่มั่นคง มีรายได้ที่ดีพอจนไม่จำเป็นต้องกู้ธนาคาร แต่สำหรับคนรายได้ปานกลาง เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว ก็สามารถสร้างบ้านเองได้ เพราะปัจจุบันมีหลายธนาคารให้บริการสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้าน ยิ่งถ้าที่ดินเป็น NPA ของธนาคารเอง ก็จะมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มอีกต่างหาก

แต่ถึงอย่างไร เราก็ต้องมีเงินก้อนสักประมาณ 20% ของราคาบ้าน เนื่องจากวงเงินสินเชื่ออาจจะปล่อยแค่ 90% ของราคาที่ดินและค่าปลูกสร้าง นอกจากนี้ การปล่อยสินเชื่อสร้างบ้าน ธนาคารจะทยอยให้ตามสัญญาเงินกู้เป็นงวดๆ ตามความคืบหน้าของการปลูกสร้าง ดังนั้นจึงต้องมีเงินเตรียมไว้สำหรับการก่อสร้างในงวดแรกก่อน การออมเงินไว้ล่วงหน้าจะทำให้เราคล่องตัวขึ้น

ควรเลือกบริษัทที่ดีมีคุณภาพ ดูจากผลงานที่ผ่านๆ มา ทีมงานที่เป็นมืออาชีพ ทั้งสถาปนิก วิศวกรที่มีเพียงพอ ไปจนถึงคนงานก่อสร้างต้องมีทักษะในงานที่ดี เราสามารถเช็คประวัติการทำงานได้ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ หรือเช็คไปที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ในกรณีที่บริษัทนั้นๆ เป็นสมาชิกของสมาคม

เทรนด์บ้านยุคใหม่
สำหรับเทรนด์การสร้างบ้านมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ตามกระแสความนิยม และการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คนส่วนใหญ่ต้องการพื้นที่ในบ้านที่เพิ่มขึ้น เพราะมีประสบการณ์จากการต้องกักตัวใช้เวลาอยู่กับบ้านยาวนานขึ้น ต้องทำงานที่บ้าน ต้องเรียนออนไลน์ ต้องเข้าครัวทำอาหารกันมากขึ้น พื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ห้องทำงาน ห้องเอนกประสงค์ ไปจนถึงการให้ความสำคัญกับห้องครัวที่ต้องใช้งานได้จริงจัง

นอกจากพื้นที่ภายในบ้านแล้ว พื้นที่รอบๆ บ้าน พื้นที่สีเขียว เป็นอีกส่วนหนึ่งที่คนให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะต้องการใช้เป็นพื้นที่สำหรับการผ่อนคลาย โดยที่ไม่ต้องออกไปนอกบ้าน ขณะที่ส่วนของที่จอดรถก็มีความต้องการเพิ่มขึ้นจากจอดรถ 1-2 คัน ปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มเป็น 3 คัน และต้องมีที่ชาร์จรถอีวีรองรับ ตามกระแสการประหยัดพลังงาน รวมทั้งการติดตั้ง โซลาร์ รูฟ การนำนวัตกรรม เพื่อลดความร้อน นวัตกรรมสำหรับการระบายอากาศ และเทคโนโลยี โฮม ออโตเมชั่น สิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านยุคใหม่ ขณะเดียวกัน บ้านจะต้องรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงวัย ทั้งเรื่องของฟังก์ชั่นการออกแบบที่รองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุตามเทรนด์สังคมผู้สูงวัย

หากจะสร้างบ้านที่ใช่ในสไตล์ที่ชอบ ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ต้องไม่พลาดสำหรับงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 มีนาคม 2566 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 ที่เดียวครบจบทุกความต้องการสร้างบ้านครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3Ik02xX