fbpx
เอสซี แอสสเท

เอสซี แอสเสทขยายธุรกิจเต็มพิกัด ตั้งเป้า 5 ปี โกยรายได้ 1.5 แสนล้าน

เอสซี แอสเสท วางยุทธศาสตร์ 5 ปี โกยรายได้ 1.5 แสนล้าน ปี 2566 เตรียมผุด 25 โครงการใหม่ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ขยายฐานบ้านลักชัวรี่ ราคาเริ่มต้น 100 ล้าน พร้อมลุยตลาดนิชเปิดตัวบ้านเกมเมอร์ รองรับวิถีการทำงานของคนรุ่นใหม่ เตรียมเปิดคอนโดแบรนด์ใหม่ราคา 2 ล้าน ย่านศูนย์วัฒนธรรม และศรีปทุม ตั้งเป้าเติมรายได้ระยะยาวด้วยการขยายลงทุนโรงแรม-แวร์เฮ้าส์ ตั้งเป้ายอดขายเตะ 3 หมื่นล้าน โดยรายได้ 2.5 หมื่นล้าน

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาธุรกิจและองค์กร 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2566-2570 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 150,000 ล้านบาท ภายใต้ยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond เติบโตอย่างมีคุณภาพ แบบเหนือชั้น และยั่งยืน มุ่งสร้างคุณค่า สู่คนและโลก โดยจะดำเนินธุรกิจภายใต้ 4 แกนหลัก คือ ลูกค้า พนักงาน สิ่งแวดล้อม และองค์กร

ในส่วนของลูกค้าบริษัทจะส่งมอบสินค้าทั้งบ้านและคอนโดและบริการที่มีคุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยหลากหลายราคา รูปแบบการใช้ชีวิต และเจเนอเรชั่น เพื่อลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดี ไร้ความกังวลในการใช้ชีวิต โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนการเปิดโครงการใหม่รวม 25 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ 22 โครงการ รวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท เป็นหมายรักษาการผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวคุณภาพสูงด้วยไฮไลท์โปรดักส์ คือ

#No1LuxuryHome ในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 95E1(ไนน์ตี้ไฟว์อีสต์วัน)บ้านแบรนด์ใหม่ในเซ็กเมนต์ Ultimate Luxury ราคาสูงสุดที่เคยเปิดขายมาด้วยราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท มีจำนวนจำกัดเพียง 10 ยูนิต มูลค่าโครงการ 970 ล้านบาท

#OneSizeDoesNotFitAll จากการตอบรับอย่างดีมากของ “บ้านคนโสด” บริษัทจะตอกย้ำการพัฒนาบ้านที่ออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ที่มีความเฉพาะบุคคลด้วยการเปิดตัว #บ้านเกมเมอร์ (Gamer’s Home) ร่วมออกแบบโดยเกมเมอร์ชื่อดัง Willcomeback และ MNJ TV

เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านในสายอาชีพยุคใหม่มาแรง อย่าง Streamer หรือ Content Creator ทั้งหลาย พร้อมเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ณ โครงการ Venue ID มอเตอร์เวย์-พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท และมีโครงการพัฒนาบ้านที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ Introvert และ Extrovert ในอนาคต

#SCHomesForAll สร้างบ้านตอบโจทย์ลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มราคา โดยจะมีสินค้าบ้านเปิดขายในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.5 ล้านบาท ไปจนถึงมากกว่า 150 ล้านบาท ด้วยการเปิดตัวบ้านซีรีส์ใหม่ของแต่ละ Sub-brand เพื่อลงแข่งขันครองความเป็นผู้นำบ้านเดี่ยว

สำหรับโครงการแนวสูงจะเปิด 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย คอนโดแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนหนึ่งของ Living Solutions เพื่อประสบการณ์การพักอาศัยที่ดีขึ้น ในสังคมที่เน้นความยั่งยืน บน 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม มูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท ราคาเริ่ม 2 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งเป็น Segment ใหม่ของ SC ส่วนอีกทำเลคือ เกษตร-ศรีปทุม ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม ติดรถไฟฟ้า 0 เมตร มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เน้นงานดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อคนเมืองรุ่นใหม่

พร้อมกับเปิดตัวคอนโด SCOPE ประสานมิตร เจาะกลุ่มลูกค้า International Premium ที่ให้ความสำคัญกับทั้งคุณภาพและดีไซน์ ในระดับ World-class ใช้ชีวิตในแบบ “Live the Finest Life” หรือชีวิตที่สุขสบายและสวยงามพร้อมไปด้วยบริการระดับ Premium ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท

นอกจากนี้ เอสซียังสานต่อการสรรหาและคิดค้นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีในการส่งมอบ Living Solutions แก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน เพื่อลูกค้าจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยแผนในปี 2566 คือ การติดตั้งชุดเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยในบ้านและคอนโด ทั้งหมด 24 รายการ ให้กับลูกค้า SC Asset ตามเป้าหมายคือไม่ต่ำกว่า 5,000 ครัวเรือนในปี 2566 พร้อมเปิดตัว Morning Coin เชื่อมต่อลูกค้ากับโลกแห่งสิทธิพิเศษแบบเหนือชั้น ด้วยนวัตกรรม Blockchain โดยมีเป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และมีความมั่นใจปลอดภัยในคอมมูนิตี้ที่ดีของ “รู้ใจคลับ” พร้อมใช้งานกลางปี 2566

นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายตัวเลขสำคัญต่างๆ ดังนี้

-ยอดขาย 30,000 ล้านบาท เติบโต 23% โดยแบ่งเป็น โครงการเพื่อขายแนวราบ 65% และโครงการเพื่อขายแนวสูง 35%

-รายได้รวม 25,000 ล้านบาท เติบโต 16% ทั้งจากโครงการเพื่อขาย และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในสัดส่วน 95 : 5 ตามลำดับ

-ลงทุน 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 80% ลงทุนโครงการเพื่อขายแนวราบ-แนวสูง และ 20% ในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ และเพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน

One page copy

ทั้งนี้บริษัทได้วางแผนเพิ่มการลงทุน และเริ่มดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยจะเปิดตัวโรงแรม YANH ราชวัตร รับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Workcation Hotel” รองรับวิถี Remote Working ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยหลังโควิด-19 พร้อมเปิดให้เข้าพักแล้วในเดือนมีนาคม 2566

นอกจากนี้จะพัฒนาแบรนด์โรงแรมใหม่ บนถนนสุขุมวิท 29 มูลค่าการลงทุน 2,500 ล้านบาท และยังมีแผนในการขยายธุรกิจโรงแรมในทำเลพัทยา เพื่อไปให้ถึงเป้ารวมจำนวน 1,000 keys ส่วนอาคารสำนักงานจะมีการปรับปรุงอาคารที่มีอยู่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า มีพื้นที่รวมกันถึง 120,000 ตร.ม.

โรงแรม YANH ราชวัตร

นอกจากนี้ หลังจากการประกาศความร่วมมือกับบริษัท Flash Express ไปเมื่อปี 2565 บริษัทวางแผนขยายธุรกิจคลังสินค้าโดยตั้งเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ Warehouse ให้ได้ 1,000,000 ตร.ม.ภายในปี 2573

“SC Thriving Beyond คือเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนใน 5 ปีนี้ของ SC โดยหัวใจสำคัญ คือการสร้างคุณค่า เพื่อเติบโต “ร่วมกัน” ไปกับสิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจของ SC คุณค่าจะกลับมาสร้างกำไรให้องค์กร และกำไรจะกลับไปสร้างคุณค่าให้ผู้คนรอบข้าง ต่อเนื่องอย่างยั่งยืน” นายณัฐพงศ์ กล่าวสรุป