fbpx
RXV Overview

มั่นคงฯเปิดตัว ‘รักษ วิลเลจ สามพราน’ ขยายฐานลูกค้ารับเทรนด์รักสุขภาพมาแรง

หลังจากประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเบนเข็มลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและการบริการ เพื่อสร้าง Recurring Income พร้อมกับชะลอการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเอาไว้จนกว่าสถานการณ์จะเอื้ออำนวย ล่าสุดมั่นคงเคหะการก็ได้เผยโฉมโครงการรักษ วิลเลจ สามพราน (RXV) โครงการที่ 2 ภายใต้แบรนด์ รักษ ตอกย้ำการรุกเข้าสู่ธุรกิจเวลเนสอย่างเต็มตัว

“เทรนด์ของการดูแลสุขภาพในไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยที่การแพร่ระบาดของไวรัวโควิด-19 มีส่วนกระตุ้นให้คนไทยหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่บริษัทก็มองหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจสุขภาพให้ทุกคนเข้าถึงได้ สามารถดูแลครอบคลุมทุกความต้องการด้านสุขภาพของทุกเพศทุกวัยควบคู่ไปกับการผลักดันให้เกิดความตระหนักรู้ในการดูแลสุขภาพในแบบที่เหมาะสมกับคนแต่ละคน การพัฒนาโครงการ RXV จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของมั่นคงในการรุกตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่กำลังมาแรง” นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการบริหาร ซึ่งเป็นผู้ดูแลและบริหารงานด้านธุรกิจสุขภาพ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าว

ดุษฎี ตันเจริญ และพันธมิตรโครงการ รักษ วิลเลจ สามพราน

รักษ วิลเลจ สามพราน ได้ถูกต่อยอดมาจากโครงการ รักษ เวลเนส บางกะเจ้า เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นเน้นไปที่ลูกค้าคนไทยที่เป็นกลุ่มครอบครัวและกลุ่มองค์กร โดยได้เล็งเห็นศักยภาพเชิงพื้นที่ของสวนสามพรานที่เอื้อต่อการเป็นจุดหมายด้านการพักผ่อนที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก โอบล้อมด้วยธรรมชาติเงาร่มไม้ใหญ่บนพื้นที่ทั้งหมด 100 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน มีพื้นที่ฟาร์มเกษตรอินทรีย์อีกกว่า 30 ไร่ มีความพร้อมทั้งทางด้านพื้นที่และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

ปัจจุบันสวนสามพรานบริหารงานโดยทายาทรุ่นที่ 3 ที่ถูกส่งต่อธุรกิจจากพื้นที่สวนกุหลาบที่ถูกขนานนามว่า โรส การ์เด้น เมื่อ 60 ปี ก่อน สู่การเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม ถูกต่อยอดเป็นเกษตรออแกนิกส์ ขยายไปสู่เรื่องของสุขภาพและความยั่งยืน พร้อมๆ กับการ Transform สวนสามพรานจาก Tourist Destination มาเป็น Wellness Destination ซึ่งเป็น Ecosystem ที่เชื่อมต่อไปถึง รักษ

“เราเริ่มจากการเป็นผู้ส่งสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ออแกนิกส์ให้กับโครงการรักษ เวลเนส บางกะเจ้า ได้ทำงานร่วมกันและเข้าใจแนวทางของรักษเป็นอย่างดี เมื่อทางรักษต้องการขยายธุรกิจและเห็นว่าสวนสามพรานเป็นทำเลที่มีศักยภาพ จึงได้ตัดสินใจให้เช่าพื้นที่ในส่วนของโรงแรมโรส การ์เด้น เพื่อพัฒนาเป็นโครงการรักษ วิลเลจ สามพราน” นายอนัฆ นวราช ทายาทรุ่นที่ 3 ของสวนสามพรานกล่าว

มั่นคงเคหะการใช้งบลงทุน 700 ล้านบาท ในการรีโนเวท โรส การ์เด้น บนเนื้อที่ 12 ไร่ ปรับโฉมพื้นที่เดิมให้เป็นสถานที่แห่งการพักผ่อนและดูแลสุขภาพภายใต้แนวคิด “Everyone’s Wellness” ที่จะทำให้เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สนุกและเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเบื้องต้นจะเน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยเป็นหลัก

“เราจึงเดินหน้าพัฒนาพื้นที่แห่งนี้โดยใช้จุดแข็งจากองค์ความรู้ด้านบริหารจัดการธุรกิจเวลเนสและศาสตร์การแพทย์แบบองค์รวมที่มั่นคงมี บวกกับความแข็งแกร่งในด้านศาสตร์ทางการแพทย์ที่สมัยใหม่จากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมกับพันธมิตรอย่างสวนสามพราน โดยมีการปรับปรุงเป็นห้องพักทั้งหมด 150 ห้อง จะเปิดให้บริการในเฟสแรกจำนวน 83 ห้อง ในราคาเริ่มต้น 4,000-15,000 บาท พร้อมเนรมิตพื้นที่สำหรับกิจกรรมดูแลสุขภาพ (Wellness Zone) ขึ้นใหม่อีกกว่า 4,000 ตารางเมตร รองรับการให้บริการดูแลสุขภาพแบบผสมผสาน” นางสาวดุษฎี

รูปแบบการให้บริการสุขภาพของ โครงการรักษ วิลเลจ สามพราน ได้ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพและการพักผ่อนของทุกวัย เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นดูแลสุขภาพไปจนถึงผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ดูแลสุขภาพแบบจริงจัง ทั้งกลุ่มที่เป็นครอบครัว และลูกค้าองค์กรซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมของสวนสามพราน และโรงแรมโรส การ์เด้น ที่สนใจจัดงานสัมมนาควบคู่ไปกับโปรแกรมการดูแลสุขภาพในรูปแบบองค์กร

“เรามองว่ากลุ่มลูกค้าองค์กร (Corporate Wellness) จะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักที่จะมุ่งเจาะตลาดคิดเป็นสัดส่วน 60% ของลูกค้าทั้งหมดและอีก 40% แบ่งเป็นลูกค้าที่มาจาก Online Travel Agents และลูกค้าที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ตั้งเป้ารายได้ 250 ล้านบาทในปี 2566 โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ ซึ่งเราตั้งเป้าให้ รักษ วิลเลจ สามพราน เป็น New Health & Lifestyle Destination ใกล้กรุงแห่งใหม่ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไทยต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาการขยายธุรกิจเวลเนส ไปยังพื้นที่ต่างๆ เพิ่มเติมอีกด้วย” นางสาวดุษฎี กล่าว