fbpx
Screenshot 2021 02 22 135734

พฤกษา ผนึกรพ.วิมุต ผุดบ้านรับเทรนด์รักสุขภาพ-สังคมสูงวัย

พฤกษาต่อยอดธุรกิจผนึกรพ.วิมุต ผุดโครงการบ้านสุขภาพดี รับเทรนด์คนรักสุขภาพ-สังคมผู้สูงวัย ประเดิมเปิดโครงการในกลุ่มอเวนิว 3 ทำเล บางนา แจ้งวัฒนะ รังสิต เผยปี 64 ลุยเปิดโครงการใหม่ 29 โครงการ 2.6 หมื่นล้าน พร้อมอัดโปรแรงปลุกกำลังซื้อต่อเนื่อง

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 29 โครงการ มูลค่า 26,630 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ มูลค่า 14,680 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 7,560 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ 4,390 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้ายอดขายและรายได้ในปี 2564 ไว้เท่ากันที่ 32,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 45% และ 9% ตามลำดับ

สำหรับปีนี้ บริษัทได้วางกลยุทธ์ “A Year of Value” เพื่อขับเคลื่อนองค์กร ประกอบด้วย 1.การบริหารจัดการสินทรัพย์ โดยการใช้กลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ปล่อยแคมเปญในไตรมาสแรก “มหกรรมแจกฟรี PRUKSA FREE FEST” มอบสิทธิ อยู่ฟรี นานสูงสุดถึง 36 เดือน หรือ ดอกเบี้ยฟรี 0% สูงสุด 36 เดือน หรือ ฟรี ค่าส่วนกลาง สูงสุดนานถึง 36 เดือน (เงื่อนไขตามที่แต่ละโครงการกำหนด) ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจ และช่วยบรรเทาความกังวลสำหรับคนที่อยากมีบ้านได้ดี

2.การสร้างคุณค่าในโครงการ โดยเข้าถึงความต้องการลูกค้าในเชิงลึก พร้อมนำเสนอและส่งมอบสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังมีคุณค่าด้านอื่นๆ ที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่หลากหลาย เช่น ร้านอาหาร ไลฟ์สไตล์มอลล์ และ 3.การร่วมมือกับโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือพฤกษา เปิดศูนย์ดูแลสุขภาพ ประกอบด้วยคลีนิค ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) ในโครงการพฤกษาเพื่อสร้างชุมชนให้น่าอยู่และตอบสนองการใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างครบวงจร

สำหรับธุรกิจสุขภาพซึ่งจะเป็นส่วนที่เข้ามาช่วยในด้านการตลาดกับธุรกิจที่อยู่อาศัย ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ในเรื่องสุขภาพ และสังคมผู้สูงวัย สำหรับโครงการที่จะมีทั้งศูนย์ดูแลสุขภาพ และมีคอมเมอร์เชียลโซนอยู่ภายในโครงการจะเป็นโครงการประเภทอเวนิว ซึ่งในปีนี้จะเปิดที่ บางนา แจ้งวัฒนะ และรังสิต คลอง 3

พฤกษา

นายปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ 21,968 ล้านบาท รายได้ 29,244 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,771 ล้านบาท มีการเปิดตัวโครงการทั้งสิ้น 13 โครงการ มูลค่า 15,756 ล้าน มียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่าสูงถึง 21,940 ล้านบาท โดยสามารถลดสินค้าคงค้างไปได้ถึง (Inventory) ได้ 41% จากปลายปี 2562

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาส 4 ที่ใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาผนวกกับโครงการฮีโร่โปรเจค (Hero Projects) โดยทุ่มงบการตลาดไปยังโครงการที่มีศักยภาพสูง ทำให้รายได้ในไตรมาส 4 มีมูลค่า 9,584 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาส 3 ถึง 51% พร้อมทั้งทำยอดขาย 5,807 ล้านบาท เติบโต 409% เมื่อเทียบกับยอดขายไตรมาสเดียวกันในปี 2562

ด้วยผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.96 บาท โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.31 บาท จึงคงเหลือจ่ายเงินปันผลในรอบนี้ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท โดยจะนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน 2564

สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม ทั้งด้านเศรษฐกิจ ภาคการส่งออกและท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการจัดหาวัคซีนให้ทั่วถึงที่จะเป็นตัวแปรสำคัญ แต่ยังเชื่อมั่นว่าภาพรวมตลาดในปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 9%

ขณะที่มาตรการรัฐที่ขยายระยะเวลาลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% ถือเป็นกำไรเพิ่มอีกขั้นสำหรับลูกค้า อย่างไรก็ตาม เห็นว่าหากภาครัฐมีการขยายเพดานไปยังบ้านราคา 3-5 ล้านบาทด้วย มาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และช่วยเหลือคนไทยที่อยากมีบ้านได้มากขึ้นไปอีก

ด้านนายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมุต โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าธุรกิจโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน ว่า จะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ โดยโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ 4 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน ติดสี่แยกสะพานควาย เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ (Tertiary Care) ที่สามารถรักษาโรครุนแรง และซับซ้อนได้ ขนาด 18 ชั้น จำนวน 236 เตียง

โรงพยบาลออกแบบตามมาตรฐานสากล JCI มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รักษาได้ตรงจุดด้วยเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยมีค่าใช้จ่ายที่เข้าถึงได้ มีศูนย์เฉพาะทางที่โดดเด่นคือ ศูนย์กระดูก หัวใจ สมอง ศูนย์เบาหวานครบวงจร และจัดตั้ง ศูนย์ผู้สูงอายุ (Geriatric center) เพื่อตอบโจทย์การเป็นสังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งให้ความสำคัญกับกลุ่มโรค NCDs (โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) ซึ่งมีสถิติการเจ็บป่วยสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว มีแพทย์ประจำครอบครัว (Family Medicine Doctor) ดูแลสมาชิกในครอบครัวแบบองค์รวม มี Transitional care ฟื้นฟูหลังการเจ็บป่วย เพื่อเตรียมผู้ป่วยก่อนกลับบ้าน รวมทั้งเปิด Nursing Home ในโรงพยาบาล

เพื่อการเติบโตและก้าวหน้าของธุรกิจโรงพยาบาล ล่าสุดโรงพยาบาลวิมุตได้เข้าลงทุนในโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงเชี่ยวชาญในด้านโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อมานานกว่า 36 ปี โดยเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ 51% เพื่อรวมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และองค์ความรู้มา พัฒนาศูนย์เบาหวานครบวงจรให้มีความเป็นเลิศ รวมทั้งขยายผล การป้องกัน ดูแลรักษา สู่สังคมให้กว้างขวางยิ่งขึ้นต่อไป และในอนาคตจะมีการเปิดโรงพยาบาลเพิ่มเพื่อให้มีโรงพยาบาลตามแผนที่วางไว้ 5-8 ปี รวม 3 แห่ง โดยอาจจะเป็นการสร้างใหม่หรือการร่วมลงทุน