ศุภาลัย ลุ้นยอดโอน 2 เดือนสุดท้าย ดันรายได้แตะเป้า 24,000 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการ 9 เดือน มีรายได้รวม 12,362 ล้านบาท
บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 และ รอบ 9 เดือนของปี 2563 โดยระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 บริษัทรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 5,824.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.64 ล้านบาท หรือประมาณ 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น บ้านและทาวน์เฮ้าส์ 66% และที่เหลือ 34% เป็นอาคารชุด โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดจํานวน 2 โครงการในไตรมาส 3 ปี 2563 เป็นต้นมา ขณะที่กําไรสุทธิในไตรมาส 3 เท่ากับ 1,216.57 ล้านบาทลดลง 53.60 ล้านบาท หรือประมาณ 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอัตรากําไรขั้นต้นปรับลดลงเล็กน้อย
ขณะที่ผลประกอบการในงวด 9 เดือนของปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 12,362.73 ล้านบาท ลดลง 3,853.43 ล้านบาท หรือประมาณ 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการโอนบ้านและทาวน์เฮ้าส์ 74% และที่เหลือ 26% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด สาเหตุหลักที่ทำให้รายได้ลดลงมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่เกิดขึ้นในวงกว้างช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2563 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทมีโครงการอาคารชุดที่สร้างเสร็จและครบกําหนดโอนกรรมสิทธิในครึ่งหลังของปี 2563จํานวน 4 โครงการ โดยได้เริ่มโอนไปจํานวน 2 โครงการ ในไตรมาส 3 ปี 2563 จากเหตุผลข้างต้น ทําให้กำไรสุทธิสําหรับงวด 9 เดือน เท่ากับ 2,386.62 ล้านบาท ลดลง 1,177.07 ล้านบาท หรือประมาณ 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 3,563.69 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมียอดสัญญาที่ลูกค้าซื้อบ้านและ/หรืออาคารชุดพักอาศัยแล้วแต่ยังไม่ถึงกําหนดโอนให้ลูกค้า (backlog) รวม 40,527 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและสามารถรับรู้เป็นรายได้ในอีก 3 เดือน
ข้างหน้าในปี2563 จํานวน 8,431 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 32,096 ล้านบาท จะทะยอยโอนในอีก 4 ปีถัดไป
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทจะพยายามโอนกรรมสิทธิ์ให้ได้ตามเป้า 24,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานสูงที่สุดของปีนี้และดีกว่าไตรมาส 3 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จาก backlog ในไตรมาสสุดท้ายอีกประมาณ 8,431 ล้านบาท จาก backlog ที่มีอยู่ทั้งหมด 40,000 ล้านบาท เพราะมีโครงการขนาดใหญ่ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ ได้แก่ โครงการศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 มูลค่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งต้องดูว่าใน 2 เดือนสุดท้ายจะสามารถโอนได้ตามเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่ ขณะที่ในปี 2564 จะมี backlog ที่จะรับรู้รายได้อีกกว่า 14,000 ล้านบาท
ส่วนยอดขายในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัททำไปได้แล้ว 20,422 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% ของเป้าหมายยอดขาย 26,000 ล้านบาท โดยยอดขายที่เติบโตขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดขายคอนโดมิเนียม 3 โครงการใหม่ที่ประสบผลสำเร็จด้านยอดขายในช่วงที่ผ่านมา โดยในปีนี้บริษัทมีการเปิดโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 29 โครงการ เป็นคอนโด 3 โครงการ และเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 29 โครงการ แบ่งเป็นโครงการในกทม.-ปริมณฑล 11 โครงการ และภูมิภาค 15 โครงการ ซึ่งในปี 2564 คาดว่าจะเปิดโครงการในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดในปีนี้ถือเป็นปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ดีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมียอดขายที่ลดลงมากถึง 30-50% ขณะที่จำนวนโครงการเปิดใหม่ก็ลดลงเหลือประมาณ 30-40% ของโครงการใหม่ในปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้จะเป็นปีที่จำนวนยูนิตที่ขายออกไปสูงกว่าจำนวนการเปิดโครงการใหม่ ซึ่งจะทำให้ซัพพลายส่วนเกินถูกดูดซับออกไป
เร่งโอนบิ๊กโปรเจ็กต์ ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39
ด้านนายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมส่งมอบบิ๊กโปรเจ็กต์ โครงการ “ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39” คอนโดมิเนียมหรู พร้อมอยู่ใจกลางสุขุมวิท ภายใต้แนวคิด “Luxurious Modern Oriental” มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท
การออกแบบโครงการศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 ได้ประยุกต์ศาสตร์ฮวงจุ้ย (FENG SHUI) มาใช้ในการออกแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งทุกอาคารจะมีพื้นที่โล่งล้อมรอบ และเลือกใช้ หน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงจากภายนอก เข้าสู่ภายในอาคาร โดยยังคงเอกลักษณ์อาคารประหยัดพลังงาน ขนาดของห้อง คำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งาน ได้อย่างสะดวกสบายคล่องตัว และยืดหยุ่น
สำหรับโครงการ ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 จะเริ่มทะยอยโอนให้ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้ในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้เป็นต้นไป ด้วยความโดดเด่นด้านความคุ้มค่า ควบคู่คุณภาพ ที่หาได้ยากบนทำเลใจกลางสุขุมวิท ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ บนทำเลใจกลางสุขุมวิท สามารถเข้าออกได้ทั้งถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เชื่อมต่อสู่ถนนธุรกิจสายสำคัญ อาทิ มีท่าเรือด่วนอิตัลไทย ทองหล่อ อโศก ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีมักกะสัน MRT สถานีเพชรบุรี เชื่อมต่อ Airport Rail Link และทางด่วนด่านเพชรบุรี
ภายในโครงการมีอาคารชุดพักอาศัย 4 อาคาร สูง 25 ชั้น 2 อาคาร สูง 35 ชั้น 2 อาคาร และอาคารจอดรถ สูง 9 ชั้น โดยมีห้องพัก 1,046 ยูนิต ร้านค้า 8 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 5.5 ล้านบาท โดยมีห้องพักอาศัยตั้งแต่แบบ 1-3 ห้องนอน และ Penthouse 4 ห้องนอน ขนาด 39-355 ตร.ม. รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวมากกว่า 3 ไร่ และที่จอดรถมากถึง 100% ของจำนวนยูนิต
สำหรับผู้สนใจเชิญชมห้องตัวอย่าง “ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39” ภายในงาน Oriental Open House วันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2563 ณ Sales Gallery พร้อมพบสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนฯ