แสนสิริ-อนันดา ปลื้มใจยอดขาย-โอน ครึ่งปีแรกทะลุเป้า สวนกระแสตลาดช่วงเชื้อโควิดระบาดหนัก เผยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จ ต้องเปิดเกมรุก ขยับตัวเร็ว ตอบสนองอินไซต์ลูกค้าได้ตรงจุด และขยายตลาดในทุกช่องทาง พร้อมเดินหน้าต่อในครึ่งปีหลัง
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกบริษัทมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้ว 25,220 ล้านบาท นับว่าเป็นยอดโอนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแสนสิริ โดยแบ่งเป็นยอดโอนในไตรมาสแรก 8,535 ล้านบาทและยอดโอนในช่วงไตรมาสสอง 16,685 ล้านบาท นอกจากนี้ ยอดโอนในไตรมาสที่ 2 ยังทุบสถิติยอดโอนสูงสุดที่เคยทำได้ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดโอนโครงการแนวราบเติบโตขึ้นจากปีก่อน 59% และโครงการคอนโดมิเนียมมียอดโอนโตกว่า 299%
“ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก มาจากการขยับและเดินเกมเร็วนำหน้าคู่แข่ง การมีกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ด้วยการคิดและนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า รวมถึงการรุกการขายในทุกช่องทาง ผ่าน Multi-channel เพื่อตอบโจทย์คนอยากมีบ้านในยุคโควิดในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้แสนสิริต้องเร่งการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ให้เร็วกว่าแผนเดิม เพื่อแข่งขันกับสภาพตลาด (Speed to Market) รวมถึงการบริหารเงินสดในมือที่ดี (Cash is King) ยังส่งผลให้แสนสิริเป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องสูง มีกระแสเงินสดที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจส่งผลให้มียอดขายและยอดโอนถล่มทลาย สวนกระแสตลาดหดตัว” นายอภิชาติ กล่าว
สำหรับในปีนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริมีพันธกิจในการโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพให้กับลูกค้าตามเป้าหมายการโอนใหม่ที่มีการปรับเพิ่มจาก 33,000 ล้านบาท เป็น 39,000 ล้านบาท และเป้าหมายล่าสุด 42,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นยอดการโอนที่สูงมากในอันดับต้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทสามารถสร้างยอดโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าได้กว่า 25,220 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดี่ยวกันของปีก่อนถึง 152% และคิดเป็น 60% จากเป้าหมายการโอนใหม่ 42,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจึงเหลือการโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 16,780 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้านดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 2 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ 4,918 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 3,842 ล้านบาท ถึง 28% ทำให้ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกนั้น มีจำนวน 9,272 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 56% ของเป้าหมายทั้งปี 2563 เนื่องจากอนันดาได้บุกตลาดมากขึ้น ผ่านช่องทางออนไลน์ “ANANDA iStore” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ในรูปแบบ New Normal ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีมาก
จากยอดขายที่สูงกว่าเป้าหมายในครึ่งปีแรกนั้น ทำให้บริษัทเตรียมทบทวนปรับเป้าหมายของทั้งปี 2563 และยังมองว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 นั้นมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีการควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ในระดับต่ำ จนส่งผลให้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจค่อยๆ เข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ตลอดจนมาตรการต่างๆ จากภาครัฐ เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้รับประโยชน์จากปัจจัยข้างต้น และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2563