ในช่วงครึ่งปีหลังตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ น่าจะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุด นั่นเป็นเพราะกระแสของ New Normal ที่เกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับพื้นที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งตลาดบ้านแนวราบสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้และเริ่มเห็นตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐเริ่มคลายล็อคดาวน์ ผู้ประกอบการแต่ละค่ายจึงต่างหมายมั่นปั้นที่จะชิงยอดขายในตลาดแนวราบด้วยการส่งโครงการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังกันอย่างคึกคัก
อย่างล่าสุด เอพี (ไทยแลนด์) ได้เตรียมนำ 18 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ CENTRO, THE CITY และ THE PALAZZO มูลค่ารวม 20,430 ล้านบาท มาตอกย้ำ ความเป็น “บ้านที่เข้าใจชีวิต” ที่ออกแบบมาจากอินไซต์ของลูกค้า ผ่านแคมเปญ “HOMEMADE STORY ทำบ้านให้เป็นมากกว่าบ้าน” โดยจับมือกับ ศิลปินค่าย LOVEiS & FRIENDS และ 7 ยูทูปเบอร์ชื่อดัง ร่วมนำเสนอแนวคิดการใช้ชีวิตจริงในพื้นที่ภายในบ้านและส่วนกลางในบริบทใหม่ เพื่อถ่ายทอดผ่านซีรีย์ 13 ตอนพิเศษ
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขายสินค้าแนวราบใน 6 เดือนแรกได้แล้วกว่า 12,810 ล้านบาท (เฉลี่ยยอดขายต่อสัปดาห์ไม่ต่ำกว่า 490 ล้านบาท) คิดเป็น 60% จากเป้ายอดขายแนวราบทั้งปี 22,500 ล้านบาท แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบทุกภาคส่วน รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวเมือง แต่ในช่วงเวลาการรณรงค์อยู่บ้าน (STAY AT HOME) สินค้าแนวราบเครือเอพียังสามารถตอบสนองทุกๆ มิติการใช้งานจริง ทั้งลูกค้าปัจจุบันรวมถึงลูกค้าใหม่ที่มองหา ‘บ้าน’ ที่มีพื้นที่และสเปซฟังก์ชันที่มากกว่า รองรับการทำกิจกรรมของสมาชิกทุกคนในครอบครัว และยังมีพื้นที่ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัว เมื่อต้องอยู่ร่วมกันเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน
“ทั้งหมดนี้ถือเป็นแกนทำงานในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเครือเอพี โดยเฉพาะสินค้า ‘บ้านเดี่ยว’ ที่ทุกพื้นที่ทั้งภายในบ้านและพื้นที่ส่วนกลางได้รับการออกแบบจากความเข้าใจถึงอินไซต์ความต้องการบ้านเดี่ยวในแต่ละโลเคชั่น เพื่อนำเสนอทั้งคอนเซ็ปต์ดีไซน์ แบบบ้านพร้อมสเปซฟังก์ชันภายใน รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถรองรับได้ทุกการใช้งานร่วมกันของสมาชิกครอบครัวหลายช่วงวัย ทั้งเป็นโรงเรียนของลูก ร้านอาหารของครอบครัว ฟิตเนสส่วนตัวของคุณแม่ หรือ ออฟฟิศของคุณพ่อ เป็นต้น ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นมิติสำคัญของ ‘สเปซฟังก์ชัน’ ในบ้าน ที่ต้องตอบการใช้ชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงในยุค Next Normal
เอพีเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อบ้านของลูกค้าครอบครัวเมืองต่อจากนี้ไป ร่วมกับการพิจารณาปัจจัย ‘ทำเล’ และ ‘แพ็คเกจราคาขายที่จับต้องได้’ ที่เป็นพื้นฐานเดิม” นายวิทการ กล่าว
ด้านนางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แคมเปญ ‘HOMEMADE STORY ทำบ้านให้เป็นมากกว่าบ้าน’ จะสื่อสารวิธีคิดและการทำงานของบ้านเดี่ยวเครือเอพี ที่มุ่งส่งมอบ ‘บ้านที่เข้าใจชีวิต’ อย่างแท้จริง โดยเราได้ทำงานร่วมกับ 8 ศิลปินจากค่ายเพลง LOVEiS & FRIENDS และ 7 ยูทูปเบอร์ชื่อดัง ที่เป็นตัวแทนสมาชิกในบ้านครบทุกเจเนอเรชั่น เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจ และโมเมนต์ความสุขที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตจริงในบ้านเดี่ยวเครือเอพี ทั้ง 3 แบรนด์หลัก ได้แก่
CENTRO บ้านสำหรับการเริ่มต้นของครอบครัว THE CITY บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ และ THE PALAZZO ลักชัวรี่แฟล็กชิพคฤหาสน์หลังใหญ่ โดยเรื่องราวต่างๆ จะถูกนำเสนอผ่านเสียงเพลง และกิจกรรมสร้างสรรค์ในรูปแบบที่แตกต่างกัน ออกมาเป็นซีรีย์ HOMEMADE STORY ทั้งหมด 13 ตอนพิเศษ ที่จะเผยแพร่ผ่าน Facebook และ Youtube “APThai” ประเดิมตอนแรกวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม-31 สิงหาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความสุข เสียงหัวเราะ พร้อมไอเดียต่อยอดการใช้ชีวิตวิถีใหม่ในบ้านอย่างแน่นอน
ขณะที่กลุ่มบ้านแนวราบของบริษัท พฤกษา ก็เริ่มขยับตัวมากขึัน โดยนายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท ทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ในเดือนช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้มีการออกแคมเปญกระตุ้นยอด “พฤกษาทาวน์เฮ้าส์ให้มากกว่า” โดยมอบสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ อยู่ฟรีไม่ต้องผ่อนนานถึง 2 ปี ฟรีทองคำ ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน สำหรับลูกค้าที่จองทาวน์เฮ้าส์พฤกษาพร้อมอยู่ จำนวน 112 โครงการที่เข้าร่วมทั่วประเทศ และโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563
จากแคมเปญดังกล่าวสามารถทำยอดขายได้จำนวน 660 ยูนิต มูลค่ารวม 1,730 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1,500 ล้านบาท ถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้พฤกษาสามารถครองแชมป์ยอดขายกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ได้อย่างต่อเนื่อง และหลังจากสถานการณ์โควิด 19 เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ประชาชนทั่วไปกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ลูกค้าเริ่มมีความเชื่อมั่นและมียอดเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงเดือนก่อนหน้า คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็จะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ในครึ่งปีหลังบริษัท มีแผนจะเปิดโครงการทาวน์เฮ้าส์ใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านพฤกษา ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ, บ้านพฤกษา เทพารักษ์-เมืองใหม่ และ เดอะคอนเนค เพชรเกษม 69 มูลค่ารวม 3,700 ล้านบาท และถ้าสภาวะเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น บริษัทก็มีโครงการในมือที่พร้อมจะเปิดขายเพิ่มเติม โดยในส่วนของโครงการทาวน์เฮ้าส์ของพฤกษาได้มีการปรับดีไซน์ ฟังก์ชั่น และพื้นที่ใช้สอยที่สอดรับกับการใช้ชีวิตแบบ New Normal ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ขณะที่ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร และดร.นวณัฐ สุขะมงคล รองประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป เตรียมที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ในโซนลาดพร้าว ภายใต้บริษัท วิจิตรา ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ชื่อ THER (เธอ) ลาดพร้าว 93 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ “บ้านของฉัน คือ เธอ” ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท ถือเป็นโครงการแรกใจกลางกรุงเทพฯของแพทโก้ กรุ๊ป
ก่อนหน้านี้ บริษัทอสังหาฯรายใหญ่อย่าง แสนสิริ ศุภาลัย เอสซี แอสเสท ออริจิ้น ก็เตรียมที่จะเปิดเกมรุกในตลาดบ้านแนวราบครึ่งปีหลังกันอย่างพร้อมหน้า ทำให้สรภูมิบ้านแนวราบร้อนนับจากนี้ร้อนระอุขึ้นอย่างแน่นอน
