fbpx
maingate 7 D3 2 scaled

ลลิล เปิด 2 โครงการบ้านแนวราบ รับกระแส New Normal

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมรับ New Normal เผยโฉมโครงการล่าสุด ‘ลลิล ทาวน์ แลนซิโอ คริป และ ไลโอ บลิสซ์ บางนา-เทพารักษ์’ บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมคุณภาพ ติดถนนหลักใจกลางย่านธุรกิจ มูลค่ารวม1,800 ล้านบาท จับกำลังซื้อ real demand โซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และสนามบินสุวรรณภูมิ

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ได้ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปกลายเป็น New Normal ที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการเว้นระยะห่าง (Physical distancing) การทำงานและเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน (Work-Learn from Home) รวมถึงกิจกรรมบางอย่างที่มีการปฏิสัมพันธ์กันก็จะมี New Way of Life ที่จะเชื่อมต่อกันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาพบปะกัน โดยการหันมาใช้ระบบออนไลน์ทดแทน ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิม

“เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป จากที่เคยให้ความสำคัญในเรื่องของ Sharing Economy มีการแชร์พื้นที่ แชร์สินค้าและบริการกัน เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 มีการล็อคดาวน์ ความต้องการจึงเปลี่ยน กลับมาต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นเพื่อตอบ New Normal ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ของการดีไซน์และฟังก์ชันของการอยู่อาศัย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งเป็นตลาดของกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand)” นายชูรัชฏ์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และหลังการแพร่ระบาด โดยการพัฒนาสินค้าให้สามารถปรับเปลี่ยนทั้งดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ได้มีการออกแบบบ้านให้เป็น Flexible Function ซึ่งสอดรับกับกระแส New Normal รองรับการทำงานที่บ้าน ด้วยห้องเอนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ว่าจะเป็น Work from Home หรือ Learn from Home หรือจะปรับเป็นห้องนอนก็ยังสามารถทำได้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเขาได้ เช่น ทาวน์เฮ้าส์ 4 ห้องนอน สามารถปรับห้องนอนที่ 4 ให้เป็นห้องทำงาน สำหรับหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่กลางวันทำงานประจำและใช้เวลากลางคืนในการทำงานฟรีแลนซ์ ทำให้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

ล่าสุดได้เปิดโครงการ ลลิล ทาวน์ แลนซิโอ คริป บางนา-เทพารักษ์ และ โครงการไลโอ บลิสซ์ บางนา-เทพารักษ์ ทั้ง 2 โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ บนทำเลที่เดินทางสะดวกที่สุด เชื่อมต่อสุขุมวิท เอกมัย พระราม 9 ด้วยทางด่วนบูรพาวิถี ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และถนนมอเตอร์เวย์ ให้การทำงานและชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องใกล้กัน รายล้อมไปด้วย ห้างสรรพสินค้าและ Lifestyle Mall ขนาดใหญ่ ทั้ง Mega บางนา, Central Village และ Market Village สุวรรณภูมิ ,สวนหลวง ร.9 สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร, Sky Lane สนามปั่นจักรยานสนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับโครงการ ลลิล ทาวน์ แลนซิโอ คริป บางนา-เทพารักษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวดีไซน์หรู King Size 4 ห้องนอนสไตล์ฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยแบบบ้านดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Modern Geometry ที่ผสมผสานความสวยงามกับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยแบบใหม่ ตอบรับทุกช่วงวัยอย่างมีระดับ ให้สมาชิกอยู่รวมกันอย่างมีความสุข ตอบสนองการใช้งานได้อย่างแท้จริง เชื่อมชีวิตสู่ทุกจุดหมายการเดินทางบนทำเลศักยภาพ มั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมกล้อง CCTV ตลอด 24 ชม. ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้กว้างขวาง พร้อมคลับเฮาส์ ฟิตเนส เพื่อทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งยังเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวนสวย และซุ้มสไตล์ Art-Deco หรูหราโมเดิร์นท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น ระดับราคา ระดับราคา 3-6 ล้านบาท

ส่วนโครงการไลโอ บลิสซ์ บางนา-เทพารักษ์ เป็นทาวน์โฮมแบบใหม่ล่าสุด ฟังก์ชัน Modern GeoMetry ที่ดีไซน์ด้วยลายเส้นที่ลงตัว สไตล์ของ เลอ กอร์บูซีเย (Le Corbusier) พร้อมฟังก์ชันภายในที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของทุกวัย บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อสู่เมืองได้สะดวกด้วย 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ บางนา-ตราด,เทพารักษ์ และสุขุมวิทสายเก่า บนทำเลที่ตั้งใกล้แหล่งชุมชน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ปรับสมดุลชีวิต ด้วยสมดุลธรรมชาติ ด้วยสวนที่ร่มรื่นขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และโมเดิร์นคลับเฮ้าส์ในโครงการ ราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท

นายชูรัชฏ์ กล่าวอีกว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้นำเสนอแบบบ้านใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปนิกชื่อดังชาวฝรั่งเศส เลอ กอร์บูซีเย (Le Corbusier) กับแนวคิด Modern Geometry ที่เน้น “ฟังก์ชั่นหรือการใช้งาน” เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบบ้านให้สามารถใช้สอยพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างแท้จริง และ Le Modular หรือหลักความสอดคล้องของสัดส่วนมนุษย์ (Human Scale)ในการจัดสรรพื้นที่ให้เพียงพอ และเหมาะสมกับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การวางตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ไปจนถึงการกำหนดสัดส่วนของพื้นที่เพื่อให้เกิดฟังก์ชันที่ตอบวัตถุประสงค์การใช้งาน รวมไปถึงระยะการหยิบจับสิ่งของ ซึ่งแนวคิดในการพัฒนาแบบบ้านดังกล่าวได้สอดคล้องกับกระแส New Normal ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้