fbpx
S  31875201

กานดา พร็อพเพอร์ตี้ รีสตาร์ตโครงการใหม่ รับกำลังซื้อบ้านฟื้น

กานดา พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเกมรุกตลาดบ้านแนวราบ หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย กำลังซื้อ real demand ฟื้นตัว ล่าสุดเปิดโครงการ ไอลีฟ ไพร์ม วงแหวน-รังสิตคลอง 4 รองรับนิวไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการพื้นที่การอยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น ในราคาที่เอื้อมถึง พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท

นายหัสกร บุญยัง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางของตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมหลังจากรัฐบาลเริ่มปลดล็อกมาตรการควบคุมต่างๆ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มควบคุมได้ดีมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมีความมั่นใจมากขึ้น เห็นได้จากจำนวนผู้เข้าชมโครงการของบริษัท และยอดจองที่ลดลงไปกว่า 30% เมื่อเดือนเมษายน ได้ดีดกลับขึ้นมาแตะจุดสูงสุดในรอบ 12 เดือน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (real demand) ยังมีความพร้อมและมีความต้องการซื้ออยู่สูง

ประกอบกับ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้มีการจัดโปรโมชั่นกันอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับมาตรการจากภาครัฐต่างๆ ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค ดังนั้นถ้าสถานการณ์ โควิด-19 สามารถควบคุมได้ดีอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อยๆ ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบสำหรับกลุ่ม real demand จะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด

เมื่อสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบเริ่มปรับตัวดีขึ้น บริษัทจึงได้เริ่มเปิดโครงการใหม่อีกครั้ง โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครงการไอลีฟ ไพร์ม วงแหวน-รังสิตคลอง 4 ภายในโครงการประกอบด้วย ทาวน์โฮม ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ สามารถจอดรถได้ 2 คัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้าบาท บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ขนาด 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2-3 คัน ภายในตัวบ้านมีโถงชั้น 2 กว้างขวางสำหรับการพักผ่อนร่วมกัน ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท สำหรับบ้านแฝด และ 4.09 ล้านบาทสำหรับบ้านเดี่ยว

สำหรับโครงการไอลีฟ ไพร์ม วงแหวน-รังสิตคลอง 4 ได้ดีไซน์แบบบ้าน ซุ้มโครงการ สโมสร สวนสาธารณะ ให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีกลิ่นอายของความเป็นแคลิฟอร์เนียผสมผสานอยู่ เพื่อต้องการให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกภูมิใจ มีความสุขและอบอุ่น ตามสโลแกน “Smile of Living” ของกานดา พร็อพเพอร์ตี้ นอกจากนี้ ยังได้มีการออกแบบบ้านให้ตอบสนองการใช้ชีวิตแบบ นิวไลฟ์สไตล์ ของผู้อยู่อาศัย บ้านทุกแบบมีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย มีพื้นที่ใช้สอยมากในราคาขายที่เข้าถึงได้ง่าย

นายหัสกร กล่าวอีกว่า ที่สำคัญบ้านทุกแบบยังคงออกแบบภายใต้แนวคิด 4 Kanda Concept คือ Eco Smart, Easy Maintenance, 3 Generations, และ Flood Protection

  • Eco Smart : การใช้พลังงานทางเลือกและใช้หลักการ Reduce Reuse Recycle
  • Easy Maintenance : การออกแบบบ้านให้ง่ายต่อการบำรุงรักษาในอนาคต เลือกใช้วัสดุทนทาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • 3 Generations : มีห้องนอนล่างกว้างขวาง เพื่อตอบสนองการใช้งาน ทั้ง 3 Generations ได้อย่างอบอุ่น
  • Flood Protection : จัดทำระบบป้องกันอุทกภัย เพื่อให้สามารถป้องกันตนเองได้

ไอลีฟ ไพร์ม วงแหวน-รังสิตคลอง 4 เริ่มเปิดให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการในวันที่ 13-14 มิถุนายน 2563 โดยมีการจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย อาทิ ส่วนลดสูงสุดกว่า 500,000 บาท ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอน* ฟรีเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมโปรโมชั่นกว่า 20 รายการ

นายหัสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคบางกลุ่มอาจมีเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือ ผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น ใช้ชีวิตในบ้านของตัวเองนานขึ้น ดูแลสุขภาพ เป็นห่วงครอบครัว และใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น แม้เวลาอยู่ในสังคมจะอยู่กันแบบ social distancing แต่พออยู่บ้านก็จะอยู่อาศัยกันแบบครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ลูกที่เคยพักและทำงานในเมืองก็กลับมาอยู่กับครอบครัวที่ชานเมืองในช่วง work from home

กิจกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากการอยู่ร่วมกันที่บ้านจึงมีเพิ่มขึ้นโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็น การทำกับข้าว การออกกำลังกายภายในบ้าน การปลูกผัก ปลูกต้นไม้ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ล้วนต้องการพื้นที่ ทำให้พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคบางกลุ่มก็อาจจะมีการเปลี่ยนไป จากความต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ต้องการฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่หลากหลายขึ้น ในงบประมาณที่เท่าเดิม ซึ่งบ้านหรือทาวน์โฮมชานเมืองเป็นตัวเลือกที่เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี

สำหรับในช่วงที่สถานการณ์ โควิด-19 ระบาดรุนแรง เป็นช่วงที่บริษัทมีเวลามากขึ้นในการบริหารจัดการ และได้ใช้โอกาสในวิกฤตินี้ปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการองค์กร โดยยึดหลักว่า บริษัทจะไม่ลดเงินเดือนพนักงาน หรือให้พนักงานออก รวมไปถึงแรงงานรายวัน ขณะเดียวกันการวางแผนงานก่อสร้างก็ต้องบริหารจัดการแบบรัดกุมขึ้น จำกัดการก่อสร้างเฉพาะแปลงที่มีลูกค้าและพร้อมโอน ควบคุมการจ่ายเงินออกให้น้อยที่สุด เพื่อรักษาสภาพคล่องของบริษัทให้เพียงพอในการดูแลพนักงาน

เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย บริษัทก็เริ่มทบทวนแผนการเปิดโครงการใหม่รวมไปถึงเทรนด์ใหม่ๆ ของการอยู่อาศัยเพื่อที่จะนำมาปรับปรุงให้สอดคล้องกับการออกแบบบ้านของบริษัท โดยสำหรับโครงการที่บริษัทเตรียมเปิดใหม่ในปีนี้ นอกเหนือจาก ไอลีฟ ไพร์ม วงแหวน-รังสิตคลอง4 ยังมี โครงการไอลีฟ พาร์ค เทพารักษ์-บางบ่อ โครงการไอลีฟ ทาวน์ เทพารักษ์-บางบ่อ โครงการไอลีฟ ไพร์ม ประชาอุทิศ 90 โครงการและโครงการไอลีฟ ไพร์ม ถลาง2 (ภูเก็ต) รวม 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,200 ล้าน