การทำงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในวาระที่ 2 ของนายฉัตรชัย ศิริไล ซึ่งมีผลอย่างเป็นทางการวันที่ 15 มิถุนายน 2563 อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้ว่าจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ประทับตราเห็นชอบแล้วก็ตาม
เพราะหากมองไปในช่วงเวลา 4 ปี ของวาระที่ 2 สถานการณ์ต่างๆ มีความผันผวนไม่แน่นอนในหลายเรื่อง และเรื่องสำคัญที่สุดคือ แบ็กอัพทางการเมืองที่เคยแน่นปึ้ก เพราะมีดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การสนับสนุนอยู่
หากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีอันต้องเปลี่ยนตัวตามกระแสการเมืองภายในของพรรคพลังประชารัฐ สถานะของกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ของนายฉัตรชัย ก็อาจจะไม่มั่นคงเหมือนก่อน
เรื่องต่อมาคือภารกิจที่หนักหนาสาหัสยิ่งขึ้น เมื่อต้องรับมือกับผลกระทบจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในส่วนของธนาคารเองที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากพิษของไวรัสโควิด-19 ในวงกว้าง โอกาสที่ลูกค้ากลุ่มนี้จะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีอยู่สูง แม้ว่าธนาคารจะใช้มาตรการผ่อนปรนให้ในระยะหนึ่งก็ตาม แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ในขณะเดียวกันในฐานะธนาคารรัฐ ธอส.ยังต้องเป็นหัวจักรสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ซึ่งธอส.คงจำเป็นต้องออกมาตรการต่างๆ ในด้านสินเชื่อมาช่วยขับเคลื่อนภาคอสังหาริมทรัพย์ จึงจะเป็นภาระอีกด้านหนึ่งที่ธอส.จะต้องแบกรับ
นอกจากนี้ ยังมีภารกิจเดิมที่ยังไปได้ไม่สุด และต้องปรับจูนกันในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านล้านหลัง โครงการสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ หรือ Reverse Mortgage รวมถึงการผลักดันตั้งบริษัทประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Insurance) ซึ่งถือเป็นอาวุธสำคัญในการปล่อยกู้ของธอส.ในอนาคต และการนำ Big Data มาต่อยอดในการปล่อยสินเชื่อ แต่ละเรื่องก็ใหญ่พอดูและต้องใช้พลังค่อนข้างเยอะที่จะทำให้สำเร็จลุล่วงไปได้
แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณของศึกภายในที่คุกรุ่น เมื่อเริ่มมีความเคลื่อนไหวในองค์กรที่จะไม่เอานายฉัตรชัยปรากฏให้เห็น แม้ว่าวันนี้นายฉัตรชัยจะยังพอรับมือได้อยู่ แต่วันใดที่มีการเมืองเข้าแทรกการรับมือทั้งศึกภายนอก และศึกภายในก็อาจจะทำให้เก้าอี้กรรมการผู้จัดการ ธอส.สั่นคลอนได้ง่ายขึ้น
ตลอด 4 ปีในวาระที่ 2 ของนายฉัตรชัย กับตำแหน่างกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จึงถือเป็นช่วงเวลาของการพิสูจน์ฝีมือครั้งสำคัญ ถ้าสามารถผ่านไปได้ ตำแหน่งที่ใหญ่กว่าก็จะรออยู่เช่นกัน
