ตลาดที่อยู่อาศัย 5 จังหวัดภาคอีสานครึ่งแรกปี 66 ยอดขายใหม่หดตัวแรง -31% ดันหน่วยเหลือขายพุ่ง 22.8% เผยโคราช-ขอนแก่นหนักสุด พบมีบ้านเหลือขายทะลุหมื่นหน่วยจากจำนวนหน่วยเหลือขายรวม 1.28 หมื่นหน่วย
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ครึ่งแรกปี 2566 พบว่า มีอุปทานพร้อมขายจำนวน 14,721 หน่วย มูลค่ารวม 50,859 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุด 2,812 หน่วย มูลค่า 5,444 ล้านบาท บ้านจัดสรร 11,909 หน่วย มูลค่า 45,415 ล้านบาท มีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาด 3,007 หน่วย มูลค่ารวม 10,297 ล้านบาท โดยมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 1,892 หน่วย มูลค่า 6,854 ล้านบาท ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 12,829 หน่วย มูลค่า 44,006 ล้านบาท
อุปทานโดยรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.6 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 ตามลำดับ และมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 48.9 และร้อยละ 72.4 ตามลำดับ ส่วนหน่วยขายได้ใหม่ลดลงร้อยละ -31 เป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2564 ขณะที่มูลค่าลดลงถึงร้อยละ -41.8 ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยเหลือขาย ณ ครึ่งแรกปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตราดูดซับของภาพรวมตลาดอยู่ที่ร้อยละ 2.1
สำหรับ 5 ทำเล ที่มีจำนวนหน่วยเหลือขายมากที่สุดใน 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมาและขอนแก่น ประกอบด้วย
อันดับ 1 ทำเลจอหอ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1,606 หน่วย มูลค่า 5,173 ล้านบาท
อันดับ 2 ทำเลในเมือง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1,196 หน่วย มูลค่า 4,990 ล้านบาท
อันดับ 3 ทำเลม.ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1,115 หน่วย มูลค่า 1,994 ล้านบาท
อันดับ 4 ทำเลบ้านใหม่-โคกกรวด จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 979 หน่วย มูลค่า 2,884 ล้านบาท
อันดับ 5 ทำเลหัวทะเล จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 942 หน่วย มูลค่า 3,103 ล้านบาท
ส่วนระดับราคาที่อยู่อาศัยที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ 2-3 ล้านบาท มีจำนวนถึง 3,986 หน่วย มูลค่า 10,706 ล้านบาท
ด้านอุปสงค์โดยรวมในช่วงครึ่งแรกปี 2566 พบว่า มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 1,892 หน่วย มูลค่า 6,854 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 1,593 หน่วย มูลค่า 6,303 ล้านบาท และอาคารชุดเพียง 299 หน่วย มูลค่า 551 ล้านบาท ทำเลที่มีหน่วยขายได้สูงสุด 5 อันดับแรกคือ
อันดับ 1 บ้านเป็ด จังหวัดขอนแก่น จำนวน 241 หน่วย มูลค่า 1,110 ล้านบาท
อันดับ 2 ในเมือง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 229 หน่วย มูลค่า 895 ล้านบาท
อันดับ 3 จอหอ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 189 หน่วย มูลค่า 658 ล้านบาท
อันดับ 4 บึงแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น จำนวน 141 หน่วย มูลค่า 633 ล้านบาท
อันดับ 5 ม.ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จำนวน 132 หน่วย มูลค่า 282 ล้านบาท
ทั้งนี้ REIC คาดการณ์ปี 2566 5 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 4,511 หน่วย มูลค่า 15,446 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 3,689 หน่วย มูลค่า 13,349 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 12,535 หน่วย มูลค่า 42,843 ล้านบาท
จังหวัดนครราชสีมา
สำหรับครึ่งแรกปี 2566 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดนครราชสีมา มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 6,577 หน่วย มูลค่า 23,620 ล้านบาท หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 มูลค่าลดลงร้อยละ -8.4 แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 5,362 หน่วย มูลค่า 20,729 ล้านบาท อาคารชุด 1,215 หน่วย มูลค่า 2,891 ล้านบาท โดยมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,062 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 มูลค่า 3,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.3
ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 746 หน่วย ลดลงร้อยละ -49.6 มูลค่า 2,774 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -63.8 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 5,831 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.0 มูลค่า 20,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
REIC คาดการณ์ปี 2566 จังหวัดนครราชสีมาจะมีที่อยู่อาศัยเข้าสู่ตลาดจำนวน 1,593 หน่วย มูลค่า 5,513 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 1,449 หน่วย มูลค่า 5,399 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 5,659 หน่วย มูลค่า 20,294 ล้านบาท
จังหวัดขอนแก่น
จังหวัดขอนแก่นมีที่อยู่อาศัยเสนอขายในครึ่งแรกปี 2566 รวมทั้งสิ้น 4,979 หน่วย มูลค่า 15,996 ล้านบาท หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 และมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.9 แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 3,490 หน่วย มูลค่า 13,606 ล้านบาท อาคารชุด 1,489 หน่วย มูลค่า 2,390 ล้านบาท มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,378 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 196.3 มูลค่า 4,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 266.7
ส่วนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 739 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 มูลค่า 2,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.2 มีหน่วยเหลือขาย 4,240 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8 มูลค่า 13,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
REIC คาดการณ์ปี 2566 จังหวัดขอนแก่นจะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 2,067 หน่วย มูลค่า 6,599 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 1,451 หน่วย มูลค่า 5,142 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 4,217 หน่วย มูลค่า 13,107 ล้านบาท
จังหวัดอุบลราชธานี
จังหวัดอุบลราชธานีมีที่อยู่อาศัยเสนอขายในครึ่งแรกปี 2566 รวมทั้งสิ้น 1,382 หน่วย มูลค่า 4,330 ล้านบาท หน่วยลดลงร้อยละ -6.3 และมูลค่าลดลงร้อยละ -7.1 แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 1,293 หน่วย มูลค่า 4,187 ล้านบาท อาคารชุด 89 หน่วย มูลค่า 142 ล้านบาท มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 294 หน่วย ลดลงร้อยละ -36.9 มูลค่า 869 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -38.9
ส่วนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 191 หน่วย ลดลงร้อยละ -53.3 มูลค่า 663 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -46.3 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 1,191 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 มูลค่า 3,667 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
REIC คาดการณ์ ปี 2566 จังหวัดอุบลราชธานีจะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 441 หน่วย มูลค่า 1,303 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 372 หน่วย มูลค่า 1,291 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 1,157 หน่วย มูลค่า 3,565 ล้านบาท
จังหวัดอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานีมีที่อยู่อาศัยเสนอขายในครึ่งแรกปี 2566 รวมทั้งสิ้น 1,304 หน่วย มูลค่า 5,353 ล้านบาท หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 47.7 และมูลค่าร้อยละ 70.2 แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 1,298 หน่วย มูลค่า 5,342 ล้านบาท อาคารชุด 6 หน่วย มูลค่า 10 ล้านบาท มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 215 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.0 มูลค่า 1,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 211.9
ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 167 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 106.2 มูลค่า 632 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 125.9 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 1,137 หน่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8 มูลค่า 4,721 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 64.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
REIC คาดการณ์ปี 2566 จังหวัดอุดรธานีจะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 323 หน่วย มูลค่า 1,710 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 323 หน่วย มูลค่า 1,221 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 1,089 หน่วย มูลค่า 4,520 ล้านบาท
จังหวัดมหาสารคาม
จังหวัดมหาสารคามมีที่อยู่อาศัยเสนอขายในครึ่งแรกปี 2566 รวมทั้งสิ้น 479 หน่วย มูลค่า 1,561 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -0.2 และ ลดลงร้อยละ -8.5 แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 466 หน่วย มูลค่า 1,551 ล้านบาท อาคารชุด 13 หน่วย มูลค่า 10 ล้านบาท มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 58 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 107.1 มูลค่า 214 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 182.1
ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 49 หน่วย ลดลงร้อยละ -53.3 มูลค่า 153 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -65.3 และจำนวนหน่วยเหลือขาย 430 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 มูลค่า 1,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
REIC คาดการณ์ ปี 2566 จังหวัดมหาสารคามจะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 87 หน่วย มูลค่า 321 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 94 หน่วย มูลค่า 296 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 414 หน่วย มูลค่า 1,357 ล้านบาท
