ภาคอสังหาฯยังอ่วมแบงก์ยังคุมเข้มปล่อยกู้ นายกอสังหาฯ เผยบ้านราคา 2-3 ล้าน ถูกแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 50-60% ขณะที่บ้านแนวราบเริ่มซัพพลายล้น เดินหน้าเจรจารัฐขอขยายมาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง กระตุ้นอสังหาฯราคา 3-5 ล้าน พร้อมเผยเทรนด์ Wellness Real Estate และการแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลมาแรง
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวในงานสัมมนาออนไลน์ Free Webinar ภายใต้ชื่อ “Transforming Real Estate Thailand Forum 2021” ในคอนเซ็ปต์ “Transforming Post COVID-19 : Strategies for Success” จัดโดย PEOPLESCAPE ในเครือบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังประสบปัญหาสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับรายย่อย ซึ่งก่อนหน้านี้มีอัตราปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ของกลุ่มที่อยู่อาศัยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ที่ 3-5% และที่อยู่อาศัยเซ็กเมนต์ทั่วไปไม่เกิน 30%
หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่อยู่อาศัยระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีอัตราปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% และในบางจังหวัดอาจสูงถึง 70% ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ซึ่งขอสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการได้รับผลกระทบจากการโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ แม้จะทำการ Pre-approve ลูกค้าแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากลูกค้าอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ในภายหลัง สถาบันการเงินจึงไม่ปล่อยสินเชื่อให้ รวมถึงปัญหาตลาดคอนโดมิเนียมที่ซบเซาจากโควิด-19 ทำให้มีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง ผู้ประกอบการจึงหันมาพัฒนาสินค้าแนวราบกันมากขึ้น จนเริ่มเกิดภาวะล้นตลาดในบางทำเล
ขณะที่ภาพรวมซัพพลายในตลาดอสังหาฯยังถูกดูดซับได้ช้าลงจนกระทบถึงยอดขายในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 ผู้ประกอบการ 12 ราย เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ 150 โครงการ มูลค่าการขายร่วม 2 แสนล้านบาท ตามเดินแผมที่วางไว้นั้น จะเข้ามาเติมซัพพลายในตลาดเพิ่ม อีกทั้งแนวโน้มการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับราคา 1 ล้านบาทนั้น ยังต้องลุ้นต่อไปว่าหลังพัฒนาโครงการเสร็จในอีก 1-2 ปีข้างหน้า สถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อรายย่อยหรือไม่
“ตลาดอสังหาฯตอนนี้จำเป็นต้องรอการผ่อนปรนของสถาบันการเงินเท่านั้น ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินเองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน เนื่องจาก FinTech ที่กำลังจะเข้ามา Disruption ธุรกิจสถาบันการเงิน อาจทำให้คนยื่นขอสินเชื่อน้อยลงด้วย”
นายพรนริศ กล่าวอีกว่า มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดขึ้นเพื่อควบคุมการเก็งกำไร หรือดีมานด์เทียมที่อาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ โดยกำหนดเพดานการกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย 70-90% ล่าสุดได้มีการผ่อนคลายมาตรการแล้ว แต่มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนฯและจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท กำลังจะสิ้นสุดลงในสิ้นปี 2564 นี้
“ทางสมาคมกำลังเจรจาเพื่อขอให้รัฐช่วยขยายเพดานสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา แต่จำกัดการลดค่าธรรมเนียมเฉพาะมูลค่า 3 ล้านบาทแรกเท่านั้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่เป็นระดับราคา 3-5 ล้านบาท”
นอกจากนี้ นายพรนริศ ยังมองถึงเทรนด์ Wellness Real Estate หรือการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เอื้อต่อสุขภาพ อาทิ การดีไซน์ ตัวอาคารให้ประหยัดพลังงาน ทิศทางของแสงและลม ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 4-5 ปีมานี้ โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกาและจีน
รวมถึงกระแส Digital Asset เริ่มมีการแปลงสินทรัพย์อสังหาฯให้อยู่ในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Fractional Ownership of Real Estate แบ่งซอยสินทรัพย์ออกเป็นส่วนย่อยๆ แล้วเสนอขยายเป็นโทเคนดิจิทัล Initial Fraction Offering หรือ IFO ให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการถือครองอสังหาฯได้ง่ายขึ้น ไม่จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรือรีสอร์ต ซึ่งปัจจุบันมีผู้ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เพื่อให้บริการดังกล่าวแล้ว
สำหรับงานสัมมนาออนไลน์ Transforming Post COVID-19 : Strategies for Success ซึ่งจัดโดย PEOPLESCAPE ในเครือบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยเชิญวิทยากรชั้นนำหลากหลายความเชี่ยวชาญ ทั้งการตลาด-การบริหาร-การเงิน-การสื่อสาร-HR-Tech รวมกว่า 20 ท่าน มาร่วมแนะทิศทางการปรับตัวและทรานส์ฟอร์มองค์กรอสังหาฯสู่อนาคต 3 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย. ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วม Webinar (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) ได้ที่ https://peoplescape.co.th/events-landing/index.html
