fbpx
เปิดคฤหาสน์หรูริมทะเลสาบ 5

ลูกบ้านแอชตัน อโศก ขีดเส้น 14 วันขอความชัดเจนจากอนันดา

ลูกบ้านโครงการแอชตัน อโศก ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากศาลปกครองได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตโครงการเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 แต่ผ่านมา 1 เดือนก็ยังเคว้างคว้างไร้ทางออกที่ชัดเจน แม้ว่าการอุทธรณ์และการตัดสินคดีของศาลปกครองสูงสุดจะใช้เวลาอีกยาวนาน แต่วันนี้มันต้องมีอะไรมากกว่าการอยู่ไปอย่างสิ้นหวังและไร้ซึ่งอนาคต

ลูกบ้านรายหนึ่ง บอกว่า ตอนนี้ก็เหมือนกับเราต้องผ่อนกระดาษเปล่าแถมยังเป็นหนี้ก้อนโต โดยไม่มีหน่วยงานราชการใดหรือผู้พัฒนาโครงการได้จัดให้มีมาตรการเยียวยาเพื่อบรรเทาผลกระทบจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้มีผลเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากมีคำพิพากษาของศาลก็คือ ขณะนี้สถาบันการเงินต่างๆ ที่เคยได้ให้สินเชื่อแก่ลูกบ้านทำการปฏิเสธการ Retention (การปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้กู้) ในส่วนดอกเบี้ยของวงเงินกู้ยืมเดิม และสถาบันการเงินหลายแห่งปฏิเสธในการอนุมัติคำขอสินเชื่อ Refinance ด้วยเหตุที่หลักประกันสินเชื่อซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ห้องในโครงการแอชตัน อโศก อยู่ในความเสี่ยงที่ไม่อาจยอมรับ

ตอนนี้จะขายก็ขายไม่ได้ หลายๆ คนที่ซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่า ผู้เช่าก็ขอย้ายออกไปหลาย ชาวต่างชาติที่ซื้อไว้ เพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณก็ยังช็อค และไม่เข้าใจว่าเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร และเชื่อว่าโครงการอื่นๆ ก็ดูบทสรุปจากโครงการแอชตัน อโศกอยู่ ถ้าต้องรื้อทิ้งก็จะเกิดปัญหาในวงกว้าง และกระทบกับการลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ กระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

“หลายคนมองว่า แอชตัน อโศก เป็นคอนโดหรู คนที่ซื้อโครงการนี้ต้องมีสตางค์ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น หลายๆ คนซื้อโดยเงินเก็บ เงินดาวน์ และต้องกู้เงินกับสถาบันการเงิน สำหรับผมเลือกที่จะไม่ซื้อรถ เอาเงินที่จะซื้อรถมาซื้อคอนโดแทน และเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ซึ่งหลายๆ คนก็มีความคิดแบบเดียวกัน เป็นการช่วยลดโลกร้อน แต่กลับถูกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนฟ้องให้รื้อโครงการก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน” ลูกบ้านอีกรายกล่าว

ถ้าเกิดต้องรื้ออาคารจริงๆ ผมมั่นใจว่าธนาคารไม่ให้หยุดผ่อนแน่ๆ แม้ว่ามันจะเป็นแค่การผ่อนกระดาษเปล่า ทั้งๆ ที่เป็นการซื้อโดยสุจริต ซื้อจากโครงการที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่า ผู้บริโภคอย่างเราก็คงไม่สามารถจะไปตรวจสอบอะไรได้ลึกขนาดนั้น เมื่อเห็นว่ามีใบอนุญาตถูกต้องแล้วก็ตัดสินใจซื้อ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นถึงวันนี้ยังไม่มีใครมาให้ความชัดเจนเลยว่าเราจะต้องทำอะไรกันต่อไป

เราก็อยากให้ทางอนันดามาพูดคุยกันให้ความมั่นใจว่าใน 5 ปีนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา ถ้าโครงการต้องทุบทิ้งจะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งทางบริษัทอาจจะมองโลกสวยว่า มันไม่น่าจะเกิดอะไรแบบนั้น แต่จริงๆ มันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงอยากให้อนันดามาคุยกันดีกว่าจะต้องไปฟ้องร้องกัน” ลูกบ้านรายหนึ่งกล่าว

ล่าสุด ทางลูกบ้านโครงการ แอชตัน อโศกได้ทำหนังสือถึงบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้มีการประชุมเพื่อรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมกับการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้พัฒนาโครงการ

หากข้อเรียกร้องของลูกบ้านยังไม่ได้รับการตอบสนองภายในกำหนดระยะเวลา 14 วันนับแต่วันนี้ (30 ส.ค. 64) ลูกบ้านแอชตันอโศกกว่า 1,000 ชีวิตจากกว่า 600 ครอบครัว ก็มีความจำเป็นต้องยกระดับข้อเรียกร้องของพวกเราต่อหน่วยงานราชการและ/หรือผู้พัฒนาโครงการในโอกาสต่อไป