ข้อดีจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประการหนึ่ง ก็คือได้เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนให้ใส่ใจกับสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น อานิสงส์ข้อนี้ลุกลามไปถึงโถส้วมเลยทีเดียว
เมื่อวันก่อนสุขภัณฑ์โตโต้ ได้เปิดโรงงานให้ได้ชมกระบวนการผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ฝารองนั่งรุ่นที่มีน้ำฉีดทำความสะอาดน้องๆ หนูๆ ได้โดยไม่ต้องใช้มือ ซึ่งทางผู้บริหารโตโต้ นายทาคายะสุ ชิมาดะ ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้คนสนใจดูแลเรื่องสุขภาพพลานามัยมากยิ่งขึ้น และทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ของโตโต้ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน
แม้ว่าจะไม่เปิดเผยเป็นตัวเลขชัดๆ ว่าพฤติกรรมรักสุขภาพได้อัพยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่การเปิดบ้านต้อนรับสื่อมวลชนเข้าไปชมการผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ที่จะผลิตในไทยเป็นครั้งแรกก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า โตโต้ วางกลยุทธ์ที่จะบุกตลาด touchless ในประเทศไทยอย่างจริงจัง
โตโต้ บริษัทผู้ผลิตสุขภัณฑ์สำหรับครัวเรือนที่มีอายุเก่าแก่ถึง 103 ปี จากญี่ปุ่น ได้ปักหลักใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกมาตั้งแต่ปี 2552 โดยได้ตั้งบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้น พร้อมกับเดินสายการผลิตในโรงงานแห่งแรกที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ปัจจุบัน โตโต้ มีโรงงานผลิตในไทยอยู่ 3 โรงงาน ซึ่งโรงงานแห่งที่ 3 เป็นโรงานผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2563 นี่เอง
สำหรับฝารองนั่งอัตโนมัตินั้น ไม่ใช่เพิ่งจะมีใช้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา โตโต้เริ่มผลิตและจำหน่ายฝารองนั่งอัตโนมัติมาตั้งแต่ปี 2523 หรือเมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยในปีที่ผ่านมา ฝารองนั่งอัตโนมัติของโตโต้มียอดจำหน่ายรวมมากกว่า 50 ล้านชิ้นทั่วโลก และมียอดขายที่เติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ ซึ่งโตโต้ ตั้งใจจะเพิ่มยอดขายของฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ในต่างประเทศจากจำนวน 580,000 ชิ้นในปี 2561 เป็น 2,000,000 ชิ้นในปีพ.ศ. 2565 หนึ่งในเป้าหมายนั้นก็คือ ประเทศไทย
นายชิมาดะ ประธานโตโต้ ประเทศไทย ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ในไทยเมื่อปี 2562 กล่าวว่า ตลาดเมืองไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงอยู่แล้ว ซึ่งการเกิดขึ้นของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี และรถไฟความเร็วสูง ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของไทยเลยทีเดียว
สำหรับกลยุทธ์ในการรุกตลาดไทยของโตโต้คือ การสร้างฐานลูกค้าที่เรียกว่า โตโต้แฟน ให้เกิดขึ้นในเมืองไทย โดยมีโจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคคนไทยเข้าใจถึงการเลือกซื้อสุขภัณฑ์ ซึ่งจริงๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดีไซน์ และราคา แต่ต้องดูถึงคุณภาพและความคงทนในระยะยาว ซึ่งจะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้บริโภคคนไทย ผ่านการสื่อสารออนไลน์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโตโต้จะไม่มีนโยบายการแข่งขันราคา แต่ก็ต้องการให้ผู้บริโภค ได้เข้าถึงและทดลองใช้ฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET จึงได้เปิดตัวรุ่นใหม่ที่ผลิตในประเทศไทย และส่งออกไปขายในญี่ปุ่นเป็นตลาดหลัก ในราคาเริ่มที่ 15,000 กว่าบาท จากก่อนหน้ารุ่นที่มีราคาต่ำสุดของโตโต้ขายอยู่ที่ 18,000 กว่าบาท ซึ่งจากการที่ใช้ฐานผลิตในเมืองไทยจึงได้ราคาต้นทุนที่ถูกกว่า
สำหรับโรงงานผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ใช้งบลงทุนไปกว่า 1,073 ล้านบาท บนพื้นที่ 49,000 ตารางเมตร เป็นโรงงานแห่งที่ 5 ที่ผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ของโตโต้ โดยประกอบด้วย 2 โรงงานในญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน และล่าสุดคือ ไทย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 450,000 ชิ้นต่อปี แบ่งเป็น ส่งออก 60% ตลาดหลักคือ ญี่ปุ่น ส่วนตลาดรองๆ มา ได้แก่ ประเทศในกลุ่มอาเซียน และสหรัฐอเมริกา ส่วนอีก 40% สำหรับขายในประเทศ
การผลิตเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่ามาตรฐานสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในไทยเป็นมาตรฐานเดียวกับญี่ปุ่น
ฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET รุ่นใหม่ล่าสุดที่ผลิตจากโรงงานที่ประเทศไทย มีการควบคุมการผลิตและการตรวจสอบทุกกระบวนการอย่างเข้มงวด ด้วยมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน” นายฮิโรกิ ฟูจิมูระ ผู้จัดการโรงงานและผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ WASHLET บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) กล่าว
นอกจากนี้ โตโต้ มีเป้าหมายสำคัญที่จะปฏิวัติการใช้ห้องน้ำทั่วโลก ด้วยประสบการณ์กว่า 100 ปี และนวัตกรรมที่คิดค้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ที่สวยงามนั่งสบาย ออกแบบให้ไร้ขอบ ไร้จุดอับ ง่ายต่อการทำความสะอาด ผสมผสานกับเทคโนโลยี่ ได้แก่
TORNADO FLUSH ระบบการชำระล้าง ที่สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้หมดจด โดยใช้น้ำในปริมาณน้อย
EWATER+ น้ำบริสุทธิ์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย สำหรับทำความสะอาดก้านฉีดชำระและโถสุขภัณฑ์โดยไม่ใช้สารเคมี
CEFIONTECT สารเคลือบบนพื้นผิวเซรามิกก่อนการเผา ทำให้มีอายุการใช้งานที่คงทน พื้นผิวเรียบลื่น ช่วยลดการเกาะติดของคราบสกปรก
“เราอยากส่งมอบความสะดวกสบายของการใช้ฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ให้กับคนไทย และอยากให้ลูกค้าคนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ห้องน้ำที่ดีและถูกสุขอนามัย ซึ่งการที่ลูกค้าของเราจะมีความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบและสะดวกสบายเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นหน้าที่ของบริษัทที่ได้ยึดมั่นถือมั่นในการดำเนินธุรกิจมาตลอดกว่า 100 ปี” นายชิมาดะ กล่าวปิดท้าย