fbpx
อัดฉีด 1.9 ล้านล้าน เยียวยาโควิด

สงครามราคา กดราคาบ้าน-คอนโด ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ชี้สงครามราคา ลด แลก แจก แถม กดดันดัชนีราคาที่อยู่อาศัยไตรมาส 2 ปี 63 ทั้ง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโด ยังคงปรับลดลงแต่เริ่มเข้าสู่สภาวะทรงตัว เผยคอนโด ให้ส่วนลดสุงสุด 36%

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงว่า จากการสำรวจโครงการบ้านจัดสรร และโครงการอาคารชุดอยู่ระหว่างการขาย ที่มีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยราคาขายที่นำมาจัดทำดัชนีราคานี้เป็นราคาขายที่แท้จริงหักมูลค่ารายการส่งเสริมการขายออกจากราคาที่ประกาศขายแล้ว โดยใช้ราคาปี 2555 เป็นปีฐาน พบว่า

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.3 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2555 โดยเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทำให้มีการปิดกิจการและลดการจ้างแรงงานในหลายธุรกิจ ส่งผลต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก

ดัชนีราคาบ้านจัดสรรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.3 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนในพื้นที่ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนแต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.6 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมา สก่อนหน้า ซึ่งบ้านเดี่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.0 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.7 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ส่วนดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.2 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.4 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ขณะที่ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 132.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายในไตรมาส 2 ปี 2563 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 37.6 จะให้ผู้ซื้อเลือกเป็นส่วนลดเงินสด รองลงมาร้อยละ 33.6 จะให้เลือกเป็นของแถม แถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ ฯลฯ และร้อยละ 28.8 จะช่วยผู้ซื้อจ่ายค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ และ/หรือ ฟรีค่าส่วนกลาง โดยร้อยละ 12 ของโครงการบ้านเดี่ยวที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง มีการลดราคาขายในอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 11.5 ส่วนโครงการทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 21 มีการลดราคาขายในอัตราสูงสุดร้อยละ 32.3

ด้านดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 153.2 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ดัชนีราคาห้องชุดลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการล็อกดาวน์ทางเศรษฐกิจส่งผลให้กำลังซื้อห้องชุดลดลงทั้งชาวไทยและคนต่างด้าวโดยเฉพาะชาวจีน

เมื่อพิจารณาแยกตามพื้นที่ พบว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 154.9 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 145.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับรายการส่งเสริมการขายห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 41.8 จะให้ผู้ซื้อเลือกเป็นส่วนลดเงินสด รองลงมาร้อยละ 40.9 จะให้เลือกเป็นของแถม เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ และร้อยละ 17.3 จะช่วยผู้ซื้อจ่ายค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งโครงการอาคารชุดกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 20 มีการเร่งระบายสต๊อกเก่าโดยการลดราคาขายเพื่อจูงใจผู้ซื้อและกระตุ้นการขาย โดยให้ส่วนลดในอัตราส่วนลดสูงสุดถึงร้อยละ 36.3

โครงการอาคารชุดที่ปรับลดราคาลงมากที่สุดเป็นทำเลปลายสายรถไฟฟ้าสายสีเขียวในจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนทำเลที่โครงการอาคารชุดปรับราคาเพิ่มขึ้น เป็นทำเลแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ สายสีส้มที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในขณะนี้