fbpx
FB cover 15

บิ๊กอสังหาฯ ลดแหลก แจกสะบัด โหมสงครามราคาโละสต๊อกข้ามปี

การแข่งขันในธุรกิจอสังหาฯ ณ เวลานี้ร้อนแรงจนถึงขั้นทะลุจุดเดือด เมื่อผู้ประกอบการระดับบิ๊กเนมไปจนถึงสมอลเนมต่างเดินเข้าสู่สงครามราคากันอย่างเต็มตัว ล่าสุด เอพี ไทยแลนด์ ได้ส่งแคมเปญใหญ่ “ลดเพื่อชาติ” ขน 11 คอนโดพร้อมอยู่ติดรถไฟฟ้าราคา 1.49-10.7 ล้านบาท มาลดกันสูงสุด 2 ล้านบาท เพื่อแบ่งเบาภาระและสนับสนุนให้ลูกค้าซื้อคอนโดนของเอพีได้ง่ายขึ้น

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า เอเพี อาศัยจังหวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งหากไม่เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง คาดว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ และความเชื่อมั่นของลูกค้าจะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ในไตรมาส 2 เนื่องจากเริ่มเห็นโมเมนตัมของจำนวนลูกค้าที่เข้าชมโครงการ ขณะที่ยอดขายคอนโดของเอพีตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 75% เมื่อเทียบกับยอดขายคอนโดในเดือนมีนาคม

สงครามราคาอันร้อนระอุ
เมื่อเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก เอพี จึงพร้อมกระตุ้นดีมานด์ในไตรมาส 2 ด้วยแคมเปญลดเพื่อชาติ โดยนำ 11 คอนโดพร้อมอยู่ แบรนด์ LIFE และ ASPIRE ที่คัดมาโดยเฉพาะเปิดให้วางเงินจอง 4,999 บาท พร้อมมอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 2 ล้านบาท เช่น

  • โครงการ LIFE สาทร เซียร์รา ราคา 3.45 ล้านบาท หรือ 2.82 ล้านบาท ลดไปเห็นๆ 6 แสนบาท
  • โครงการ ASPIRE งามวงศ์วาน มีหลายระดับราคา เช่น ราคา 2.49 ล้านบาท ลดเหลือ 2.09 ล้านบาท และราคา 2.4 ล้านบาท เหลือ 1.89 ล้านบาท ลดไป 4 และ 5 แสนตามลำดับ
  • โครงการ LIFE ลาดพร้าว ราคา 6.16 ล้านบาท เหลือ 5.15 ล้านบาท ลดไป 1 ล้านกว่าบาท
  • โครงการ LIFE สุขุมวิท 62 ราคา 10.49 ล้านบาท เหลือ 8.47 ล้านบาท ลดไป 2 ล้านบาทเต็มๆ เป็นต้น

ในเวลาไล่เรี่ยกัน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ผู้พัฒนาแบรนด์ คอนโดลุมพินี ก็ได้เปิดแคมใหม่ “ปลดล็อก ช็อกทุกราคา ลดสูงสุด 50%” กับ 5 คอนโดพร้อมอยู่ ด้วยราคาเริ่มต้น 1.19 ล้านบาท รวมยูนิตที่นำมาลดราคาจำนวนทั้งสิ้น 200 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท ได้แก่ ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน ลุมพินี เพลส รัชดา-สาธุ ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98 ลุมพินี สุขสวัสดิ์-พระราม 2 และลุมพินี เพลส พระราม 3- ริเวอร์ไรน์ เพื่อลุยตลาดไตรมาส 2 เพื่อให้กับลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบ้านง่ายๆ ในราคาที่เอื้อมถึง โดยให้ส่วนลดสูงสุดถึง 50% ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม-30 มิถุนายนนี้

เช่นเดียวกับ โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ที่เปิดโปรฯแรง Reset Price, Resume Life รีเซ็ตราคาใหม่กลับไปราคาพรีเซล กับ 6 โครงการคอนโดพร้อมอยู่ยูนิตพิเศษ ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.6-7.6 ล้านบาท โดยเปิดจองผ่านระบบ Online Booking ในวันที่ 1-7 มิ.ย.นี้ เพื่อรองรับดีมานด์ในตลาดที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที อาทิ

  • โนเบิล เพลินจิต ราคาเริ่ม 7.6 ล้านบาท จาก 14.4 ล้านบาท
  • โนเบิล รีโคล ราคาเริ่ม 4.9 ล้านบาท จาก 6.1 ล้านบาท
  • โนเบิล อเบิฟ ไวร์เลส-ร่วมฤดี เริ่ม 6.9 ล้านบาท จาก 8.8 ล้านบาท
  • โนเบิล รีโว สีลม ราคาเริ่ม 3.6 ล้านบาท จาก 6.2 ล้านบาท
  • โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา ราคาเริ่ม 2.6 ล้านบาท จาก 3.8 ล้านบาท
  • โนเบิล รีเวนต์ พญาไท ราคาเริ่ม 5.2 ล้านบาท จาก 9.2 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ แสนสิริ เป็นบริษัทอสังหาฯรายต้นๆ ที่เปิดเกมสงครามราคา ด้วยการจัดอีเวนต์ตามโครงการต่างๆ เป็นระยะๆ ด้วยข้อเสนอส่วนลดสูงสุดถึง 50% นอกจากนี้ ยังใช้แคมเปญให้อยู่ฟรี 24 เดือนมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่หลายๆ บริษัทจะอัดแคมเปญอยู่ฟรีตามมาอีกเป็นพรวน แม้แต่ พฤกษา ก็โดดลงมาเล่นแคมเปญอยู่ฟรี 24 เดือน และมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่ขยายเวลาอยู่ฟรีเพิ่มขึ้นไปอีก เช่น ออริจิ้น ให้อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน หรือล่าสุด ริชี่เพลซ 2002 ก็ได้เกทับรายใหญ่ด้วยการให้อยู่ฟรีสูงสุดยาวถึง 5 ปี หรือจะเลือกของแถมเป็นรถยนต์ก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด

ทั้งหมดคือสถานการณ์ของสงครามราคาในตลาดอสังหาฯล่าสุดที่ทั้งบิ๊กเนม-สมอลเนมต่างเล่นกันในตลาด และมีทีท่าว่าจะเป็นสงครามที่ยืดเยื้อต่อไป แต่งานนี้คงต้องบอกว่า win win win กันทุกฝ่ายทั้งฝ่ายผู้ประกอบการที่ได้เปลี่ยนสต๊อกเป็นเงินสด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการอยู่รอดในภาวะวิกฤติเช่นนี้ ส่วนฝ่ายผู้บริโภคที่มีความพร้อม และต้องการซื้อที่อยู่อาศัยก็จะได้ของในราคาที่คุ้มค่า และสุดท้ายฝ่ายนักลงทุนเงินเย็น ที่กลับคืนสู่ตลาดอีกครั้ง เพื่อเลือกช็อปของถูกเอาไว้ทำกำไร

สต๊อกเก่ายังเหลืออีกเพียบ
สำหรับมหกรรมลดแหลก แจกสะบัด รอบนี้จะกินเวลายาวนานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ปัจจัยหนึ่งก็คือ สต๊อกที่มีอยู่จะถูกระบายไปได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตัวเลขล่าสุดของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่ายังมีสินค้าค้างสต๊อกอยู่ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ณ สิ้นปี 2562 กว่า 1.7 แสนหน่วย เป็นคอนโดมิเนียม 7.6 หมื่นหน่วย และเป็นบ้านจัดสรร 9.9 หมื่นหน่วย

ถ้านับเฉพาะอาคารชุดเหลือขายที่สร้างเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างก่อสร้างจะมีประมาณ 5.3 หมื่นหน่วย ส่วนบ้านจัดสรรเหลือขายที่สร้างเสร็จและอยู่ระหว่างสร้างรวมกัน 4.9 หมื่นหน่วย รวมแล้วสต๊อกคอนโดและบ้านจัดสรรในมือผู้ประกอบการที่ต้องเร่งระบายมีอยู่ประมาณ 1 แสนหน่วย ขณะที่อัตราดูดซับที่ศูนย์ข้อมูลทำการสำรวจไว้ในปีนี้ลดลงไปมากเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1% กว่าๆ ต่อเดือน เท่านั้น จากที่เคยมีอัตราดูดซับเฉลี่ย 2.7-3.7% ในปี 2562 ระยะเวลาในการโละสต๊อกเก่าจึงอีกยาวไกลเลยทีเดียว ศูนย์ข้อมูลจึงประเมินเอาไว้ว่า สต๊อกบ้าน-คอนโด จะขยับจาก 1.7 แสนหน่วย ณ สิ้นปี 2562 ไปเตะหลัก 2 แสนหน่วย ในปี 2563 โดยมีมูลค่ารวมถึง 1.3 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว

ดังนั้นถ้าอยากจะให้ขายเร็วยิ่งขึ้นก็ต้องพึ่งปัจจัยที่ 2 ก็คือ ภาวะเศรษฐกิจหลังโควิดคลี่คลายจะฟื้นตัวและดึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาได้เร็วแค่ไหน ซึ่งหลายคนก็มุมมองในการประเมินที่แตกต่างกันออกไป และต้องขึ้นกับปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก รวมถึงยากระตุ้นจากมาตรการที่รัฐบาลจะนำมาใช้ แต่เท่าที่ประเมินกันในตอนนี้ สำหรับปี 2563 คงจะไม่ถึงเวลาที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่จะออกไปทางทรงๆ ทรุดๆ ต้องพักฟื้นอยู่ในห้อง icu เสียมากกว่า ปี 2564 ก็ยังไกลไปที่จะประเมินอะไรในภาวะที่สถานการณ์การระบาดของโควิดยังวางใจไม่ได้เต็ม 100% แต่ถ้าโควิดคลี่คลายแบบการ์ดไม่ตก ปีหน้าเศรษฐกิจไทยก็คงอยู่ในระยะค่อยๆ ฟื้นตัว แต่จะให้ลุกเดินหรือวิ่งได้เลยคงจะไม่ถึงขนาดนั้น

เอาเป็นว่า การแข่งขันในตลาดอสังหาฯจะรุนแรงในระดับ 10 เต็ม 10 ไปอีกอย่างน้อยๆ ก็ในปี 2563 แต่ใครจะเล่นของหนักของเบามากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานภาพของแต่ละบริษัท และจังหวะจะโคนในการออกอาวุธ แต่สรุปก็คือ ปีนี้ยังเป็นปีทองของผู้ซื้อที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน เพราะได้ช็อปของในราคาที่คุ้มค่า ในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำสุดๆ และยังมีมาตรการลดค่าโอน ลดค่าจำนองของรัฐ ท็อป-อัพให้อีก โอกาสดีๆ แบบนี้คงหาได้ไม่บ่อยนัก

อ่านประกอบ: บ้าน-คอนโด สต๊อกล้นกทม. 2 แสนหน่วย อสังหาฯเงินจมกว่า 1.3 ล้านล้านบาท

ติดตามช่อง Property Mentor Chanel ทาง YouTube

ขอบคุณภาพประกอบ Alexey Hulsov / Clker-Free-Vector-Images จาก Pixabay