วิกฤติจากไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงในทุกมิติของสังคม ตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงภาคธุรกิจที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ เช่นเดียวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เหมือนเป็นเคราะห์กรรมที่ซ้ำซ้อนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และมาหนักหน่วงที่สุดเมื่อไวรัสโควิด-19 เริ่มคายพิษ เศรษฐกิจถดถอย กำลังซื้อหดหาย สุดท้ายก็ต้องดิ้นเอาตัวให้รอด ด้วยมาตรการขั้นสูงสุด นั่นก็คือการลดราคา เพื่อรักษาสภาพคล่อง
เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ ให้นิยามภาวะตลาดในช่วงนี้ว่า มันคือ ภาวะสงคราม ที่ต้องใช้ความเร็วเหนือเหตุผล (speed to market) ซึ่งความรวดเร็วในทุกๆ ด้าน คือหัวใจสำคัญที่จำทำให้ได้เปรียบคู่แข่งขัน โดยพร้อมที่จะยอมขาดทุนเพื่อให้ขายได้ มีสภาพคล่องกลับมา ดีกว่าวาดฝันถึงกำไร แต่ทำไม่ได้
เมื่อรายใหญ่เปิดโหมดสงครามการตลาดในภาคอสังหาฯจึงดุเดือดเลือดผล่าน นับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 เริ่มส่งผลกระทบไปในทุกภาคส่วน ซึ่งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานกิจกรรมการตลาดของผู้ประกอบการอสังหาฯในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 41.8% ของจำนวนโครงการตัวอย่างที่ทำการส่ารวจ 150 โครงการ ใช้กลยุทธ์ลดราคาห้องชุดที่เหลือขายและที่นำกลับมาขายใหม่ (ห้องชุดหลุดดาวน์) โดยมีการลดราคาขายลงตั้งแต่ 10-36.2% ส่งผลให้ดัชนีราคาห้องชุด ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มจัดทำดัชนีราคาห้องชุด
ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายยังจัดอีเวนต์พิเศษที่ให้ส่วนลดกันแบบถึงใจ 50% ก็เพื่อเร่งระบายสต๊อกเก่าออกไปให้ได้มากที่สุด แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดก็ตาม
เช่นเดียวกับกลยุทธ์ให้อยู่ฟรีโดยที่บริษัทเป็นผู้ผ่อนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแทนให้มีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 3 ปี ถือเป็นแคมเปญที่ตอบโจทย์ เรียลดีมานด์ ที่แม้ว่าจะมีความต้องการซื้อแต่ไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคต ทำให้โปรอยู่ฟรี ท็อปอัพด้วยส่วนลดพิเศษ เป็นกลยุทธ์ซื้ออนาคตที่ช่วยปั๊มยอดขายให้หลายบริษัทเป็นที่น่าพอใจ และกลายเป็นโปรฮิตติดลมบนมีหลายๆ บริษัท ใช้กันอย่างคึกโครม
อาทิเช่น ออริจิ้น ให้สิทธิ์อยู่ฟรีสูงสุดถึง 3 ปี หรือ 36 เดือน สำหรับผู้ซื้อคอนโด 13 โครงการพร้อมอยู่ เช่นเดียวกับ แสนสิริ ที่ให้ลูกค้าที่ซื้ออยู่ฟรีสูงสุด 24 เดือน เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง เปิดแคมเปญให้อยู่ฟรี 12 เดือน เช่นเดียวกับ ศุภาลัย ที่ให้ลูกค้าที่จองบ้านและคอนโดมิเนียม สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ได้อยู่ฟรี 12 เดือน พฤกษา เรียลเอสเตท ฟรีดอกเบี้ยให้ 24 เดือน อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ให้อยู่ฟรีสูงสุด 24 เดือน เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ให้ผ่อน 0 บาท นาน 6 เดือน ขณะที่ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เตรียมออกแคมเปญอยู่ฟรี 30 เดือนสำหรับคอนโดพร้อมอยู่ และปลอดดอกเบี้ย 1 ปี สำหรับบ้านแนวราบ ในเดือนพ.ค.นี้ เป็นต้น
ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้ปล่อยโปรโมชั่นพิเศษ ปลอดหนี้ 2 ปี ภายใต้แคมเปญ MOVE NOW! ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่รองรับสถานการณ์โควิด-19 เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยยังเป็นปัจจัยสำคัญ หากแต่สถานการณ์ปัจจุบันลูกค้ามีความกังวลในการตัดสินใจซื้อ ปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับเกินเป้าที่คาดไว้ สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อในตลาดยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลที่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าในระดับราคาที่เหมาะสม จึงทำให้บริษัทเตรียมขยายเวลาโปรโมชั่นพิเศษสุดนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 นี้
นอกจากการจัดโปร ลด แจก แถม พร้อมอยู่ฟรี จะโดนใจกลุ่ม เรียลดีมานด์ แล้ว ยังไปกระชากใจกลุ่มนักลงทุนและนักเก็งกำไร ที่มีเงินเย็นให้รีบๆ เปิดกระเป๋า พร้อมออก shop around ให้ได้เงื่อนไขที่สร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด ขณะที่ผู้ประกอบการ ต่างก็มีโฟกัสที่ชัดเจนทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์ และ อินเวสเตอร์ แบบไม่ต้องกั๊กๆ กล้าๆ กลัวๆ เรียกว่า กลุ่มไหนซื้อ เราพร้อมขายหมด
นันทชาติ กลีบพิพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท เนอวานา ไดอิ เผยว่า บริษัทมองเห็นถึงโอกาสในการลงทุนซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน พร้อมเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนสร้างความมั่นใจถึงความคุ้มค่าในการตัดสินใจซื้อบ้านและกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาฯในช่วงนี้ ให้ทุกคนฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกันด้วยการมอบข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับทุกคนที่รับชมโครงการบ้านผ่านไลฟ์ สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านในฝันหรือนักลงทุนที่มีความพร้อม ที่จะได้ครอบครองบ้านและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บนทำเลศักยภาพที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในราคาที่ถูกลง
ขณะที่ อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จในด้านการยอดขายจากแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ที่ลูกค้าตอบรับแรง จากการที่ เมื่อจองซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ไม่ต้องมีภาระใดๆ ไปถึง 24 เดือน นำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ ตัดกังวลใจจากทั้งภาวะเศรษฐกิจหรือการงานมีเวลาเตรียมตัวยาวไปถึง 2 ปี ส่งผลให้แคมเปญได้รับการตอบรับที่ดี และมียอดขายพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทมียอดขายในไตรมาส 2 รวมแล้วถึง 4,200 ภายในช่วงระยะเวลาเพียง 3 สัปดาห์ของเดือนเมษายน
“จากความสำเร็จด้านยอดขายอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงได้พิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 12,000 ล้านบาทและเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวผ่านทุกสถานการณ์ด้วยความแข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน” นายอุทัย กล่าว
นอกจากนี้ ความสำเร็จของแคมเปญ ยังส่งผลให้ปิดการขายเพิ่มเติมอีก 2 คอนโดมิเนียม ได้แก่ โครงการ ดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต มูลค่าโครงการ 910 ล้านบาท และ เดอะ เบส เพชรเกษม มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเก็บจากเหตุผลด้านราคาที่ดีมากและเชื่อมั่นว่าราคาจะสูงขึ้นอีกในอนาคต ด้วยศักยภาพทั้งในด้านจุดเด่นของตัวโครงการและศักภาพของทำเลที่ตั้งและแบรนด์แสนสิริ
สำหรับโครงการดีคอนโด แคมปัส โดม รังสิต ราคาเฉลี่ย 65,000 บาทต่อตารางเมตร มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าจากการปิดการขาย ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุนในสัดส่วน 50:50 มีอัตราผลตอบแทนต่อการปล่อยเช่า หรือ Yield สูงถึงเกือบ 6% ส่วนโครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม ราคาเฉลี่ย 100,000 บาทต่อตารางเมตร มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุน ในสัดส่วน 60:40 และมีอัตราผลตอบแทนต่อการปล่อยเช่า หรือ Yield ถึง 4.5-5.5%
เชื่อว่า การแข่งขันในตลาดอสังหาฯ จะยังทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างขึ้นเป็นลำดับ ตราบใดวิกฤติจากไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ และสต๊อกที่มีอย่างเหลือล้นยังต้องเร่งระบาย ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ แสนสิริ “เศรษฐา ทวีสิน” ประเมินเอาไว้ว่า ถ้าไวรัสจบได้ในไตรมาสที่ 2 ตลาดน่าจะเริ่มกลับมามีสีสันได้ในช่วงต้นปี 2564 เพราะต้องใช้เวลาในช่วงที่เหลือของปีนี้ในการฟื้นตัว ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจอาจจะต้องใช้เวลา 3-5 ปี ที่จะฟื้นตัวกลับมาใหม่ ส่วนสต๊อกที่มีอยู่ขณะนี้จะต้องใช้เวลาถึง 18 เดือนถึงจะระบายออกไปหมด ภายใต้เงื่อนไขโครงการใหม่จะต้องไม่เกิดขึ้นเลย
งานนี้คงต้องตั้งการ์ดสูงกันแบบยาวๆ