fbpx
พัทยา ชลบุรี ประกอบข่าว

“คุณปลื้ม” เปิดแลนด์แบงก์ลุยอสังหาฯรับอีอีซี

นอกจากจะเป็นท่านนายก(เทศมนตรี) ของชาวเทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรีแล้ว ณรงค์ชัย คุณปลื้ม ยังเป็นผู้ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลคุณปลื้มในนามบริษัท บางแสนบุรี จำกัด แม้จะออกตัวว่า เป็นเพียงบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายเล็กๆ ที่มีโครงการในมืออยู่ไม่กี่โครงการ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ดินสะสมในเมืองชลแล้วก็ต้องถือว่าเป็นแลนด์ลอร์ดเบอร์ต้นๆ ของจังหวัด เพราะยังมีที่ดินในความครอบครองอีกหลายพันไร่ ในเขตศรีราชา พัทยา และบางแสน ที่สามารถจะนำมาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล้อไปกับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

ณรงค์ชัย

เล็งดึง ‘โอกุระ’ ร่วมผุดซีเนียร์ เฮาส์ซิ่ง
เฉพาะแค่ในพื้นที่เทศบาลเมืองแสนสุขกลุ่มคุณปลื้มก็มีที่ดินอยู่กว่า 200 ไร่ เป็นที่ดินที่ติดหาดบางแสน 5 แปลง แปลงใหญ่สุด 10 ไร่ รองลงมา 5 ไร่ ที่เหลือก็เป็นแปลงเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีที่ดินบริเวณถนนเลี่ยงเมืองหนองมน 70 ไร่ มีแผนจะพัฒนาเป็น ซีเนียร์เฮาส์ซิ่ง ไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า โดยอาจจะให้โอกุระซึ่งมีธุรกิจนี้ที่ญี่ปุ่นมาช่วยบริหาร และยังมีที่ดินที่ปัจจุบันทำเป็นตลาดนัดปาร์ค อิน อีก 60 ไร่ และพื้นที่ฝั่งตรงข้ามอีก 15 ไร่ที่รอเวลาในการพัฒนา

ณรงค์ชัย บอกว่า ตลาดอสังหาฯในบางแสนปัจจุบันซัพพลายน้อยลง เพราะเจอผลกระทบจากมาตรการคุมสินเชื่อลูกค้ากู้เงินได้ยากขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันที่ดินฝั่งถนนสุขุมวิทตารางวาละ 5 หมื่นบาท ที่ดินบริเวณชายหาดที่มีการซื้อขายกันจริงๆ ตารางวาละ 1.4 แสนบาท ส่วนที่บอกขายอยู่ก็มีราคาที่สูงกว่านั้น เมื่อราคาที่ดินสูงนำมาพัฒนาโครงการขายในราคา 3 ล้านบาทคงขายไม่ได้ในตอนนี้ เพราะตลาดบางแสนส่วนใหญ่คอนโดและทาวน์เฮาส์ที่ยังขายได้ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ถ้าเป็นบ้านแฝดราคาไม่เกิน 2.4 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวราคา 3.5-5 ล้านบาทยังขายได้

จีนบุกบางแสนผุดคอนโดกว่า4พันยูนิต
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอสังหาฯในพื้นที่ประมาณ 10 ราย และเริ่มมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากในกรุงเทพฯ เข้ามา 3 ราย คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการทั้งแนวราบ และแนวสูงโดยเฉพาะแนวสูง

นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนชาวจีน เข้ามาร่วมทุนกับผู้ประกอบการในพื้นที่ คือกลุ่มเบญญาภา พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาคอนโดฯบนพื้นที่กว่า 10 ไร่ บริเวณใกล้หาดวอนนภา จำนวน 5 อาคาร สูง 46 ชั้น อาคารละ 850 ยูนิต รวมกว่า 4,000 ยูนิต ขณะนี้ผ่านการอนุมัติการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างการยื่นขออนุญาตก่อสร้างก่อนจำนวน 1 อาคาร และยังมีโรงแรม อีก 70 ห้องพักขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

“หากอนาคตระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด ก็จะทำให้พื้นที่บางแสนมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถเดินทางจากกทม. ได้สะดวกสบาย แต่ตอนนี้ยังติดปัญหาเรื่องต้นทุนที่ดิน โดยเฉพาะทำเลติดชายหาดยังสูงมาก ซึ่งไม่สอดรับกับกำลังซื้อในตลาด” ณรงค์ชัย กล่าว

สำหรับบริษัท บางแสนบุรี ปัจจุบัน พัฒนาโครงการบ้านปลื้มสุข ในเฟสที่ 2 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว ราคา 4.8 ล้านบาท กว่า 100 หลัง และโครงการ The Blu X Bangsaen ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม บนถนนบางแสนสายล่าง ใกล้กับชายหาดวอนนภา หาดบางแสน และมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้น ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว

ลุยขายThe Blu X Bangsaen ล๊อตสุดท้าย
ฐิติรัตน์ วิภวานี ผู้จัดการโครงการ The Blu X Bangsaen กล่าวว่า โครงการดังกล่าว ตั้งอยู่บนใจกลางเมืองบางแสน บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา เป็นคอนโด 2 อาคาร จำนวน 153 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 369 ล้านบาท อาคาร A มีจำนวน 76 ยูนิต และอาคาร B จำนวน 77 ยูนิต มีขนาดห้องให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ Type A ขนาด 27 ตารางเมตร(ตร.ม.) Type B ขนาด 32 ตร.ม. Type C ขนาด 41 ตร.ม. และ Type D ขนาด 50 ตร.ม.ราคาขายเริ่ม 2.4 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 80% และได้ส่งมอบให้ลูกค้าแล้วจำนวน 106 ยูนิต

ฐิติรัตน์

“ทุกวันนี้ภาพลักษณ์ของบางแสนไม่ใช่แค่เป็นเมืองท่องเที่ยว แต่เป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัยรองรับกับแผนการพัฒนาอีอีซี ” ผู้จัดการโครงการ The Blu X Bangsaen กล่าว และด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางบางแสน อยู่กึ่งกลางระหว่างชายหาดวอนนภา-หาดบางแสน และ มหาวิทยาบูรพา จึงมีทั้งความอุดมสมบูรณ์ของกินของขาย มีร้านอาหาร ร้าน Hang out หลากหลายช่วงเย็นๆค่อนข้างคึกคัก และรอบชายหาดให้ไปนั่งพักผ่อนใช้ชีวิตชิวๆได้ ซึ่งผ่านมาโครงการ The Blu X Bangsaen ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งที่ซื้ออยู่อาศัยเองซึ่งก็มีทั้งบุคคลากรที่ทำงานในย่านดังกล่าว และกลุ่มผู้ปกครอง พ่อ แม่ ที่ซื้อเพื่อให้เป็นที่พักของบุตรหลานที่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยบูรพา รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า

“แลนด์แบงก์” หลายพันไร่ในจังหวัดชลบุรีของกลุ่มคุณปลื้ม จะเริ่มทะยอยนำมาพัฒนาในช่วงเวลาที่เหมาะสม รองรับการเติบโตของเมืองชลหลังจากที่อีอีซีเดินหน้าเต็มตัว สร้างรายได้รองรับการเติบโตของธุรกิจ และสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคทั้งที่เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งผู้บริหารของบางแสนบุรี มั่นใจว่า การพัฒนาเมืองในจังหวัดชลบุรีจะมีการเติบโตขึ้นทั้งจากศักยภาพของพื้นที่ชลบุรีซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม สะดวกในการเดินทางใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในอีอีซีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต