fbpx
click here 23

อสังหาฯฝ่าปัจจัยลบ เดินหน้าลงทุนปั๊มยอดขาย

The Show Must Go On ไม่ว่าจะอย่างไร …ก็ต้องดำเนินต่อไป ฟังดูมันเข้ากับสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวลานี้จริงๆ เมื่อมองไปข้างหน้า เห็นอุปสรรคขวากหนามขวางอยู่เต็มทาง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อไป เมื่อบริษัทรายใหญ่ยังคงประกาศแผนลงทุนเต็มพิกัดในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าจะมีปัจจัยลบต่างๆ ขวางอยู่เต็มลำ และดูท่าว่าทั้งปีตลาดจะติดลบเกินกว่าหลัก 10%

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย มองว่า โอเคล่ะ ตลาดในปีนี้น่าจะติดลบ ก็หวังว่าคงจะติดลบไม่มาก และถ้ามองให้เป็นโอกาส มันก็ทำให้ซัพพลายใหม่เข้ามาน้อยลง และเป็นจังหวะที่ดี สำหรับการพัฒนาโครงการที่เน้นกลุ่มเรียลดีมานด์ ถ้าพัฒนาสินค้าในราคาที่ถูกต้อง และถูกตังค์กว่าคนอื่นๆ ก็เชื่อว่ายังคงขายได้ เมื่อมองดูยอดขายในครึ่งปีแรกก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ทุกอย่างยัง Go On ไปตามเป้าหมาย ในครึ่งปีหลังจึงยังจัดเต็มตามแผนเดิม

คอนโดศุภาลัย
ศุภาลัย ปาร์ค แยกไฟฉาย คอนโดโครงการแรกของศุภาลัยในครึ่งปีหลัง

ปีนี้ ศุภาลัยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 31 โครงการ มูลค่ารวม 4 หมื่นล้านบาท ครึ่งปีแรกเปิดขายไปแล้ว 9 โครงการ เป็นบ้านแนวราบ 7 และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 1.9 หมื่นล้านบาท ในครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการอีก 22 โครงการ มูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโด 3 โครงการ อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการและกำลังจะเปิด ส่วนบ้านแนวราบ 19 โครงการ อยู่ในกทม. และภูมิภาค ประมาณครึ่ง:ครึ่ง

“บ้านแนวราบค่อยๆ ดีขึ้น หลังจากแผ่วไปในช่วงที่ออกมาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ลูกค้าสับสนและไม่กล่าซื้อ ตอนนี้ลูกค้าเข้าใจมากขึ้นแล้ว ซึ่งคาดว่า ในภาพรวมไตรมาสที่ 3 น่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 แม้การคาดการของการขยายตัวของเศรษฐกิจจะถูกลดลง แต่อัตราการจ้างงานยังดีอยู่ และการลงทุนภาครัฐที่ชะลอตัวอาจจะกระทบกำลังซื้ออยู่บ้างก็ตาม แต่เมื่อรัฐบาลใหม่ตั้งหลักได้ก็น่าจะเร่งการลงทุนของรัฐต่อเนื่อง สถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น” ไตรเตชะ กล่าว

เช่นเดียวกับบิ๊กเนมรายอื่นๆ ที่ยังคอนเฟิร์มเดินหน้าลงทุนตามแผน ไม่เช่นนั้นผลประกอบการจะไม่เดินไปตามเป้าที่ตั้งไว้ แต่ก็พร้อมจะปรับแผนที่จำเป็น

ชัยยุทธ ชุณหะชา

ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาส 2/2562 บริษัทมียอดขายกว่า 6,100 ล้านบาท เติบโต 27% จากไตรมาสแรก ส่งผลให้ครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายสะสมกว่า 10,915 ล้านบาท โดยมาจากการขายโครงการเดิมที่มีอยู่ในมือเป็นหลัก ถือว่าเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความท้าทายทั้งปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ และเชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะใกล้รถไฟฟ้ายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

สำหรับ ในครึ่งปีแรก บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่เพียง 2 โครงการ คิดเป็น 30% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2562 ที่ระดับ 36,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังทางบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่อีกหลายโครงการ โดยบริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนากว่า 10 แปลง สำหรับเตรียมเปิดโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าในราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ ได้แก่ สามย่าน สุขุมวิท ทองหล่อ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้

“อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดอสังหายังคงมีอยู่ ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ โดยบริษัทได้เตรียมพร้อมปรับแผนธุรกิจหากมีความจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพในระยะยาว ทั้งนี้แผนธุรกิจทั้งหมดของบริษัทนั้น ยังคงสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำการเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมทั้งยังคงรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยจะรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ที่ 1 เท่า เป็นเป้าหมายระยะยาว และเราต้องมั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทจะไม่เพิ่มความเสี่ยงซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทในระยะยาว” ดร. ชัยยุทธ กล่าว

ด้าน บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศผลงานครึ่งปีแรก โดยมียอดขายแล้ว 20,800 ล้านบาท และกำลังก้าวสู่เป้ายอดขายรวม 41,800 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้วยการบุกตลาดทั้งแนวราบและแนวสูงครึ่งปีหลัง

วิทการ จันทวิมล

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า แม้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ ครึ่งปีแรกจะมีหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หรือมาตรการควบคุมภายในประเทศที่กระทบบรรยากาศการซื้อขาย แต่เชื่อว่าดีมานด์ลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยยังมีอยู่ แต่เป็นดีมานด์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ‘โลเคชั่น’ ‘แบบบ้าน’ และ ‘แพ็คเกจราคา’ ต้องใช่ถึงตัดสินใจซื้อ

“ความท้าทายของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในวันนี้คือการพัฒนาทั้งรูปแบบและแพ็คเกจราคา บนพื้นฐานความต้องการจริงและความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้า โดยการดำเนินงานในครึ่งปีแรก ภายใต้กลยุทธ์การรบยาวเปิดตัวทุกแบรนด์ในเครือ พัฒนาโปรดักซ์ตอบโจทย์เฉพาะเจาะจงแต่ละเซ็กเมนต์ ส่งผลภาพรวมยอดขายของเอพีไปได้สวย สวนกระแสภาพรวมตลาดที่ค่อนข้างชะลอตัวในครึ่งปีแรก”

สำหรับ ยอดขายรวมครึ่งปีแรกกว่า 20,800 ล้านบาท (ณ 30 มิถุนายน 62) แบ่งเป็น ยอดขายจากคอนโดมิเนียม มูลค่า 9,500 ล้านบาท และ แนวราบมูลค่า 11,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 17,265 ล้านบาท และได้เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วสิ้น 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,785 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เป็นเรียลดีมานด์

“ในส่วนของธุรกิจอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายต่างเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีปัจจับบวกที่จะเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นและบรรยากาศการซื้อขายอสังหาฯ ในครึ่งปีหลัง อาทิ การจัดตั้งรัฐบาล และการฟอร์มทีมดูแลด้านนโยบายเศรษฐกิจของประเทศอย่างชัดเจน โดยคาดว่า อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ จะเข้ามากระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง” นายวิทการ กล่าวเสริม

THE SONNE ศรีนคริทร์-บางนา บ้านแบรนด์ใหม่ของเอพี

ทั้งนี้ แผนการเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง เอพีจะยังคงดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ ด้วยการเปิดตัว 23 โครงการใหม่ มูลค่า 27,265 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮม 12 โครงการ มูลค่า 9,250 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 10 โครงการ มูลค่า 11,715 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 6,300 ล้านบาท สำหรับไฮไลท์ครึ่งปีหลัง คือการเปิดแบรนด์ใหม่บ้านแนวราบภายใต้ชื่อ THE SONNE ศรีนคริทร์-บางนา มูลค่า 600 ล้านบาท และการเปิดคอนโดมิเนียม LIFE SATHORN SIERRA มูลค่า 6,300 ล้านบาท

พีระพงศ์ จรูญเอก
พีระพงศ์ จรูญเอก

ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2562 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยมถึง 7,290 ล้านบาท โดยขณะนี้ยอดขายสะสมของบริษัทในครึ่งปีแรกคือ 13,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของเป้าหมายทั้งปี จากการเปิดโครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ และ 2. โครงการพาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน สามารถสร้างยอดขายได้เหนือความคาดหมาย

จากปริมาณยอดขายและกระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่ยังคงเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสที่ 3/2562 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการพาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี โครงการเคนซิงตัน ดิสทริค ระยอง โครงการภายใต้แบรนด์ดิ ออริจิ้นอีก 3 โครงการใน 3 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ รัชดา ลาดพร้าว และสุขุมวิท และโครงการบ้านจัดสรร บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 8,100 ล้านบาท

“ครึ่งปีหลังของปีนี้ เรายังมีโครงการที่รอเปิดตัวอีกจำนวนมากในทุกเซ็กเมนท์ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร รวมถึงยังมีแคมเปญอีกหลายอย่างที่รอเปิดตัว เริ่มจากของแบรนด์ดิ ออริจิ้น ที่จะเปิดตัวคอนเซ็ปต์ของแบรนด์พร้อมแคมเปญการตลาดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในทุกระดับ และส่งผลให้ยอดขายในปี 2562 เป็นไปตามเป้าหมาย 28,000 ล้านบาท” นายพีระพงศ์ กล่าว

คงต้องตามลุ้นกันต่อว่า แผนการที่แต่ละบริษัทมั่นใจว่าจะไปได้สวยในไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาสที่ 4 นั้น จะเป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ เมื่อปัจจัยด้านลบยังมีมากกว่าปัจจัยด้านบวกแต่ละรายจะปล่อยหมัดเด็ดอะไรเพื่อพิชิตยอดขายในครึ่งปีหลัง หรือจะต้องพับปรับแผนกันในโค้งสุดท้ายคงต้องคอยติดตามกันครับ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *