ศุภาลัยมองตลาดคอนโด และการแข่งขันไตรมาสสุดท้ายปี 68 เผยไตรมาส 3 เริ่มเห็นสัญญาณบวก ไตรมาส 4 อสังหาฯแข่งเดือดแน่ ชี้ดีมานด์เปลี่ยน ผู้ประกอบการต้องปรับให้ทัน
นายไตรเตะชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มองตลาดคอนโดในไตรมาสที่ 3 และแนวโน้มของตลาดอสังหาฯในไตรมาสที่ 4 กับ Demand ที่เปลี่ยนไป และผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง โดยสถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมในไตรมาสที่ 3 เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน แม้ว่าจะจะยังไม่ฟื้น 100% หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็ตาม โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่ผ่านมา ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าเดือนกันยายนจะดูแผ่วลงไปบ้าง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราวอย่างฤดูฝน แต่ภาพรวมก็ยังดีกว่าไตรมาส 2 อย่างชัดเจน จึงเชื่อว่า จุดต่ำสุดของตลาดได้ผ่านพ้นไปแล้วอย่างแท้จริงในไตรมาส 2 และจากนี้ตลาดควรจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้
สำหรับแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 4 เชื่อว่าจะต้องดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมาของปีอย่างแน่นอน เพราะไตรมาส 2 นั้นอ่อนตัวมาก และไตรมาส 4 ถือเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการทุกรายจะออกแคมเปญส่งเสริมการขายครั้งใหญ่ ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อมากที่สุด เราจะได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือด ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย
สิ่งที่น่าสนใจและสะท้อนภาพตลาดได้อย่างชัดเจนคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง หากย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน ลูกค้ามีความต้องการให้เราเพิ่มของแถมต่างๆ เข้าไปในตัวบ้านให้มากที่สุด เพื่อจะได้รวมเข้าไปในยอดสินเชื่อและกู้ทีเดียว แต่ในปัจจุบันลูกค้าต้องการถอดทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกให้หมด เพื่อให้ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น แม้กระทั่งโซลาร์เซลล์ที่เราให้เป็นมาตรฐาน ลูกค้าบางรายยังสอบถามว่าสามารถถอดออกเพื่อลดราคาได้หรือไม่ สิ่งนี้เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า “Price performance” คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าให้ทัน และทำให้เราเห็น Real Demand ของคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ ขณะที่การซื้อเก็งกำไร และลงทุนมีน้อยลง
เมื่อมองในภาพรวมของตลาด จะเห็นว่าปริมาณซัพพลายที่เข้ามาใหม่มีน้อยลงอย่างชัดเจน ปีนี้คาดว่าตลาดในกรุงเทพฯ ปริมณฑล อาจมียูนิตขายได้ใหม่ราว 55,000 ยูนิต เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติในอดีตที่เคยแตะหลัก 100,000 ยูนิต การที่ซัพพลายใหม่น้อยลงนี้เองที่เปิดโอกาสให้ตลาดเติบโตได้อีกมาก และเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่ยังแข็งแกร่งอย่างศุภาลัยในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด
สำหรับศุภาลัย เราตื่นเต้นกับโอกาสในอนาคต เพราะเราเตรียมความพร้อมสำหรับวันแบบนี้มาตลอด ด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและมีกำลังที่จะลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน ทำให้การวางแผนธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากเดิมที่เคยมองแผนล่วงหน้า 2-3 ปี ตอนนี้การคาดการณ์สถานการณ์ในไตรมาสหน้าให้แม่นยำยังเป็นเรื่องท้าทาย ดังนั้น เราจึงต้องอยู่กับปัจจุบันและทำให้ดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ผ่านการพัฒนาองค์กรและลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุด เมื่อมองไปที่รัฐบาลชุดใหม่ ผมไม่ได้มีความคาดหวังใดเป็นพิเศษ เนื่องจากเข้าใจดีว่ามีกรอบระยะเวลาการทำงานที่จำกัด แต่สิ่งที่อยากเห็นคือการดำเนินนโยบายที่เป็น Quick Winสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน
