ทำเลพระราม 2 เป็นหนึ่งในทำเลอยู่อาศัยศักยภาพสูงของกทม.-ปริมณฑล เป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมืองได้อย่างสะดวก มีสาธารณูปโภค สาธารณูปการ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่างครบครัน จึงเป็นทำเลขวัญใจมหาชนคนต้องการหาที่อยู่อาศัยใกล้เมืองมาอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าเมื่อมี Demand จึงมีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
แต่บริษัทที่ถือว่าเป็นเจ้าเก่าที่ยืนหนึ่งในย่านพระราม 2 มายาวนานมากกว่า 30 ปี ก็ต้องยกให้ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่มาแล้วมากมายหลายโครงการ
ล่าสุดกานดา พร็อพเพอร์ตี้ได้เปิดตัวบ้านเดี่ยวใหม่ในโครงการไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม. 14 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่ในพื้นที่ที่เรียกได้ว่าเป็น “เมืองแห่งการอยู่อาศัย” บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแฟล็กชิพของกานดา พร็อพเพอร์ตี้ ที่มาพร้อม 5 Kanda Concept แนวคิดการออกแบบบ้านที่จะทำให้โครงการคุ้มค่า น่าอยู่อาศัย และอยู่ได้อย่างยั่งยืน วันนี้เราพาไปดูบ้านเดี่ยวใหม่ในโครงการนี้กันครับ
กานดา พร็อพเพอร์ตี้ กับ 5 Kanda Concept
ถ้าพูดถึง บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ คนในย่านพระราม 2 จะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นบริษัทที่เริ่มต้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลพระราม 2 มานานกว่า 30 ปี ก่อนจะขยายไปในทำเลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ประชาอุทิศ90 รังสิต-ลำลูกกา ราชพฤกษ์-กาญจนาฯ รามอินทรา-คู้บอน เศรษฐกิจ-บางปลา เทพารักษ์-บางบ่อ พัทยา หรือ ภูเก็ตและด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ได้ถูกพัฒนาเป็นแนวคิดการออกแบบบ้านที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข คุ้มค่า และยั่งยืน ที่เรียกว่า 5 Kanda Concept ซึ่งประกอบด้วย

-Eco Smart ออกแบบและเลือกใช้วัสดุเพื่อลดการใช้พลังงาน
-Easy Maintenance ออกแบบบ้านให้ง่ายต่อการซ่อมบำรุงในอนาคต
-Space Matter ให้ความสำคัญกับการออกแบบทุกพื้นที่ใช้สอย
-Multi Generation รองรับได้ทุกช่วงวัย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
-Flood Protection จัดทำระบบป้องกันอุทกภัย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม 5 Kanda Concept for New Lifestyle
พระราม 2 ทำเลอยู่อาศัยศักยภาพสูงใกล้ๆ เมือง
สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนพระราม 2 กม. 14 ถือเป็นทำเลศักยภาพสูงในการอยู่อาศัย และกำลังจะถูกยกระดับด้วยโครงข่ายคมนาคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งการปรับปรุงถนน ทางด่วนสายใหม่ และรถไฟฟ้า ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกรวดเร็วขึ้น และยิ่งเพิ่มศักยภาพให้ทำเลพระราม 2 เป็นทำเลที่อยู่อาศัยใกล้เมืองที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ถนนพระราม 2 ถือเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจของเมือง ไม่ว่าจะเป็น สีลม สาทร สุขุมวิท เพลินจิต ชิดลม พระราม 9 ได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วย ด้วยทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนศรีรัช และในอนาคตจะมีทางยกระดับพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก ที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะเปิดใช้บริการปลายปี 2568 โดยมีจุดขึ้นลงปลายทางอยู่ที่บริเวณซอยบางกระดี่ ห่างจากซอยแสมดำซึ่งเป็นทางเข้าโครงการเพียง 2.7 กม. และยังเชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางขุนเทียน-ปากท่อ ซึ่งเป็นมอเตอร์เวย์ยกระดับบนถนนพระราม 2 วิ่งยาวไปจนถึงแยกวังมะนาว โดยในช่วงแรกบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ระยะทาง 24.7 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดให้ทดลองวิ่งภายในปลายปี 2568 เช่นกัน

นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังมีแผนก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ตามแนววงแหวนฝั่งตะวันตก ตามแผนจะเริ่มดำเนินการได่ในปี 2568 และแล้วเสร็จ ภายในปี 2571 เพื่อแบ่งเบาการจราจรบนถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการใช้เป็นเส้นทาง bypass ไปยังพื้นที่ส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ ปริมณฑล และยังเชื่อมโยงกับถนนสายรอง อย่างเช่น ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ถนนเอกชัย-บางบอน ถนนพุทธบูชา และถนนท่าข้าม เป็นต้น ทำให้การเดินทางคล่องตัวยิ่งขึ้น
โครงข่ายรถไฟฟ้าเสริมศักยภาพ สู่ Sub Center โซนใต้
นอกจากโครงข่ายถนนแล้ว ทำเลพระราม 2 ยังมีโครงข่ายรถไฟฟ้าเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทาง แม้ว่าจะไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่พระราม 2 โดยตรง แต่ก็ยังถือเป็นพื้นที่ให้บริการของรถไฟฟ้าด้วยกันหลายเส้นทาง เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ซึ่งมีสถานีอยู่บริเวณหัวถนนพระราม 2 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2572 อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2572 และเปิดให้บริการได้ในปี 2576 โดยมีสถานีที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนักคือสถานีบางน้ำจืด ระยะทางประมาณ 6 กม.เศษ รวมถึงรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว อย่างเช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค และสายสีเขียวอ่อน สนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า ก็เป็นทางเลือกในการเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพฯและปริมณฑลได้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครที่กำลังปรับปรุงและคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในปี 2570 ได้กำหนดบทบาทให้พื้นที่บริเวณถนนพระราม 2 เป็นศูนย์ชุมชนชานเมืองกรุงเทพตะวันตก (Sub Center) เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างแหล่งงานและที่อยู่อาศัย (Job-Housing Balance) ในเขตชานเมือง โดยจะส่งเสริมให้มีการค้าและการบริการ รวมถึงอาคารสำนักงาน จะทำให้ในพื้นที่พระราม 2 และบริเวณใกล้เคียง มีศักยภาพในการพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในผังนโยบายระดับประเทศยังกำหนดบทบาทจังหวัดสมุทรสาครให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจมูลค่าสูง (High Value Economy City): เนื่องจากสมุทรสาครเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจระดับประเทศ ทั้งในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการผลิต การเกษตรและประมงครบวงจร การเชื่อมโยงตลาดและการค้าภูมิภาค

จากบทบาทตามผังเมืองทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรสาครทำให้ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมต่อทั้ง 2 จังหวัดจะมีศักยภาพที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งด้านความเจริญที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมูลค่าของที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ที่จะปรับตัวตาม
ไอลีฟ พระราม 2 เมืองแห่งการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์
เข้ามาที่โครงการไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม. 14 เป็นหนึ่งในโครงการที่พัฒนาในพื้นที่เดียวกับโครงการอื่นๆ ของบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ให้กลายเป็นเมืองแห่งการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ บนถนนพระราม 2 กิโลเมตรที่ 14 เนื้อที่รวมกว่า 300 ไร่ ที่แบ่งโซนของแต่ละโครงการอย่างชัดเจน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็น คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และร้านค้าอาคารพาณิชย์ในพื้นที่
ในส่วนของโครงการไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม. 14 มีเนื้อที่ 33 ไร่เศษ สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือ ซอยแสมดำและซอยพันท้ายนรสิงห์ ที่ตั้งของโครงการอยู่ห่างจากปากซอยแสมดำประมาณ 4 กม. ห่างจากปากซอยพันท้ายนรสิงห์ (พระราม 2 กม.17) ประมาณ 3.7 กม. ระยะทางจากทางด่วนเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1 ) ถึงตัวโครงการประมาณ 20.4 กม. หรือถ้าต้องการใช้วงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อไปบางบัวทองหรือบางนาก็อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 13 กม.

ในอนาคตเมื่อทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกเปิดใช้บริการปลายปี 2568 จะยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น เพราะสามารถใช้ทางด่วนวิ่งยาวมาลงตรงด่านบางกระดี่ อยู่ห่างจากซอยแสมดำซึ่งเป็นทางเข้าโครงการประมาณ 2 กม. และมีด่านขึ้นทางด่วนวิ่งเข้าเมืองอยู่ที่บริเวณพระราม 2 ซอย 84 สะดวกทั้งวิ่งเข้า วิ่งออกเมืองเลยทีเดียว
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็มีรองรับกันอย่างเต็มที่และระยะทางไม่ไกลจากโครงการ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง อย่างเช่น เซ็นทรัล พระราม 2 (15.9 กม.) เซ็นทรัล มหาชัย (14 กม.) พอร์โต้ ชิโน่ พระราม 2 (13 กม.) เดอะไบรท์ พระราม 2 (20 กม.) แหล่งจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันก็มากันครบ ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กซี สมุทรสาคร (14 กม.) โลตัส สมุทรสาคร (15 กม.) แม็คโคร สมุทรสาคร (12 กม.) หรือจะเป็น บิ๊กซี พระราม 2 (22 กม.) โลตัส พระราม 2 (18 กม.) รวมไปถึงตลาดสดมหาชัย ร้านอาหารทะเลชายทะเลบางขุนเทียนก็อยู่ไม่ไกล ส่วนโรงพยาบาลก็มีทั้ง โรงพยาบาลนครธน (17 กม.) โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล (22 กม.) โรงพยาบาลบางมด (20 กม.) โรงพยาบาลมหาชัย (16 กม.) สถานศึกษาในย่านนี้ก็มีโรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2 (5 กม.) โรงเรียนเลิศหล้า กาญจนาภิเษก (23 กม.) โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ บางบอน (16 กม.) เป็นต้น
บ้านเดี่ยว 3 แบบ 3 สไตล์ ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย
สำหรับบ้านเดี่ยวในโครงการไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม. 14 ออกแบบในสไตล์ English Garden ที่โดดเด่นด้วยความคลาสสิกของบ้านและสวนในสไตล์อังกฤษที่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นมีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่

Daisy บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 52.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 158 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ ราคา 4.69 ล้านบาท
บ้านเดี่ยวที่ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มการใช้ชีวิตของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ด้วยฟังก์ชั่นที่ครบครันและพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์รองรับได้ตั้งแต่ครอบครัวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง-ใหญ่ได้อย่างสบายเลยทีเดียว
พื้นที่ชั้นล่างด้านหน้าสุดเป็นโซน Living Area รองรับการพักผ่อนสบายๆ ของสมาชิกในครอบครัวหรือแขกผู้มาเยือน เชื่อมต่อไปถึง Dining Area หรือพื้นที่รับประทานอาหาร ถูกจัดวางไว้สำหรับ 6 ที่นั่ง ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัด ด้วยบานหน้าต่างขนาดใหญ่ด้านข้าง และประตูบานสไลด์ที่เชื่อมต่อออกไปพื้นที่ Out Door ที่ด้านหลังของ Dining Area
นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นที่โซนด้านหน้านอกจากจะเป็น Living Area แล้ว ยังออกแบบให้มีมุมสำหรับนั่งทำงาน หรือมุมสำหรับทำการบ้าน อ่านหนังสือสำหรับเด็กๆ หรือเป็นพื้นที่สำหรับ Live ตอบโจทย์ชีวิตดิจิทัลของสมาชิกในครอบครัว

ถัดเข้ามาโซนด้านในของชั้นล่างเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนอนสำหรับผู้สูงวัยในบ้านตอบโจทย์แนวคิด Multi Generation หรือจะจัดเป็นห้องนอนสำหรับแขกก็ได้ ตัวห้องกว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต รวมถึงมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ มีหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติถึง 2 ด้านช่วยให้ห้องโปร่งโล่ง นอกจากนี้ยังสามารถปรับเป็นห้องคาราโอเกะ ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องเกมเมอร์ หรือห้องออกกำลังกายได้ตามต้องการ
ด้านในของพื้นที่ชั้นล่างออกแบบให้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารและห้องครัว สำหรับครัวในมีพื้นที่กว้างขวางมีพื้นที่จัดเตรียมอาหารได้ทั้งสองฝั่ง และโดดเด่นด้วยช่องกระจกบานใหญ่ที่เปิดกว้าง มองเห็นบรรยากาศภายนอกได้เพลินๆ พื้นที่ตรงนี้อาจจะจัดเป็นมุมนั่งทานกาแฟก็จะได้บรรยากาศแบบชิลๆ ส่วนพื้นที่ด้านนอกสามารถต่อเติมเป็นครัวไทยสำหรับทำอาหารหนักๆ ไม่ส่งกลิ่นเข้าไปในตัวบ้าน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ซึ่งประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ บริเวณโถงชั้น 2 เปิดรับแสงธรรมชาติจากช่องรับแสงขนาดใหญ่บริเวณโถงบันไดและโถงหน้าห้องที่มีพื้นที่เพียงพอที่จะจัดเป็นมุมนั่งเล่นของครอบครัวได้อีกจุดหนึ่งเลยทีเดียว และที่บริเวณโถงชั้น 2 ยังติดตั้งพัดลมดูดอากาศสำหรับช่วยระบายความร้อนในตัวบ้าน จุดเชื่อมต่อสัญญาณไวฟาย และจุดเชื่อมต่อโซล่าเซลล์เอาไว้ให้เรียบร้อย

เข้ามาที่ Master Bedroom เป็นห้องนอนขนาดใหญ่พิเศษมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ 2 ด้าน เพิ่มความโปร่ง โล่ง สบาย สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้อย่างสบายๆ พร้อมพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ และมีมุมสำหรับวางโทรทัศน์ได้อีกด้วย ที่สำคัญคือมีห้องน้ำในตัวเพิ่มความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว
ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้และยังมีพื้นที่เหลือเพียงพอ สามารถวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นบิวท์อินที่ติดตั้งแล้วก็ยังทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ไม่รู้สึกคับแคบ นอกจากจะเป็นห้องสำหรับพักผ่อนแล้วยังปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการไม่ว่าจะเป็นห้องทำการบ้านของเด็กๆ ห้องหนังสือ ห้องออกกำลังกาย ห้องโยคะ ห้องสำหรับ Live หรือจะเป็น Family Room ส่วนตัวบนชั้น 2 ก็ได้ และยังมีห้องน้ำอีก 1 ห้อง สำหรับให้ห้องนอนทั้ง 2 ห้องได้ใช้ร่วมกัน

Ivy บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 52.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 211 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น 3 ที่จอดรถ ราคา 5.49 ล้านบาท
จุดเด่นสำคัญของแบบบ้าน IVY คือ พื้นที่ใช้สอยรองรับสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยพื้นที่ในแต่ละฟังก์ชั่นที่กว้างขวางและโปร่งโล่งสบาย การจัดสรรพื้นที่ชั้น 1 สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ พื้นที่ Living Area ที่กว้างขวางมาก เชื่อมต่อกับ Dinin Area หรือพื้นที่รับประทานอาหาร ที่รับแสงธรรมชาติด้วยบานหน้าต่างขนาดใหญ่ และ และประตูบานสไลด์ที่เชื่อมต่อออกไปพื้นที่ Out Door ที่ด้านหลังทำให้เป็นพื้นที่ที่นั่งเล่นได้อย่างสบายๆ ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีความกว้างขวาง ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับผู้สูงอายุ หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนแขก รวมถึงห้องสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ หรือแม้กระทั่งห้องทำงานก็ได้ ในส่วนของห้องครัวเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญ เนื่องจากมีพื้นที่เตรียมอาหารที่กว้างขวางมาก และด้านนอกยังมีพื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับทำเป็นครัวนอกหรือครัวไทย รวมถึงพื้นที่ซักล้างต่างๆ อยู่ด้านหลัง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ประกอบด้วย 3 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวครบทุกห้อง สำหรับ Master Bedroom หรือห้องนอนหลักมีขนาดที่กว้างขวาง สามารถแบ่งพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน วางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต แล้วมีพื้นที่เหลือเฟือทั้งสองด้าน นอกจากนี้ ยังสามารถกั้นเป็น Walk-in Closet ที่กว้างขวาง ห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom ก็มีขนาดใหญ่ พร้อมอ่างล้างหน้า His and Her และตู้สำหรับอาบน้ำ สำหรับห้องนอนอีก 2 ห้อง ก็ยังคงความกว้างขวางสามารถจัดเป็นห้องนอน หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องสำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ ที่สนใจ หรือเป็น Family Room ห้องนั่งเล่น นั่งพักผ่อนของครอบครัว


Aster บ้านเดี่ยว เนื้อที่ 65.1 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 254 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น 3 ที่จอดรถ ราคา 6.99 ล้านบาท
แบบบ้าน ASTER บ้านเดี่ยวไซส์จัมโบ้ที่ออกแบบทุกฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว เริ่มต้นที่ชั้น 1 Living Area ขนาดใหญ่จุใจ ด้วยความใหญ่ของพื้นที่สามารถแบ่งฟังก์ชั่นให้เป็นห้องสำหรับนั่งทำงานหรือสำหรับทำการบ้านอ่านหนังสือได้สบายๆ พื้นที่โซน Living Area จะเชื่อมต่อกับ Dining Area ที่รองรับโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้อย่างสบายๆ มีประตูบานสไล้ขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติ และสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ Outdoor ด้านหลังได้
นอกจากนี้ ในโซน Dining Area ยังมีพื้นที่ที่สามารรถจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารและครัวด้านนอกที่สามารถเชื่อมต่อกับ Dining Area ได้ หรือจะออกแบบพื้นที่ให้เป็นกลาสเฮ้าส์สำหรับนั่งพักผ่อนชมธรรมชาติก็สามารถทำได้
อีกด้านหนึ่งของชั้น 1 เป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องนอนรองรับผู้สูงอายุ ห้องนอนแขก หรือเป็นห้องห้องสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ก็ยังได้ ถัดเข้าไปเป็นห้องครัว หรือห้องเตรียมอาหารที่สามารถทะลุออกไปด้านหลังบ้าน พื้นที่ตรงนี้ถ้าไม่ทำเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร สามารถปรับเป็นห้องสำหรับแม่บ้านก็ได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ประกอบด้วย 3 ห้องนอนพร้อมด้วยห้องน้ำในตัว โดยมีพื้นที่โถงบริเวณชั้น 2 ที่กว้างขวางสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว หรือโซนวางของและตู้โชว์ได้ ส่วนของห้องนอนหลัก หรือ Master Bedroom ต้องบอกว่ามีขนาดใหญ่มากสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างเป็นสัดส่วน ได้แก่ พื้นที่ห้องนอนมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต และสามารถกั้นเป็น โซนทำงาน ที่เหมือนเป็นห้องทำงานอีกห้องหนึ่งได้เลย และยังมี Walk-in Closet แยกโซนออกมาได้สบายๆ มีห้องน้ำในตัวที่มีขนาดใหญ่ พร้อมอ่างล้างหน้า His and Her และตู้สำหรับอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำ เรียกได้ว่ามีครบทุกอย่างในห้องเดียว
ส่วนห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 ก็กว้างขวางเช่นกัน แต่ละห้องสามารถอยู่ได้ 1-2 คน สบายๆ ไม่อึดอัด และมีห้องน้ำในตัว ตู้เสื้อผ้า และมุมสำหรับทำงาน และถ้าไม่จัดเป็นห้องนอนก็ยังทำเป็น Family Room ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือทำเป็นห้องสำหรับกิจกรรมโปรดก็ได้ตามใจชอบ สรุปได้ว่า แบบบ้าน ASTER ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง โปร่งโล่งสบาย และมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานของห้องต่างๆ ได้ตามความต้องการ

มาถึงบทสรุปของบ้านเดี่ยว 3 แบบ 3 สไตล์ ในโครงการไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม. 14 กันครับ จุดเด่นข้อแรกคือทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพสูง ที่สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกรวดเร็วด้วยโครงข่ายคมนาคมที่มีรองรับอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะการที่จะมีทางด่วนสายใหม่วิ่งจากในเมืองมาลงใกล้ๆ บริเวณปากทางเข้าโครงการ ยิ่งเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ศักยภาพการขยายตัวของเมืองจะเพิ่มมากขึ้นจากระบบคมนาคมที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และจากการที่โซนพระราม 2 (บริเวณเซ็นทรัล พระราม 2) ได้ถูกกำหนดบทบาทให้เป็นศูนย์กลางชุมชนชานเมือง ตามผังเมืองรวมกรุงเทพฯที่จะประกาศใช้ประมาณปี 2569 จะสนับสนุนให้เกิดแหล่งงาน ย่านพาณิชยกรรม อาคารสำนักงานในย่านนี้มายิ่งขึ้น รวมถึงการกำหนดบทบาทให้จังหวัดสมุทรสาครให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจมูลค่าสูง จะทำให้ราคาบ้าน ราคาที่ดิน มีการปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ก็มีรองรับอย่างครบถ้วน เนื่องจากโซนพระราม 2 เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยรองรับคนในพื้นที่และคนทำงานในกทม.และสมุทรสาครมาอย่างยาวนาน การพัฒนาด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งจับจ่ายใช้สอยหลากหลายรูปแบบ สถานพยาบาล สถานศึกษา จึงมีรองรับอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

โครงการพัฒนาภายใต้แนวคิด 5 Kanda Concept ให้เป็นที่อยู่อาศัยที่ดูแลง่าย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว เช่น
แนวคิด Eco Smart: เลือกใช้ประตูและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติไม่ต้องเปิดไฟในช่วงกลางวัน ใช้กระจกเขียวตัดแสงป้องกันความร้อนและสะท้อนรังสียูวี ทำให้บ้านเย็นช่วยประหยัดพลังงาน ใช้หลอดไฟ LED ทั้งหลังประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้มากกว่า 50% ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ ช่วยลดความร้อนและให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
แนวคิด Easy Maintenance: ฟังก์ชั่น Double Protect บริเวณขอบหน้าต่างกันน้ำฝนเข้าบ้าน ออกแบบห้องน้ำชั้น 1 และ 2 ให้ตรงกันง่ายต่อการบำรุงรักษา พื้นที่ครัว ลานซักล้างวางบนคานเดียวกับตัวบ้านรองรับการต่อเติม พื้นที่จอดรถแยกจากตัวบ้านป้องกันการทรุดตัวในอนาคต
แนวคิด Space Matter: ออกแบบบ้านทุกหลังให้มี 4 ห้องนอน และสามารถปรับการใช้งานได้ตามต้องการ ออกแบบพื้นที่ในแต่ส่วนของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แนวคิด Multi Generation: เตรียมห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงวัย ออกแบบพื้นที่เป็น Open Space ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกครอบครัว
แนวคิด Flood Protection: ออกแบบและจัดทำระบบป้องกันอุทกภัยในโครงการ

สำหรับบ้านเดี่ยวทั้ง 3 แบบ 3 สไตล์ จุดเด่นที่บ้านขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นครบ ในราคาคุ้มค่า ด้วยพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 158-254 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นแค่ 4.69-6.99 ล้านบาท ขนาดบ้านกับงบประมาณถือว่าคุ้มกว่าหลายโครงการในพื้นที่ใกล้เคียง บ้านขนาด 4 ห้องนอนออกแบบรองรับครอบครัวขยาย หรือคนที่ต้องการปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำงาน หรือกิจกรรมที่ชื่นชอบ รวมถึงพื้นที่สำหรับผู้สูงวัย นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนขนาดใหญ่ในโครงการ เป็นต้น
ถ้าต้องการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่บนทำเลพระราม 2 ที่มีพื้นที่ใช้สอยที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครันในราคาที่คุ้มค่าน่าคบหา บ้านเดี่ยวทั้ง 3 แบบในโครงการไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม. 14 ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ