เอสซี แอสเสท เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ แมทเทอร์ (Matter) ทาวน์โฮมสำหรับคน Gen Z ประเดิมโครงการแรก แมทเทอร์ งามวงศ์วาน เป็นทาวน์โฮม พรีเมียม 3 ชั้น ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
แม้โครงการบ้านแนวราบของเอสซี แอสเสท ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านระดับ 10-20 ล้านบาทอัพ ไปจนถึงหลักร้อยล้าน อย่างโครงการที่เปิดตัวล่าสุด “ซันเล เรสซิเดนเซส” (SONLE Residences) เป็นโครงการที่มีราคาสูงสุดที่ 260-400 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่สำหรับปีนี้ เอสซี แอสเสท วางแผนขยาย Segment เข้าไปในกลุ่มบ้านแนวราบระดับราคา 5-10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพอร์ตโพลิโอให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงเป็นที่มาของการเปิดแบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า แมทเทอร์ บ้านใน Segment Mid-end ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท

“แบรนด์ Matter เกิดจากแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งว่าทุกสิ่งที่มี “ความหมาย” ย่อมมี “คุณค่า” และสิ่งเหล่านั้น…ไม่จำเป็นต้องเยอะ และ Matter ไม่ได้แค่สร้างพรีเมียมทาวน์โฮม แต่สร้างความหมายในโลกที่หมุนเร็ว เพราะอยากเป็นพื้นที่ที่ให้คนได้ “หยุดคิด” และ “เลือกในสิ่งที่ใช่” สำหรับตัวเอง เพราะสุดท้าย… สิ่งที่ “สำคัญ” ที่สุดในชีวิตของคุณไม่ได้วัดจากจำนวน แต่วัดจาก “คุณค่า” ที่มันมีต่อคุณจริงๆ” นายณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ Senior Executive Vice President – Marketing & Innovation บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) กล่าว
เอสซี แอสเสท มีโครงการบ้านหลากหลายประเภทที่มีจุดขายในเรื่องของ “ความเป็นพรีเมียม” ไม่ว่าจะเป็นบ้านราคา 5 ล้านบาทไปจนถึง 400 ล้านบาท ซึ่งความเป็นพรีเมียมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความหรูหราเสมอไป แต่หมายถึง รสนิยม การเลือกใช้วัสดุ และทำเลที่ดี เมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ นอกจากนี้ เอสซี แอสเสท ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก (Insight Driven) เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า
Insight Driven ในกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ถูกนำมาเป็นหัวใจในการออกแบบโครงการ Matter เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่ม Gen Z ประกอบด้วย

•Authenticity Above All: โครงการเน้นความ Authenticity หรือความเรียล ไม่ปรุงแต่งเกินจำเป็น บ้านจึงถูกออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่สามารถใช้งานได้จริง ทุกพื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย และแม้จะดูเรียบง่าย แต่ทุกตารางนิ้วถูกคิดมาแล้วอย่างดี ออกแบบด้วยความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง
•Tech-Savvy: ตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์และอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยี่มาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งเอสซี แอสเสท ตอบโจทย์ด้วย “Roojai App” ที่ช่วยจัดการเรื่องบ้านได้ครบวงจร ตั้งแต่การล้างแอร์ สั่งน้ำดื่ม ไปจนถึงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกบ้านมีเวลาไปทำอย่างอื่น
•Eco-Conscious Choices: ให้ความสำคัญกับประเด็นด้าน ESG ซึ่งเอสซี เอสเสทให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Zero Mission และยังส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงทำเลที่ตั้งที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าไม่ต้องใช้รถส่วนตัว

•Branded Work/Life Space: กลุ่ม Gen Z หลายคนทำงานฟรีแลนซ์หรือรีโมทเวิร์ก จึงต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว ซึ่งคอนโดอาจไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด
•Fluid Identities: การออกแบบบ้านตอบรับกับความหลากหลายของคนรุ่นใหม่ที่มีความยืดหยุ่นทางความคิดและการใช้ชีวิต ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ การออกแบบบ้านจึงไม่จำกัดอยู่แค่ความเป็น Masculine หรือ Feminine แต่เน้นดีไซน์ที่เรียบ เท่ห์ และเปิดกว้าง เพื่อให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถรู้สึกเป็นเจ้าของและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในพื้นที่นั้น
สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการแมทเทอร์ งามวงศ์วาน อยู่บนถนนเรวดีที่สามารถทะลุออกถนนติวานนท์ ถนนรัตนธิเบศร์ และถนนเลี่ยงเมืนนนทบุรีได้ และยังเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ที่สถานีบางกระสอระยะทางเพียง 1.2 กม.จากโครงการ หรือที่สถานีกระทรวงสาธารณสุขระยะทาง 2.7 กม. เชื่อมต่อทำเลเมือง ทั้ง ลาดพร้าว จตุจักร พระราม 9 ใกล้เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ซึ่งกำลังจะปรับโฉมใหม่เป็น เซ็นทรัล นอร์ธวิลล์ ขนาดใหญ่ ระยะทาง 3.3 กม.จากโครงการ

การที่เป็นทำเลที่อยู่ในโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีม่วงทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่องตัวเลขอัพเดตล่าสุดจากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ ราคาที่ดินบริเวณที่ตั้งของโครงการปรับขึ้นมา 20% และยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกจากการยกระดับเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ให้เป็น เซ็นทรัล นอร์ธวิลล์ ที่จะเปิดให้บริการในปี 2569 ทำให้พื้นที่โดยรอบมีศักยภาพสูงขึ้นทั้งรถไฟฟ้าและห้างขนาดใหญ่
ทำเลของโครงการสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากมีไลฟ์สไตล์ในเมืองที่สะดวกสบาย แต่ก็ต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางกว่าการอยู่คอนโด แม้คอนโดจะตอบโจทย์ความสะดวก แต่ก็อาจไม่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์บางด้านได้ทั้งหมด อย่างเช่น การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขหรือแมว ซึ่งต้องการพื้นที่มากกว่าที่คอนโดส่วนใหญ่มีให้ ซึ่งพบว่าหลายคนตัดสินใจซื้อบ้านเพื่อตอบโจทย์ชีวิตของสัตว์เลี้ยง มากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ

พื้นที่บริเวณนี้ถือเป็นทำเลคอนโดชัดเจน หากสังเกตจะเห็นว่ามีโครงการคอนโดจำนวนมากทั้งจากการเดินทางด้วยรถยนต์หรือรถไฟฟ้า ซึ่งทำให้ราคาคอนโดในย่านรัตนาธิเบศร์–งามวงศ์วาน สำหรับยูนิตขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ประมาณ 80 ตร.ม. ราคาประมาณ 5.99 ล้านบาท หรือราวๆ 75,000 บาทต่อตร.ม.
เมื่อเทียบกับ ทาวน์โฮมของเราในราคา 5.99 ล้านยาทเท่ากัน แต่มีพื้นที่ใช้สอย 158 ตร.ม. ราคาเฉลี่ยเพียง ประมาณ 38,000 บาทต่อตร.ม. เท่านั้น ผู้อยู่อาศัยยังได้ที่จอดรถส่วนตัวถึง 2 คัน ต่างจากคอนโดที่มักมีที่จอดรถเพียง 1 คัน
ในแง่ของความคุ้มค่าพื้นที่เพิ่มขึ้นเกือบๆ เท่าตัว แต่ราคาต่อตารางเมตรกลับลดลงเกือบๆ ครึ่งหนึ่ง นี่คือจุดเด่นที่ทำให้โครงการแมทเทอร์ งามวงศ์วาน มีความน่าสนใจ
สำหรับโครงการ แมทเทอร์ งามวงศ์วาน เป็นทาวน์โฮมพรีเมียม 3 ชั้น ใจกลางทำเลงามวงศ์วาน ออกแบบจาก insight ที่เข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง ในสไตล์ Modern Contemporary มีความ “เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา” ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ สะท้อนจังหวะชีวิตของคนเริ่มสร้างครอบครัว โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ในสังคมส่วนตัวเพียง 44 ครอบครัว มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท ประกอบด้วยแบบบ้าน 3 แบบ 3 สไตล์ ราคา 5.99-12 ล้านบาท ได้แก่…

1) แบบ MOVE ขนาดที่ดิน 17.5 ตร.ว. หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 158 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
พื้นที่ภายในบ้านถูกออกแบบให้รองรับการใช้ชีวิตอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ห้องรับประทานอาหารที่สามารถต่อเนื่องกับครัวหลังบ้านที่โครงการได้ตอกเข็มรองรับไว้เรียบร้อย ทุกพื้นที่ออกแบบโดยอิงจาก Insight ของผู้อยู่อาศัยจริง เช่น เพิ่มมุมโปรดบริเวณผนังด้านในห้องน้ำซึ่งสามารถทำเป็นมุม Barista ถ้าเข้าไปด้านในจะเป็นห้องเก็บของที่ซ่อนอยู่ใต้บันได หรือจะทำเป็นห้องเก็บรองเท้าหรือใช้งานตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างยืดหยุ่น
ชั้นบนมีห้องนอนขนาดใหญ่กว้างขวาง พร้อมมุมโซฟาเบดที่สามารถปรับเป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวได้ พร้อม Walk-in Closet แม้บางครอบครัวจะมีสมาชิกไม่มาก ก็สามารถปรับห้องนอนที่ 2 – 3 เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เช่น ห้องทำงานหรือสตูดิโอของฟรีแลนซ์ ห้องสร้างสรรค์ เช่น ห้องวาดภาพ หรือห้องสะสม หรือจะเป็นห้องนอนสำรองสำหรับคุณพ่อคุณแม่ หรือเพื่อนที่มาค้าง ซึ่งทุกห้องได้รับการออกแบบให้มีขนาดกว้างขวาง ไม่ใช่เพียงแค่ห้องเล็ก ๆ จึงรองรับการใช้ชีวิตได้อย่างยืดหยุ่นและสบายในระยะยาว
2) แบบ MATCH ขนาดที่ดิน 19.2 ตร.ว. หน้ากว้าง 5.5 เมตรพื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
บ้านรุ่นนี้โดดเด่นด้วยฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้น คือ ห้องน้ำสำหรับทุกห้องนอน ช่วยให้ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเอง ทั้งในด้านความสะดวกและความเป็นส่วนตัว บริเวณชานพักบันไดชั้น 2 กว้างขวางจนสามารถจัดเป็นมุมพักผ่อน หรือมุมทำงานเล็ก ๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ ส่วนห้องนอนที่ 2-3 สามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องกิจกรรมที่ชอบ เช่น ห้องทำงานอดิเรก หรือห้องอ่านหนังสือได้อย่างลงตัว

3) แบบ MERGE ขนาดที่ดิน 25 ตร.ว. หน้ากว้าง 6.25 เมตร พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. ขนาด 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ชั้นล่างมีห้องนอนเพิ่มขึ้นมาสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ห้องทำงาน สตูดิโอส่วนตัว ห้องออกกำลังกาย หรือฟิตเนสขนาดย่อมภายในบ้าน นอกจากนี้ แบบบ้านรุ่นนี้มีแปลงที่ดินขนาดใหญ่กว่ารุ่นอื่นๆ พร้อมพื้นที่สวนด้านข้างที่สามารถตกแต่งให้เป็นพื้นที่สีเขียวข้างบ้าน เป็นมุมนั่งเล่น มุมพักผ่อน หรือสนามสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ตามความต้องการ ส่วนพื้นที่ภายในบ้าน กว้างขวางและเป็นสัดส่วนห้องนอนทุกห้องมีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะห้องนอนหลักชั้นบนที่สามารถจัดสรรเป็น Living Area ได้ พร้อม Walk-in Closet ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ส่วนห้องนอนอื่นก้มีขนาดที่กว้างสามารถวางเตียงเดี่ยวสองเตียงได้อย่างสบาย เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูกหลายคน พร้อมห้องน้ำในตัวเช่นกัน
นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการสร้างความโดดเด่นด้วย Clubhouse ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ Modern Contemporary Style ผสมผสานการตกแต่งสไตล์ Classic และ Modern เข้าด้วยกัน พร้อมสิ่งอํานวยความสะดวกครบครัน ประกอบด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness, Co-Working Space, Basketball Court ทั้งอุ่นใจด้วย Premium Security ตลอด 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV ประตูทางเข้า-ออกโครงการ ติดตั้งสัญญาณกันขโมยในตัวบ้านระบบ Magnetic ควบคุมด้วยระบบ Smart Gate With License Plate

พร้อมทั้งยกระดับการอยู่อาศัยผ่าน 6 นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิต ตอบรับทุกช่วงวัย “LIVING SOLUTIONS BY SC ASSET” นวัตกรรมใหม่ เพิ่มความปลอดภัยแก่ทุกเจนเนอเรชัน ด้วย
•RUEJAI HOME OS แอปพลิเคชันควบคุมบ้านอัจฉริยะจากมือถือ
•SMART GATE WITH LICENSE PLATE เข้า-ออกสะดวก ด้วยตัวสแกน จัดการการเข้า-ออกรถ อย่างง่ายดาย ผ่านการสแกนทะเบียนรถลูกบ้าน และการเข้า-ออก ของแขกผ่านแอปพลิเคชันรู้ใจ รวมถึงโหมด ห้ามรบกวนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการอาศัย
•SOLAR-ROOF PROJECT CLUBHOUSE แผงโซลาร์เซลล์พลังงานทดแทน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ใช้งานพลังงานทดแทน ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ในที่ส่วนกลาง และแบ่งเบาค่าใช้จ่ายสําหรับทุกครัวเรือน
•EV CHARGER จุดรองรับการติดตั้ง EV Charger สําหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน และช่วยลดมลพิษเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
•SMOKE & HEAT DETECTOR ตรวจจับควันไฟพร้อมสัญญาณเตือน สัญญาณฉุกเฉินและระบบความปลอดภัย 3 ช้ัน ตรวจจับความร้อน และควันไฟพร้อมแจ้งเตือน ภายในบ้าน ป้อมรักษาความปลอดภัย และแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันรู้ใจ
•AIS FIBER เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง SC Asset ยกระดับความเร็วการเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ตให้เหนือกว่า โดยออกแบบให้ ติดตั้งพันจุดอับสัญญาณ และติดตั้งให้ลูกบ้านฟรีเป็นเวลา 1 ปี
โครงการเริ่มเปิด Presale แล้ว ตั้งแต่วันที่ 28-29 มิถุนายน 2568 สำหรับคนรุ่นใหม่วัยเริ่มทำงานที่อยากได้ทาวน์โฮมไกลๆ เมือง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สำหรับคน Gen Z แมทเทอร์ งามวงศ์วาน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกต้องไปแวะชมครับ