บ้านเพื่อคนไทย นโยบายด้านที่อยู่อาศัยที่รัฐบาลหมายมั่นจะใช้มัดใจคนรุ่นใหม่วัยเริ่มทำงาน หรือ First Jobber ที่ทุกวันนี้เข้าถึงที่อยู่ศัยได้ยากเย็น เพราะบ้านราคาแพงขึ้นทุกวันจนคนวัยเริ่มทำงานเงินเดือน 2-3 หมื่นบาท ไม่อาจเอื้มถึงกับที่อยู่อาศัยที่เดินทางได้สะดวกสบายไม่ไกลจากเมืองมากนัก
“คนไทยในเมืองทุกวันนี้ไม่สามารถหาบ้านดีๆ ได้ เพราะว่าบ้านในเมืองที่ใกล้ทำเลที่สำคัญ ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงาน ราคา 2 ล้านบาท แทบหาไม่ได้แล้ว เพราะมีราคาที่สูงกว่านั้น หรือเด็กจบใหม่ที่คิดจะเก็บเงินซื้อบ้าน พอเก็บๆ เงินถึงเวลาราคาบ้านขยับขึ้นหมดก็ซื้อไม่ได้
อันนี้คือสิ่งที่เป็นปัญหาของ First Jobber ของเด็กจบใหม่หลายท่านที่อยากมีบ้าน ที่เดินทางสะดวก ไม่ต้องฝ่ารถติดเพื่อมาทำงาน ถ้าเรามีบ้านที่ดี มันเป็นแหล่งของ Energy ดีๆ ที่จะทำให้เรามีพลังในการทำงานต่อได้ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเอาไว้ในวันแถลงผลงาน 90 วัน
เป้าหมายหลักของบ้านเพื่อคนไทยคือ คนไทยวัยวัยเริ่มทำงานที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยของตัวเอง โดยรัฐบาลจะนำที่ดินของรัฐมาพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม เปิดให้เช่าอยู่ระยะยาวถึง 99 ปีเลยทีเดียว
“รัฐบาลจึงมีนโยบาย สร้างที่อยู่อาศัยภายใต้ชื่อโครงการ บ้านเพื่อคนไทย โดยใช้พื้นที่ของรัฐที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรอยู่ในทำเลที่ดี เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ตัวเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เราจะเริ่มจากที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยในกรุงเทพฯนำมาพัฒนาคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพพื้นที่เริ่มต้น 30 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์พร้อม
ที่สำคัญคือ ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ ให้จ่ายเป็นค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท ผ่อนยาว 30 ปี และมีสิทธิ์อยู่ได้ถึง 99 ปี โครงการนี้ให้เฉพาะคนที่ไม่เคยมีบ้านและต้องเป็นบ้านเพื่อคนไทยเท่านั้น เด็กจบใหม่ก็จะมีสิทธิ์มีบ้านเป็นของตนเอง มีสเปซเป็นของตนเองโดยที่ไม่ต้องรอว่าจะต้องทำงานไปอีกกี่ปีถึงจะซื้อบ้านเป็นของตนเองได้ โดยในปี 2568 จะมีห้องตัวอย่าง บ้านตัวอย่างให้ดูว่าจะเป็นรูปแบบไหนมีอะไรบ้าง” นายกฯแพทองธารกล่าว
ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนากยรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยจะเปิดตัวบ้านตัวอย่างในวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หลังจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจอง เบื้องต้นจะเริ่มพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใน 4 ทำเลบนที่ดินของการรถไฟฯ ที่ บางซื่อ กม.11 สถานีธนบุรี สถานีเชียงราก และเชียงใหม่ รวม 1,000 ยูนิต ให้ผ่อน 30 ปี เดือนละ 4,000 บาท ถ้าผ่อนได้ตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดจะได้สิทธิ์อยู่ยาวถึง 99 ปี
สำหรับรูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยบ้านเพื่อคนไทยได้มีการออกแบบไว้เบื้องต้น อาทิ บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา พื้นที่อาคาร 50 ตารางเมตร ภายในบ้านจะมีพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วน ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ รวมไปถึงพื้นที่ซักล้าง และลานจอดรถ ส่วนรูปแบบของคอนโดมิเนียม จะออกแบบห้อง อาทิ ห้องขนาด 30 ตารางเมตร และ 45 ตารางเมตร เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีได้รับทราบข้อเสนอในการพัฒนาโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยคัดเลือกที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยมาพัฒนา เบื้องต้น 25 พื้นที่ เนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วนในปี 2567 และปี 2568 ประกอบด้วย ระยะเร่งด่วน ระยะที่ 1 โครงการอาคารชุด 3 พื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราก และบางซื่อ กม.11 ระยะเร่งด่วนระยะที่ 2 โครงการบ้าน 3 พื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ กาญจนบุรี และนครราชสีมา ส่วนระยะสั้น เริ่มดำเนินการในปี 2569 ถึงปี 2571 โครงการตามแผนงานเบื้องต้น จำนวน 22 โครงการ และระยะกลาง ดำเนินการในปี 2572 ถึงปี 2576 จำนวน 87 โครงการ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีรายละเอียดเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่า First Jobber ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้อยู่พอสมควร เพราะอย่างไรก็ดีกว่าไปเช่าเขาอยู่โดยไม่ได้ถือสิทธิ์การเช่าในระยะยาว แต่ในขั้นตอนของการปฏิบัตินั้นยังขาดความชัดเจนอยู่อีกมากทั้งที่ๆ จะเปิดบ้านตัวอย่างและเปิดให้จองอีกไม่ถึงเดือน แต่ที่แน่ๆ ในมุมของดีเวลอปเปอร์คงยากที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับการพัฒนาโครงการเหล่านี้ เพราะเป็นการพัฒนาบนที่ที่ดินของรัฐแม้ว่าจะให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นลูกของการรถไฟฯเป็นผู้ดำเนินการก็ตาม
จึงเป็นไปได้ที่บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จะเป็นผู้ดำเนินการเองภายใต้ขอบเขตก็คือ การรับโอนที่ดินของการรถไฟฯมาพัฒนาเอง หรือหาผู้ร่วมทุนในการพัฒนาโครงการ ทำให้นึกไปถึงโครงการเก่าๆ อย่างบ้านเอื้ออาทร ที่สร้างทั้งชื่อเสียงและชื่อเสียให้กับพรรคไทยรักไทยซึ่งเป็นพรรคดั้งเดิมของพรรคเพื่อไทย ที่สุดท้ายต้องจบลงด้วยปัญหามากมาย
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคอร์รัปชั่น ปัญหายอดจองทิพย์ ทำให้โครงการไปต่อไม่ได้ สร้างไม่เสร็จจนทิ้งร้าง ปัญหาโครงการที่สร้างไม่ได้คุณภาพ ไปจนถึงปัญหาในการบริหารโครงการการกลายเป็นชุมชนที่ไม่มีคุณภาพที่ดีพอสำหรับการอยู่อาศัย เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้คือบทเรียนที่โครงการบ้านเพื่อคนไทยของนายกฯแพทองธารต้องนำมาปรับปรุงแก้ไขให้โครงการต้องดีกว่าบ้านเอื้ออาทรในทุกมิติมิเช่นนั้นฝันร้ายจะตามมาหลอกหลอนอีกระลอก
นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตจากผู้สัดทัดกรณีในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มองว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทยในอีกมุมหนึ่งคือ บันไดสู่การแก้กฎหมายการเช่าอสังหาริมทรัพย์จาก 30 ปีเป็น 99 ปี เพื่อลดแรงต้านที่จะเกิดขึ้นหากจะแก้กฎหมายขยายเวลาเช่าเป็น 99 ปีโดยตรง บ้านเพื่อคนไทยคือเกราะที่จะช่วยลดแรงปะทะที่จะเกิดขึ้น
ถามว่า มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนในการต้องแก้กฎหมายขยายเวลาเช่าอสังหาริมทรัพย์จาก 30 ปี ไปยาวถึง 99 ปี ซึ่งในประเด็นนี้มีทั้งผู้สนับสนุนและผู้ที่คัดค้าน ในมุมของผู้สนับสนุนมองว่า การขยายเวลาการเช่าอสังหาฯจะเป็น 50 ปี 60 ปี หรือ 99 ปี จะช่วยดึงดูดการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม รีสอร์ท พื้นที่อุตสาหกรรม รวมถึงการเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในลักษณะที่ได้สิทธิ์การเช่าระยะยาว
นอกจากนี้ ยังเป็นเพิ่มโอกาสในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาคืนทุนยาวนาน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง ช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ต่างๆ ส่งเสริมการจ้างงานและรายได้ภาษี ลดพื้นที่รกร้างและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรที่ดิน สร้างเสถียรภาพระยะยาวให้กับผู้เช่า เป็นต้น
ขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย มองว่า การปล่อยให้เช่าระยะยาวเป็นการเปิดช่องให้ชาวต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดินและใช้ประโยชน์จากที่ดินยาวนานเกินไป แม้จะเป็นการเช่าก็ตาม และระยะเวลาเช่าที่นานเกินไปทำให้เจ้าของที่ดินขาดโอกาสในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้ที่ดินตามสถานการณ์หรือแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนี้ ยังทำให้ ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้นทำให้คนไทยเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ยากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ในสายตาของคนเห็นต่างจึงมองว่า บ้านเพื่อคนไทยแม้จะเกิดประโยชน์ต่อคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังมีอยู่มากมายมหาศาล แต่อีกด้านหนึ่งคือเกมลับ ลวง พราง ให้การขยายเวลาเช่าเป็น 99 ปี เป็นไปอย่างราบรื่น หรือลดกระแสต้านลง
การขับเคลื่อนโครงการบ้านเพื่อคนไทยจึงมีสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำให้เป็นที่ประจักษ์อย่างน้อยๆ 2 ข้อ คือ ต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาซ้ำรอย บ้านเอื้ออาทร โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของการคอร์รัปชั่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และรัฐบาลต้องมีความชัดเจนถึงความจำเป็นในการแก้กฎหมายขยายเวลาเช่าจาก 30 ปี เป็น 99 ปีนั้น เพื่อประโยชน์ของคนที่ต้องการมีบ้านหรือมีประโยชน์อื่นๆ ที่แอบแฝง
ถ้าเคลียร์ได้ไม่ชัด โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” อาจจะถูกมองว่าเป็นโครงการ “บ้านคนเพื่อไทย” ก็เป็นได้