โอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ได้ลาออกจากบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2566 ปิดฉากผู้บริหารรุ่นที่ 2 ของ LPN ในวัย 62 ปี และได้แต่งตั้ง อภิชาติ เกษมกุลศิริ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป
คุณโอภาส เริ่มงานกับ LPN มาตั้งแต่ปี 2538 ผ่านตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางมาแล้วหลายตำแหน่ง ตั้งแต่สถาปนิก รองผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการ ผู้จัดการฝ่ายขาย ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา และมีส่วนร่วมสำคัญที่ทำให้ LPN รอดจากวิกฤติในปี 2540 ก่อนได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการในปี 2549 ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารรุ่น 2 ต่อจาก ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข พิเชษฐ ศุภกิจจานุสันติ์ และยุพา เตชะไกรศรี ผู้บริหารรุ่น 1 ที่ค่อยๆ เริ่มลดบทบาทในการบริหารลง และในปี 2561 คุณโอภาส ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานกรรมการบริหาร ควบกรรมการผู้จัดการ กุมอำนาจบริหาร LPN อย่างเต็มตัว
นอกจากการเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาองค์กรผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 มาได้แล้ว คุณโอภาสมีส่วนสำคัญในการนำพา LPN ก้าวสู่ยุคเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ พร้อมๆ กับปัญหาสารพันที่ถาโถมเข้ามาทั้งหน้าฉากและหลังฉาก ที่สำคัญคือความพยายามก้าวให้พ้นกับดักความสำเร็จในยุคหลังปี 2540 กับการพัฒนาคอนโดเจาะตลาดกลาง-ล่าง ภายใต้แบรนด์ลุมพินี จนถูกยกให้เป็นเจ้าพ่อคอนโดมาแล้ว
แต่เมื่อตลาดเปลี่ยน คอนโดยุคใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ไม่ได้แค่อยู่อาศัยแต่ต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับผู้เป็นเจ้าของด้วย ลุมพินีจึงกลายเป็นแบรนด์ที่ไม่ทันสมัยของลูกค้า New Gen ประกอบกับ ภาวะตลาดคอนโดระดับกลาง-ล่าง และภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลให้ผลประกอบการของ LPN ลุ่มๆ ดอนๆ มาโดยตลอด
จนในปี 2565 LPN ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ และถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของคุณโอภาส นั่นก็คือเก็บแบรนด์ลุมพินีขึ้นหิ้ง แล้วส่งแบรนด์ใหม่ 168 เอาใจคนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ พร้อมกับขยับฐานลูกค้าสู่ตลาดกลาง-บน โดยมีเป้าหมาย turnaround กลับมาเป็น LPN คนเดิมให้ได้ภายในปี 2569 แต่ยังไม่ทันจะได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า คุณโอภาสก็ต้องโบกมือลา LPN ไปเสียก่อน พร้อมๆ กับการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เจ้าใหม่ของกลุ่มฉัตรพิริยะพันธ์ เจ้าของธุรกิจรีไซเคิลโลหะในนามบริษัท เมทัล คอปเปอร์ ในเดือนสิงหาคม 2566 ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณโอภาสต้องลุกออกจากเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุดไปในวัย 62 ปี
ปิดฉากยุคลูกหม้อ LPN เปิดทางให้เจ้าของใหม่ กลุ่มทุนใหม่เข้ามาบริหาร LPN อย่างเต็มตัว