ออริจิ้น ชี้อสังหาฯปี 67 หลากหลายปัจจัยลบยังฉุดกำลังซื้อ เผยกุญแจ 4 ดอกก้าวผ่านความท้าทายดันยอดขายปี 66 ทะลุเป้า 47,265 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 นั้น มียังมีปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตาหลายเรื่อง อาทิ ภาพรวมเศรษฐกิจโลก สถานการณ์เศรษฐกิจจีน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ภาวะหนี้ครัวเรือน หลายประเด็นอาจส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกรายในปีนี้ น่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเทียบกับ 1-2 ปีก่อนหน้านี้
ที่ผ่านมา ออริจิ้น ยึดหลัก 4 อย่างในการก้าวผ่านความท้าทายเหล่านี้ ได้แก่
1.ทำเลต้องดี เลือกทำเลที่มีความต้องการซื้อจริง เน้นเฉพาะทำเลใกล้รถไฟฟ้า เส้นทางคมนาคมสายหลัก ใกล้สถานที่สำคัญ
2.เซ็กเมนต์ต้องแตกต่าง คู่แข่งไม่มากแต่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มเติบโต เช่น เซ็กเมนต์สำหรับ Pet Lover และ กลุ่มนักลงทุน Investment Program
3.ฟังก์ชั่นต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ เน้นฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง
4.ใน 1 โครงการต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้หลายกลุ่ม เช่น โครงการคอนโด Pet Lover ไม่ได้ขายเฉพาะคนเลี้ยงสัตว์ มีแยกตึกหรือแยกชั้น เพื่อขายทั้งคนเลี้ยงสัตว์และไม่เลี้ยงสัตว์ หลายโครงการต้องพัฒนาเป็นมิกซ์โปรดักต์ เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีกำลังซื้อหลากหลาย หลายโครงการทำเป็นมิกซ์ยูส เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบวงจร หลายโครงการต้องตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้ออยู่เองและซื้อลงทุนระยะยาว
“ความท้าทายหลายอย่างไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ แต่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เราพิสูจน์มาแล้วว่ากลุ่มบริษัทสามารถปรับกลยุทธ์รวดเร็วช่วยให้เราก้าวผ่านทุกความท้าทายในปี 2566 มาได้ ปี 2567 เราก็จะยังคงยึดหลักการดังกล่าวในการพิจารณาพัฒนาโครงการ ควบคู่กับการจับตาปัจจัยภายนอกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ กับทุกสถานการณ์” นายพีระพงศ์ กล่าว
ในปี 2566 บริษัทมียอดขาย (Presales) จากโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ประมาณ 47,265 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 45,000 ล้านบาท คิดเป็น 105% และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 15% พร้อมทั้งทำสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (All Time High) อีกครั้ง
แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 34,704 ล้านบาท หรือประมาณ 73% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) 12,561 ล้านบาท หรือประมาณ 27% และหากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ประมาณ 53% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) อีกราว 47%
“การบุกตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับ Pet Lover อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลใหม่ๆ ที่ยังเป็น Blue Ocean ไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้มาก่อน ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายของเราให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสะท้อนว่าแนวโน้มคนรุ่นใหม่ในเขตเมืองมีความต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดสูงขึ้น ขณะเดียวกัน เรายังสามารถขับเคลื่อนแผน Origin Infinity กวาดยอดขายจากโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมในทำเลใหม่ๆ เช่น ฝั่งธนบุรี และพื้นที่จังหวัดเศรษฐกิจสำคัญทั่วประเทศ ได้อย่างต่อเนื่อง ในหลายโครงการในต่างจังหวัดได้รับการตอบรับที่ดีมาก เช่น ภูเก็ต และ ขอนแก่น” นายพีระพงศ์ กล่าว