ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เปิดตัวเลขดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1 ปี 66 พบสัญญาณการปรับราคาลงของบ้านเดี่ยว 7.5-10 ล้านอัพ ในกทม.-ปริมณฑล และทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่ปริมณฑล จากการแข่งขันลดราคา ส่วนคอนโดในเมืองราคาปรับขึ้น สวนทางคอนโดนอกเมืองที่ราคาเริ่มลง
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2566 ในส่วนของบ้านจัดสรรมีค่าดัชนีเท่ากับ 128.3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.3 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 พบว่า ดัชนีราคาบ้านจัดสรรปรับลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ -1.5
สะท้อนให้เห็นว่าราคาบ้านจัดสรรในไตรมาส 1 ปี 2566 ได้มีการปรับตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ได้มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 4 ปี 2565 เนื่องจากมีการปรับลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขายบ้านจัดสรร และให้สอดคล้องกับความสามารถในการซื้อของกลุ่ม Real Demand
ทั้งนี้ หากพิจารณาดัชนีราคาบ้านจัดสรรตามพื้นที่จะพบว่า
ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.0 ลดลงร้อยละ -0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ -0.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล (สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี) มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.0 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลงร้อยละ -2.6
“การเปลี่ยนแปลงราคาที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่เป็นการปรับราคาลงจากโครงการประเภทบ้านเดี่ยวที่เป็นโครงการเก่าที่เปิดขายมาก่อนหน้าไตรมาสนี้ และการผลิตส่วนใหญ่ยังเป็นต้นทุนเดิม และยังพบว่าส่วนมากเป็นโครงการในพื้นที่ปริมณฑล อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจภาคสนามได้พบว่า โครงการบ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นใหม่มีการปรับราคาขายสูงขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้นแล้ว”
บ้านเดี่ยว 7.5-10 ล.อัพแข่งลดราคา
สำหรับดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.1 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลงร้อยละ -3.0
โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 122.1 ลดลงร้อยละ -2.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ลดลงร้อยละ -1.2
การลดลงของราคาบ้านเดี่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯในไตรมาสนี้ เป็นผลจากการส่งเสริมการขายบ้านเดี่ยว โดยมีการลดราคาซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีการพัฒนามากในโซนราษฎร์บูรณะ-บางขุนเทียน-ทุ่งครุ-บางบอน-จอมทอง โซนพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ และโซนลาดพร้าว-บางกะปิ-วังทองหลาง-บึงกุ่ม-สะพานสูง-คันนายาว
ส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลงร้อยละ -3.8 โดยเป็นการลดลงในกลุ่มระดับราคา 7.51-10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งพบมากในโซน บางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด และโซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก
ทาวน์เฮ้าส์ 3 จังหวัดปริมณฑลราคาตก 2.4%
ขณะที่ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.7 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นเพราะมีโครงการราคาสูงที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน
ในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.5 ลดลงร้อยละ -2.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงร้อยละ -1.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการปรับราคาลงเพื่อการส่งเสริมการตลาด เนื่องจากยังมีอุปทานมากในพื้นที่ปริมณฑล โดยเฉพาะในระดับราคา 3-5 ล้านบาท
สำหรับรายการส่งเสริมการขายบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 38.7 เป็นของแถมมากที่สุด เช่น ฟรีแอร์ ปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำ มิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟฟ้า จัดสวน ปูหญ้า โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 36.2 รองลงมาร้อยละ 38.1 ให้ฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 40.4 และอีกร้อยละ 23.2 เป็นการให้ส่วนลดเงินสด ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีสัดส่วนร้อยละ 23.4
ห้องชุดใหม่ในเมืองดัชนีราคาขยับ 2.9%
สำหรับดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 154.7 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า การปรับตัวขึ้นของดัชนีราคาห้องชุดใหม่ได้ปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ ขณะที่พื้นที่จังหวัดปริมณฑลยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว โดยเมื่อพิจารณาแยกตามพื้นที่ พบว่า
ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 157.7 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นเพราะมีโครงการที่เพิ่งเปิดตัวได้มีการปรับราคาขึ้นแล้ว
ในพื้นที่ 2 จังหวัดปริมณฑล (สมุทรปราการ และ นนทบุรี) มีค่าดัชนีเท่ากับ 141.5 จุด ลดลงร้อยละ -1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ -0.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากการปรับราคาลงเพื่อการส่งเสริมการตลาดในโครงการเปิดมาก่อนหน้านี้ซึ่งยังเป็นต้นทุนเดิมอยู่
สำหรับรายการส่งเสริมการขายห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 39.9 เป็นการให้ส่วนลดเงินสด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 42.7 รองลงมาเป็นการให้ของแถมมีสัดส่วนร้อยละ 35.1 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 32.6 และอีกร้อยละ 25.0 เป็นการให้ฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 24.7