fbpx
คุณเศรษฐา แสนสิริ

‘เศรษฐา’ พูดชัดๆ ยังอยู่แสนสิริ สั่งปูพรม 52 โครงการใหม่ กว่า 7.5 หมื่นล้าน

เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่ถูกจับจ้องมากที่สุดในเวลานี้ หลังจากเปิดตัวร่วมขบวนกับพรรคเพื่อไทยในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเขาคือหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคจะส่งเข้าประกวด แต่ก็ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะอาจจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม หรือจริงๆ อาจจะไม่ใช่ เพราะถึงวันนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในออฟฟิศถึงการเตรียมการต่างๆ หากเขาต้องลุกจากตำแหน่งในบริษัท ไปสู่ตำแหน่งทางการเมืองไม่ว่าจะบนเก้าอี้ใดๆ และตัวเขาเองก็ยังยืนยันชัดเจนว่าจะยังคงอยู่ตรงนี้

“วันนี้เป็นแถลงการณ์ Business Direction ไม่ใช่เรื่องอื่น… ที่ผ่านมาก็อยู่ด้วยกันมาตลอด และคงจะอยู่ด้วยกันอีกต่อไปนานๆ และคงได้เจอกันบ่อยขึ้น ส่วนเรื่องอื่นๆ คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เรื่องของแสนสิริ มีอะไรดีๆ ที่อยากให้ช่วยกันรับฟัง โดยมีทีมงานมาชี้แจงอย่างชัดเจนสำหรับทิศทางของแสนสิริในปีนี้ที่จะเดินไปด้วยกันข้างหน้า” เศรษฐาออกตัวบนเวทีแถลงแผนธุรกิจประจำปี 2566 ของแสนสิริ และก่อนลงจากเวทียังพูดส่งท้ายด้วยว่า “ก่อนที่คุณอุทัย (อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการของแสนสิริ) จะพูดถึง Strategy ของบริษัท จะบอกว่า ผมไม่ได้ไปไหน ผมยังอยู่คุมบังเหียนเรื่องของ Strategy ต่อไป อุทัย ไม่ต้องดีใจเก้อนะ” พูดเสร็จก็หัวเราะแล้วเดินลงจากเวทีแบบไม่มี Q&A กับนักข่าว

หรือนี่เป็นแค่เกมลับ ลวง พราง กลเกมก่อนการเลือกตั้ง ที่คนการเมืองชอบเล่นกัน เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเป็นเป้าก่อนเวลาอันควร อีกไม่นานก็คงจะได้รู้กัน

วนกลับมาที่แสนสิริ เศรษฐา กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ภายหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยสำคัญมาจากการได้รับวัคซีน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวกลับมายังคงไม่เต็มที่ ทำให้มีทั้งโอกาสทางธุรกิจและปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าติดตามและเตรียมรับมือในอีกหลากหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย ภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ แนวโน้มราคาพลังงาน และราคาโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นกดดันให้ต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

“ในปีที่ผ่านมาภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมีส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจ และยังมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินอยู่สูง เพราะฉะนั้นการเดินไปข้างหน้าก็น่าจะผ่านปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ แต่เรายังมีเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัจจัยถ่วงอยู่พอสมควร ถือว่าเป็นโจทย์ที่หนักของรัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อไปที่ต้องมีการนำไปพิจารณาและแก้ไข ไม่เช่นนั้นเราก็จะสู้คู่แข่งไม่ได้” เศรษฐา ฝากการบ้านเรื่องหนี้ครัวเรือนให้รัฐบาลต่อไปต้องเร่งรีบแก้ปัญหา

แม้ปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่มีความท้าทายของการดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่แสนสิริสามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนประสบความสำเร็จ ด้วยยอดขายรวมถึง 50,000 ล้านบาท โตขึ้น 49% จากปีที่ผ่านมา และยอดโอน 36,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 %จากปีที่ผ่านมา และในปี 2566 แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต

วางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท ซึ่งจะนับเป็นการทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และคอนโดมิเนียม 22 โครงการ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2566 ไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์รวมถึงเป้าหมายกำไรสุทธิ ที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ส่วนกำไรไม่สามารถพูดได้ แต่มั่นใจว่า ในปีที่ผ่านมาเรามีผลกำไรที่สูงที่สุด และในปีนี้ก็จะทำลายสถิติของปีที่ผ่านมา” เศรษฐา กล่าวปิดท้าย