fbpx
FB cover 12

โค้งสุดท้ายปี 65 ใคร..? คือเจ้าบัลลังก์อสังหาฯ

ในขณะที่การแข่งขันโค้งสุดท้ายของตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังดุเดือด เข้มข้น ขอแวะพักเบรกอัพเดตผลการดำเนินงานล่าสุดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดกันสักเล็กน้อยกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 และใน 3 ไตรมาสของปี 2565 มาดูกันว่า มีใครบ้างที่ฟอร์มฮอตและพร้อมจะก้าวไปสู่การชิงเจ้าบัลลังก์อสังหาฯในช่วงปลายปี

ก่อนอื่นขอฉายภาพรวมของตลาดในไตรมาสที่ 3 และ 3 ไตรมาสของปี 2565 โดยเก็บรวมรวมผลการดำเนินงานของ 34 บริษัทอสังหาฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งโฟกัสเฉพาะบริษัทที่พัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายและยัง Active อยู่เป็นหลัก

อสังหาฯฟื้นจากโควิดรายได้โต 28% กำไรพุ่ง 114%
สำหรับในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ทั้ง 34 บริษัทสามารถทำรายได้รวมกันทั้งสิ้น 89,808 ล้านบาท เป็นรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่ทำได้ทั้งสิ้น 69,906 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 28% แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดจากวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างชัดเจน

มาดูกันที่รายได้จากการขายเพียวๆ ทั้ง 34 บริษัททำรายได้จากการขายรวมกันทั้งสิ้น 74,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายรวมกันที่ 60,647 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24%

ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ทำรวมกันได้ 12,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิรวมกันได้ 5,793 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 114% และมีอัตรากำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 14%

คราวนี้มาดูผลงานในรอบ 9 เดือนของปี 2565 กันบ้าง ทั้ง 34 บริษัททำรายได้รวมกันได้ทั้งสิ้น 243,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 9 เดือนของปี 2564 ที่ทำรายได้รวมทั้งสิ้น 219,412 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% ดูดีขึ้นเล็กน้อยอันเนื่องมาจากในไตรมาส 1-2 ยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทำให้ภาพรวม 3 ไตรมาสขยับตัวขึ้นน้อยกว่าไตรมาส 3 ไตรมาสเดียว

ขณะที่รายได้จากการขายรอบ 9 เดือนของทั้ง 34 บริษัทรวมกันทั้งสิ้น 206,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 9 เดือนของปี 2564 ที่มีรายได้จากการขายรวม 194,254 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6%

ส่วนกำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนของปี 2565 รวมทั้งสิ้น 32,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 9 เดือนของปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิรวม 23,308 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 39% โดยมีอัตรากำไรเฉลี่ยในรอบ 9 เดือนอยู่ที่ 13%

ศุภาลัย ฟอร์มฮอตกวาดแชมป์ไตรมาส 3
สำหรับ 5 บริษัทที่มีรายได้รวมสูงสุดในไตรมาส 3 ปี 2565 ได้แก่ อันดับ 1 เป็นของบริษัท ศุภาลัย ที่ฟอร์มกำลังฮอตสุดๆ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 11,362 ล้านบาท อันดับ 2 เป็นของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีรายได้รวม 9,846 ล้านบาท ส่วนเอพี (ไทยแลนด์) เข้าป้ายในอันดับ 3 ด้วยรายได้รวม 9,104 ล้านบาท อันดับ 4 เป็นของ แสนสิริ มีรายได้รวม 8,855 ล้านบาท และอันดับ 5 พฤกษา โฮลดิ้ง มีรายได้รวม 6,832 ล้านบาท

หากนับเฉพาะรายได้จากการขายบ้าน-คอนโด บริษัทที่มีรายได้อันดับ 1 ยังเป็นของ ศุภาลัย มีรายได้จากการขาย 11,068 ล้านบาท อันดับ 2 เป็นของ เอพี (ไทยแลนด์) ที่ตามมาห่างๆ ด้วยรายได้จากการขายรวม 8,689 ล้านบาท อันดับ 3 แสนสิริ 7,869 ล้านบาท เฉือนอันดับ 4 แลนด์แอน์เฮ้าส์ 7,505 ล้านบาท และอันดับ 5 พฤกษา มีรายได้จากการขายรวม 6,430 ล้านบาท

มาที่กำไรสุทธิในไตรมาส 3 บริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุดอันดับ 1 ยังคงเป็นศุภาลัยที่ทำกำไรไปได้ 2,790 ล้านบาท อันดับ 2 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 2,253 ล้านบาท อันดับ 3 เป็นของ เอพี (ไทยแลนด์) มีกำไรสุทธิ 1,418 ล้านบาท อันดับ 4 แสนสิริ มีกำไรสุทธิ 1,225 ล้านบาท และอันดับ 5 เป็นออริจิ้นที่แทรกเข้ามาใน Top 5 ด้วยกำไรสุทธิ 946 ล้านบาท

เอพี แชมป์ 3 ไตรมาส แลนด์กำไรสูงสุด
ส่วนผลงานในรอบ 9 เดือน 5 บริษัทที่มีรายได้รวมสูงสุด อันดับ 1 กลับมาเป็นของ เอพี (ไทยแลนด์) ด้วยผลงานตลอด 3 ไตรมาสที่คงเส้นคงวาทำให้มีรายได้รวม 29,842 ล้านบาท อันดับ 2 เป็นของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีรายได้รวม 27,684 ล้านบาท อันดับ 3 ศุภาลัย เป็นแชมป์ประจำไตรมาส 3 มีรายได้รวม 25,455 ล้านบาท อันดับ 4 เป็นแสนสิริ 21,913 ล้านบาท และอันดับ 5 พฤกษา 18,201 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทที่มีรายได้จากการขายสูงสุดใน 5 อันดับแรก อันดับ 1 ยังเป็นของเอพี (ไทยแลนด์) ที่มีรายได้จากการขายรวม 28,930 ล้านบาท อันดับ 2 ศุภาลัย มีรายได้จากการขายรวม 24,576 ล้านบาท อันดับ 3 แลนด์ แอนด์เฮ้าส์ 22,830 ล้านบาท อันดับ 4 แสนสิริ 18,752 ล้านบาท และอันดับ 5 พฤกษา มีรายได้จากการขายรวม 17,211 ล้านบาท

สำหรับบริษัทที่ทำกำไรในรอบ 9 เดือนสุงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยังคงเหนียวแน่นด้วยกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 6,322 ล้านบาท เฉือนอันดับ 2 ศุภาลัยที่มีกำไรสุทธิรวม 6,089 ล้านบาท ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เอพี ไทยแลนด์ มีกำไรสุทธิรวม 4,722 ล้านบาท อันดับ 4 เป็นออริจิ้น 3,055 ล้านบาท และอันดับ 5 แสนสิริ 2,389 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่ทำผลงานได้ดีทั้งในไตรมาสที่ 3 และใน 3 ไตรมาส ของปี 2565 แต่ยังไม่สามารถปีนขึ้นมาอยู่ใน Top 5 ได้อย่างเช่น เอสซี แอสเสท เฟรเซอร์ส พร็พอพเพอร์ตี้ ควอลิตี้ เฮ้าส์ และ แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ เป็นต้น

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 แต่ละบริษัทยังคงเร่งยอดขายกันอย่างเต็มพิกัด แต่ดูทรงแล้ว เอพี (ไทยแลนด์) มีโอกาสที่จะเข้าป้ายเป็นเบอร์ 1 ในปี 2565 มากที่สุด ส่วนบริษัทที่ทำกำไรได้สูงสุดยังคงต้องลุ้นกันว่าแลนด์แอนด์เฮ้าส์จะยังคงรักษาแชมป์เอาไว้ได้หรือจะเพลี่ยงพล้ำให้กับศุภาลัย โดยมีเอพี (ไทยแลนด์) เป็นตัวสอดแทรกแบบห่างๆ ติดตามกันตอนต่อไปครับ