fbpx
ME I Avenue Landscape Project Perspective 1200x960

ทุนญี่ปุ่นสั่งลุยแนวราบ ชินวะ กรุ๊ป ประเดิมผุดบ้านหรู เมอิ อเวนิวฯ ราคาเริ่มต้น 39.8 ล้าน

กลุ่มทุนญี่ปุ่นสั่งลุยบ้านแนวราบ ล่าสุดกลุ่มชินวะ กรุ๊ป ปรับแผนจากแนวสูงลงสู่แนวราบ เปิดตัวโครงการ “เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์” บ้านหรูระดับลักชัวรี่ ชูดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่นแท้ผสานศาสตร์ฮวงจุ้ย เคาะราคาขาย 39.8-48.8 ล้านบาท พร้อมตุนที่ดินเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง

นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร บริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือชินวะ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นยังมั่นใจการลงทุนในไทย โดยล่าสุดบริษัทได้มีการปรับแผนหันมาเจาะตลาดบ้านแนวราบระดับลักชัวรี่ โดยเตรียมจะเปิดตัวโครงการ เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ บ้านสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ และนำเอาศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” วิชาเต๋า-เหมาซานมาใช้ในการออกแบบบ้านทุกหลัง เจาะกลุ่มลูกค้านิชมาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ ในราคา 39.8-48.8 ล้านบาท

โครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ ติดห้างพาราไดซ์ ปาร์ค เดิมมีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมขนาด 100 ยูนิต เจาะกลุ่มวัยเริ่มทำงาน แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ประกอบกับกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าวมีฐานะดี มีรายได้สูง และมีทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่แต่งงานแยกครอบครัวใหม่ แต่ต้องการอาศัยใกล้ครอบครัวเดิม

บริษัทจึงได้ปรับการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ จำนวน 5 หลังสูง 4 ชั้นรวมดาดฟ้า ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 46.4-49.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 531-524 ตร.ม. 4-5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน สามารถแบ่งโซนทำงานและอยู่อาศัย ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจ และครอบครัวขยาย มีมูลค่าการขาย 250 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้หมดภายในสิ้นปี 2565

นายวิชัย กล่าวอีกว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมทั้งของประเทศไทยและเศรษฐกิจโลกจะเจอแรงกดดัน แต่สำหรับบริษัทชินวะฯ ก็ยังมีแผนลงทุนหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องตามนโยบายของบริษัทแม่ “ชินวะ กรุ๊ป” ญี่ปุ่น ที่เข้ามาลงทุนอสังหาฯในไทยตั้งแต่ปี 2560 ในรูปแบบการร่วมทุน แต่ปี 2565 นี้จะเป็นปีแรกที่บริษัทชินวะ ฯ จะลงทุนพัฒนาเองโดยไม่มีผู้ประกอบการรายอื่นมาร่วมทุนเหมือนกับโครงการที่พัฒนาในช่วงก่อนหน้า

“ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เราลงทุนเอง 100% ในแลนด์แบงก์ที่ซื้อเก็บไว้ในมือหลายแปลงอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ แต่จะเป็นการทะยอยนำออกมาพัฒนาตามความเหมาะสมของสภาวะตลาดและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในแต่ละโลเคชั่น ซึ่งหากโครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ ประสบความสำเร็จด้วยดี บริษัทยังมีที่ดินอีก 3-4 แปลงที่จะเดินหน้าโครงการต่อๆ ไป มูลค่ารวมกันประมาณ 2,000 ล้านบาท และมีแผนจะขยายการลงทุนไปที่ภูเก็ต เขาใหญ่ และศรีราชในปี 2566 ด้วย” นายวิชัยกล่าว

สำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัทคงจะชะลอการลงทุนไปจนกว่าตลาดจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยขณะนี้เห็นว่ายังมีซัพพลายอยู่ในตลาดค่อนข้างเยอะ ขณะเดียวกันกำลังซื้อจากชาวจีนยังไม่กลับมา โดยในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ลูกค้าชาวจีนที่ซื้อห้องชุดในโครงการ รูเนะสุ ทองหล่อ 5 รวมๆ ประมาณ 20-30 ห้องที่ได้วางเงินดาวน์ไปแล้วประมาณ 20% ไม่สามารถติดตามผู้ซื้อให้มาโอนได้ บริษัทจึงมีแผนนำห้องชุดกลับมาขายใหม่ในช่วงปลายปี 2565 นี้ แต่ถ้าลูกค้าคนจีนติดต่อกลับมาในช่วงที่ยังไม่ได้ขายออกไปก็พร้อมที่จะให้ลูกค้าชาวจีนโอนกรรมสิทธิ์ทันที

เป็นที่น่าสังเกตว่า บริษัทร่วมทุนกับญี่ปุ่นเริ่มหันมารุกตลาดบ้านแนวราบในสไตล์ญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีเรียลดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็น พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค แสนสิริ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ธนาสิริ และล่าสุดกลุ่มบริษัท รีโว เตรียมเปิดโครงการใหม่ “เรซิโอ โฮม (เวสต์เกต)” ทาวน์โฮมที่ผสานแนวคิดและนวัตกรรมการใช้ชีวิตแบบญี่ปุ่น ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal ในราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท เป็นต้น