เสนาฯ แตก 4 ธุรกิจใหม่ มุ่งสู่การเติบโตที่ยั่งยืน พร้อมกางแผนลงทุนครึ่งปีหลังเปิดโครงการใหม่อีก 12 โครงการ ทั้งแนวราบ แนวสูงมูลค่ารวม 7,181 ล้านบาท
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทได้ขยายธุรกิจใหม่ (New Business) เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต โดยเป็นธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ สามารถใช้ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเป็นแต้มต่อ และจะต้องเป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตที่ดี ประกอบด้วย
1.ธุรกิจบริการด้านการดูแลป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพ รองรับการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ ภายใต้บริษัท เอส เจ เฮลแคร์ จำกัด (SJ HEALTHCARE) จับมือกับ บริษัท ไอลดา เฮลธ์ แคร์ จำกัด ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการลุยเนิร์สซิ่งโฮม สาขาแรกที่จรัญสนิทวงศ์
2.ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าพร้อมช่วยบริหารจัดการแบบครบวงจรภายใต้บริษัท เอส เค แอสเสท แมแนจเม้นท์ จำกัด จับมือกับพันธมิตรธุรกิจโลจิสติกส์ บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO พร้อมขยายธุรกิจแวร์เฮ้าส์และเซลฟ์ สโตเรจอย่างต่อเนื่อง
![](https://thaipropertymentor.com/wp-content/uploads/2022/08/ดร.เกษรา-เสนา-640x360.jpg)
3. บริษัท เอส ไฟแนนซ์เชียล เซอร์วิส ธุรกิจให้บริการ ICO (INITIAL COIN OFFERING) หรือการระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (DIGITAL TOKEN) ซึ่งเป็นการนำทรัพย์ที่มีอยู่จริง เช่น อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน รวมทั้งแผนการทำธุรกิจมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลและเปิดให้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุน โดยต้องทำการซื้อ – ขายด้วยเงิน Cryptocurrency โดยร่วมกับ 2 พาร์ทเนอร์ คือ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทุนทรัสต์อิสระรายแรกในประเทศไทย และบริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด
4.บริษัท เดอะ เซอร์วิส เรสซิเด้นท์ ดำเนินธุรกิจเพื่อเช่าและเพื่อการบริการ ซึ่งก่อให้เกิดรายได้สม่ำเสมอ และระยะยาว (Recurring Income)
นอกจากนี้ ได้เตรียมจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ ที แอนด์ ที จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพทั้ง Non – Performing Loan : NPL และ Non – Performing Asset :NPA จากสถาบันการเงิน เพื่อนำมาพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพให้เป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ โดยได้มีการร่วมกับทางบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) เพื่อร่วมมือทางธุรกิจในการบริหารจัดการหนี้เสียสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และสินทรัพย์รอการขาย หรือบ้านมือสอง
![](https://thaipropertymentor.com/wp-content/uploads/2022/08/FLXTaopoon_Web_June_02_CMS_PC-640x404.jpg)
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวอีกว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัว ค่าครองชีพ ข้าวของต่างๆ ปรับราคาสูงขึ้น ขณะที่รายได้ของผู้บริโภคลดลง โดยมีปัจจัยที่ต้องระมัดระวังอย่างภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาหนี้ครัวเรือนและการว่างงานที่ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง อย่างไรก็ตาม ภาครัฐยังมีมาตรการทั้งผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ เช่น มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง หรือมาตรการผ่อนคลายอย่าง เกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Loan – to – Value : LTV) ซึ่งกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็น 100% ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการปลายปี 2565 นี้
ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ของบริษัทที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญภายใต้กลยุทธ์ “SENA Next” มิติใหม่สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในช่วงครึ่งปีแรกได้เปิด 6 โครงการใหม่รวม 4,845 ล้านบาท สร้างยอดขายแล้ว 5,480 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 1 โครงการ แนวสูง 5 โครงการ ส่วนในครึ่งปีหลัง มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 12 โครงการ รวมมูลค่า 7,181 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ และแนวสูง 7 โครงการ
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบจะเปิดตัวทุกแบรนด์ เช่น เสนา วิลล์ ,เสนา พาร์ค วิลล์ , เสนา วีว่า และเสนา เวล่า และโครงการแนวสูงที่เป็น fighting แบรนด์ ได้แก่ เสนาคิทท์ และ เฟล็กซี่ โดยในเดือนสิงหาคมจะเริ่มเปิดขาย 4 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 2 โครงการและแนวสูง 2 โครงการ
![](https://thaipropertymentor.com/wp-content/uploads/2022/08/J-City-Resize-2000x3000-3979-640x360.jpg)
ขณะเดียวกัน ทางเสนากับพันธมิตรธุรกิจที่แข็งแกร่ง “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป” นั้น ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์มากว่า 5 ปี ซึ่งพัฒนาโครงการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงทุกเซกเมนต์ ปัจจุบัน เสนา ฮันคิว ฮันชิน มีโครงการพัฒนาร่วมกันแล้ว โดยในครึ่งปีหลัง ที่จะเปิด 12 โครงการ เป็นโครงการร่วนทุน 7 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,067 ล้านบาท พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ บริษัท เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เน้นการพัฒนาอสังหาฯ แนวราบ พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่