พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ชี้สถานการณ์โควิดผ่อนคลาย และการปลดล็อค LTV ช่วยปลุกกำลังซื้อรอบใหม่ มั่นใจไตรมาส 4 ตลาดอสังหาฯฟื้นตัว เตรียมแผนผุดโครงการใหม่ในปี 65 อีก 14 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าพัฒนาถนนหอการค้าไทยให้เป็นถนนสีเขียว
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย และการผ่อนคลายมาตรการ LTV ได้ทำให้กำลังซื้อของลูกค้าเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ความต้องการซื้อฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง
“การฟื้นตัวของกำลังซื้อสะท้อนได้จากแนวโน้มผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทิศทางยอดขายของบริษัทขยายตัวต่อเนื่อง จึงคาดว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 จะเติบโตอย่างชัดเจนจากไตรมาส 3” นายวงศกรณ์กล่าว
ขณะที่ในปี 2565 จะเติบโตขึ้นจากปี 2564 โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวใหม่จำนวน 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 19,400 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบที่บริษัทพัฒนาเอง 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,800 ล้านบาท และเป็นโครงการแนวราบที่ร่วมทุนกับพันธมิตรอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,600 ล้านบาท
ขณะที่เป้าหมายรายได้และยอดขายในปี 2565 บริษัทตั้งไว้ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปี 2564 ที่คาดจะมีรายได้อยู่ที่ 12,000-13,000 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมประมาณ 2,700 ล้านบาท อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังวางกลยุทธ์สำหรับการพัฒนาโครงการที่มุ่งเน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุดได้ร่วมกับพันธมิตรพัฒนาถนนหอการค้าไทยให้เป็นถนนสีเขียวมุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ
นายวงศกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถนนหอการค้าไทยเป็นถนนที่บริษัทสร้างขึ้นมีระยะทาง 4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างถนนชัยพฤกษ์และถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง มีพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการรวม 1,226 ไร่ ปัจจุบันเติบโตเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีโครงการที่อยู่อาศัย สถาบันการศึกษา โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้าชุมชน ธุรกิจร้านค้าต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่รอการพัฒนาและมีศักยภาพที่จะขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต จากการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ บริษัทจึงมีแนวคิดที่จะผลักดันให้ถนนหอการค้าไทย เป็นถนนที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับพันธมิตรที่เข้ามาร่วมพัฒนาโครงการถนนสีเขียว ได้แก่ “อีวีโลโม” บริษัทชั้นนำจากอเมริกา จะเข้ามาสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเดี่ยวทุกโครงการ พร้อมกับจับมือกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้แก่ “อรุณ พลัส, อีวี มี พลัส, สวอพ แอนด์ โก” ให้บริการซื้อหรือเช่ารถยนต์ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชั่น ศึกษาการให้บริการ EV Bus และตู้สลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในชุมชน
ในขณะเดียวกัน บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จะเข้ามาเปิด “โลตัส โกเฟรช” สาขาใหม่ในแนวคิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง “โรงเรียนนานาชาติเอสไอเอสบี” ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วยแนวคิดโรงเรียนพลังงานทางเลือก
“นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจที่ตั้งอยู่บนถนนนี้ ที่มีแนวทางการดำเนินงานในแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจะติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในศูนย์ราชการนนทบุรี เพื่อจุดประกายให้คนหันมาสนใจการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น” นายวงศกรณ์กล่าว
