fbpx
hero street view scaled

ไรมอน แลนด์ เดินหน้าลงทุน 2 หมื่นล้าน ผุด 3 โครงการลักชัวรี่

ไรมอน แลนด์ มั่นใจเปิดประเทศปลุกความเชื่อมั่นการลงทุน เตรียมลุยเปิดโครงการระดับลักชัวรี่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้าน พร้อมปรับภาพลักษณ์โครงการขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่รายได้สูง

นายมนาเทศ อันนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และการขาย บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังจากเริ่มปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้ 70% และการประกาศเปิดประเทศภายใน 120 วัน รวมถึงการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม ที่มีรายได้สูงและศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ปัจจัยดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นที่จะดึงบรรยากาศและความมั่นใจในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนลูกค้าชาวต่างชาติให้กลับมา

“แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯตั้งแต่ต้นปีชะลอตัวลง แต่สำหรับกลุ่มคอนโดลักชัวรี่ ทำเลใจกลางเมืองที่มีจำนวนจำกัด ยังมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากผู้ที่กำลังมองหาที่พักอาศัย หรือซื้อไว้เพื่อลงทุน ทำให้คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง

เห็นได้จากยอดโครงการ The Lofts Silom ที่ปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยในไตรมาส 1 และ โครงการ TAIT Sathorn 12 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์ในครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการที่ประชาชนในประเทศและทั่วโลกได้ทยอยรับวัคซีน จะทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมาฟื้นตัว” นายมนาเทศ กล่าว

สำหรับแผนลงทุนในปีนี้บริษัทเตรียมจะเปิดโครงการระดับลักชัวรี่เพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดบนทำเลสุขุมวิท 2 โครงการ ที่สุขุมวิท 38 และพร้อมพงษ์ ทั้ง 2 โครงการรวมกันประมาณ 14,000-15,000 บ้านบาท และโครงการลักชัวรี่ วิลล่า (คาดว่าจะอยู่ที่ภูเก็ต) อีก 1 โครงการ มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับภาพลักษณ์ และการสร้างสร้างการรับรู้แบรนด์ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Young Affluents ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีรายได้สูง โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการขายไว้ที่ 2,700 ล้านบาท จาก 2 โครงการหลักคือ The Estelle พร้อมพงษ์ และ Tait สาทร 12 เป็นการขายทั้งในต่างประเทศและต่างประเทศ โดยในไตรมาสแรกสามารถทำยอดขายไปได้เกือบ 1,600 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะสามารถทำได้เกินกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้

“ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีการปรับกลยุทธ์การตลาด การจัดแคมเปญส่งเสริมการขายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการรีแบรนด์ดิ้ง ปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้มีความลักชัวรี่ ทันสมัย และสามารถเข้าถึงเจเนอเรชั่นใหม่ ครอบคลุมทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิมที่เชื่อมั่นในแบรนด์ และ กลุ่ม Young Affluents ผู้มีกำลังซื้อยุคใหม่ รวมถึงการปรับภาพลักษณ์โครงการ TAIT Sathorn 12 คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่บนทำเลสาทรให้เข้ากับความ Modern Luxury และมีแผนที่จะขยายการปรับภาพลักษณ์โครงการอื่นๆ ในอนาคต” นายมนาเทศกล่าว


สำหรับโครงการ Tait สาทร 12 เป็นคอนโดมิเนียม High-rise ระดับลักชัวรี่ ในราคาเริ่มต้น 8.88 ล้านบาท พัฒนาภายใต้แนวคิด “Live The Best of Sathorn Life” ความเป็นที่สุดแห่งไลฟ์สไตล์คนเมืองย่านสีลม สาทรอย่างแท้จริง ในพื้นที่สาทรซอย 12 ทำเลที่มีศักยภาพใจกลางเขตธุรกิจ หรือ Prime CBD (Central Business District) และศูนย์กลางทางการเงิน (Financial District) ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่ต้องการเชื่อมต่อการเดินทาง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มูลค่าโครงการกว่า 4,300 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ 75% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ โครงการยังได้รับรางวัล “Best Luxury Condominium Project – Thailand 2021” จัดขึ้นโดย International Finance Magazine นิตยสารด้านธุรกิจและการเงินชั้นนำของ UK’s International Finance Publications Limited ซึ่งเป็นการการันตีถึงคุณภาพของโครงการในระดับสากล