fbpx
ภาคเหนือ เชียงใหม่

อสังหาฯเมืองเหนือซึมยาว เชียงใหม่ยอดขายวูบ 37% เหลืออีกกว่า 7,000 หน่วย

อสังหาฯภาคเหนือซึมยาว เชียงใหม่อาการหนักสุดยอดขายวูบ 37% ขณะที่สต๊อกเหลือขายยังมีอีกกว่า 7,000 หน่วย ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดใช้เวลาฟื้นตัวอีกหลายปี

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก และตาก ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ซึ่งเป็นการสำรวจโครงการบ้านจัดสรรและอาคารชุด ที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย โดยในช่วงที่ทำการสำรวจ พบว่า

ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก และตาก มีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขาย ณ ครึ่งหลังปี 2563 (Total Supply) ทั้งหมด 407 โครงการ จำนวน 18,570 หน่วย มูลค่ารวม 68,112 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 354 โครงการ จำนวน 15,644 หน่วย มูลค่า 59,432 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด 53 โครงการ จำนวน 2,926 หน่วย มูลค่า 8,679 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวมีที่อยู่อาศัยที่ขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จำนวน 2,071 หน่วย และมีหน่วยเหลือขายจำนวน 16,499 หน่วยสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มี Total Supply ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ -4.4 โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 10,955 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 8,560 หน่วย หรือร้อยละ 78.1 และเป็นโครงการอาคารชุด 2,395 หน่วย หรือร้อยละ 21.9 โดยมีโครงการที่เปิดขายใหม่ในครึ่งหลังปี 2563 เพียง 1,239 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ -20.3 ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 1,454 หน่วย ซึ่งลดลงถึงร้อยละ -37.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ จากจำนวนโครงการที่เปิดขายทั้งหมด 10,955 หน่วย มีหน่วยเหลือขายสะสมจำนวน 9,501 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เมื่อจำแนกตามราคาพบว่า หน่วยเหลือขายส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวน 3,383 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 35.6 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มากที่สุดก็ยังคงอยู่ในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 517 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 35.55

สำหรับหน่วยเหลือขายที่เป็นโครงการสร้างเสร็จแล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง (Inventory) ในครึ่งหลังปี 2563 ในจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 7,517 หน่วย จากจำนวนหน่วยเหลือขาย 9,501 หน่วย โดยร้อยละ 79.1 เป็นโครงการบ้านจัดสรร

สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงรายมี Total Supply เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ 10.9 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 3,337 หน่วย เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 3,268 หน่วย หรือร้อยละ 97.9 และเป็นโครงการอาคารชุด 69 หน่วย หรือร้อยละ 2.1 โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งหลังปี 2563 เพียง 738 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ -40.4 มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 437 หน่วย เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่หน่วยเหลือขายสะสมในจังหวัดเชียงรายมีจำนวน 2,900 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เมื่อจำแนกตามราคาพบว่า หน่วยเหลือขายส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระดับราคา 3-5 ล้านบาท โดยมีจำนวน 1,111 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 38.31 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด ส่วนหน่วยขายได้ใหม่มากที่สุดอยู่ในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวนทั้งสิ้น 139 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31.8

สำหรับหน่วยเหลือขายที่เป็นโครงการสร้างเสร็จแล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง (Inventory) ในครึ่งหลังปี 2563 ในจังหวัดเชียงราย มีจำนวนทั้งสิ้น 2,864 หน่วย จากจำนวนหน่วยเหลือขาย 2,900 หน่วย โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 98.8 เป็นโครงการบ้านจัดสรร

ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดพิษณุโลก มี Total Supply เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 3,422 หน่วย ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการบ้านจัดสรร 3,076 หน่วย หรือร้อยละ 89.9 และเป็นโครงการอาคารชุด 346 หน่วย หรือร้อยละ 10.1

มีโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งหลังปี 2563 เพียง 194 หน่วย ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการบ้านจัดสรร โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 สำหรับหน่วยขายได้ใหม่ มีจำนวน 142 หน่วย ซึ่งการขายได้ใหม่นี้มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับหน่วยเหลือขายสะสมจำนวน 3,280 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เมื่อจำแนกตามราคาพบว่า หน่วยเหลือขายส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวน 1,171 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 35.70 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มากที่สุดอยู่ในช่วงราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวนทั้งสิ้น 60 หน่วย

สำหรับหน่วยเหลือขายที่เป็นโครงการสร้างเสร็จแล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง (Inventory) ในครึ่งหลังปี 2563 ในจังหวัดพิษณุโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 3,280 หน่วย จากจำนวนหน่วยเหลือขาย 2,955 หน่วย โดยร้อยละ 90.1 เป็นโครงการบ้านจัดสรร

ปี 2564 ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และพิษณุโลก ยังคงมีภาวะชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2563 ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ทำให้ตลาดทั้งปี 2564 มีภาวะชะลอตัวเช่นเดียวกับปี 2563 โดยคาดว่า ตลาดจะเริ่มฟื้นตัวครึ่งหลังของปี 2564 แต่ยังไม่ดีขึ้นมากต้องรอถึงปี 2565-2567 ถ้าซัพพลายใหม่ปรับตัวลง คาดว่าซัพพลายเหลือขายจะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นจากปี 2563 เพียงเล็กน้อย” ดร.วิชัยกล่าว

ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดตากมี Total Supply เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ 10.6 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 856 หน่วย เป็นโครงการบ้านจัดสรร 740 หน่วย หรือร้อยละ 86.4 และโครงการอาคารชุด 116 หน่วย หรือร้อยละ 13.6 และเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งหลังปี 2563 เพียง 27 หน่วย มีอัตราลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ร้อยละ -89.8 มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 38 หน่วย ซึ่งการขายได้ใหม่นี้มีอัตราเทียบเท่ากับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับหน่วยเหลือขายสะสมจำนวน 818 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เมื่อจำแนกตามราคาพบว่า หน่วยเหลือขายส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระดับราคา 1.5-2ล้านบาท มีจำนวน 290 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 35.45 ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มากที่สุดอยู่ในช่วงราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวนทั้งสิ้น 17 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 2.07

สำหรับหน่วยเหลือขายที่เป็นโครงการสร้างเสร็จแล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง (Inventory) ในครึ่งหลังปี 2563 ในจังหวัดตากมีจำนวนทั้งสิ้น 856 หน่วย จากจำนวนหน่วยเหลือขาย 740 หน่วย โดยร้อยละ 86.4 เป็นโครงการบ้านจัดสรร ในปี 2564 ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดตาก ได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดทั้งปี 2564 มีภาวะชะลอตัวเช่นเดียวกับปี 2563