fbpx
Screenshot 2020 11 18 093032

พฤกษา โฮลดิ้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต

28 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก

พฤกษา เรียลเอสเตท มีอายุครบ 28 ปีบริบูรณ์ไปเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาด้วยทุน 50 ล้านบาท เมื่อปี 2536 ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วหลายครั้ง ลุ้มลุกคลุกคลานมาแล้วหลายรอบ กว่าจะมายืนอยู่แถวหน้าเป็นบิ๊กอสังหาฯอย่างเช่นทุกวันนี้

เช่นเดียวกับคุณทองมาที่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ชีวิตถูกเคี่ยวกรํามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย ผมเคยนั่งสัมภาษณ์คุณทองมา คุยกันถึงชีวิตความเป็นมาของเขาก่อนที่จะขึ้นมาเป็นดีเวลลอปเปอร์ใหญ่ของเมืองไทย ซึ่งโดยปกติคุณทองมาจะเป็นคนพูดน้อย ตอบน้อย และถ่อมตัวอยู่เสมอ แต่วันนั้นคุยกันยาวเป็นชั่วโมงๆ พร้อมกับได้ Content ดีๆ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆ คนมาตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

วันนี้เลยขออนุญาตเล่าย้อนความถึงคุณทองมา กับ 28 ปี ของพฤกษาจากอดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตครับ

ป.4 ต้องออกจากรร. ต่อศึกษาผู้ใหญ่จนจบวิศวะจุฬาฯ
คุณทองมาในวัย 12 ปีต้องออกจากโรงเรียนตอนจบป.4 เพราะฐานะที่บ้านยากจน จึงต้องมาทำงานช่วยที่บ้านด้วยการเป็นลูกจ้างร้านบัดกรี ก่อนเข้ากรุงเทพฯมาเป็นลูกจ้างร้านขายยา ลูกจ้างร้านทอง ส่งเสียตัวเองเรียนศึกษาผู้ใหญ่ จนสอบได้ วิศวะ จุฬาฯ

พอจบออกมาเป็นวิศวกรบริษัทก่อสร้างอยู่หลายบริษัท ก่อนเข้าสู่วงการรับเหมาก่อสร้างด้วยการขอยืมเงินแม่เป็นทุนประเดิม 4-5 หมื่นบาท ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามเอ็นจิเนียริ่ง นับเป็นก้าวแรกของการเป็นเจ้าของธุรกิจเต็มตัว

เริ่มธุรกิจอสังหาฯ โครงการแรกเจ๊งขายไม่ออก
ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ได้ 7 ปี ก็เห็นถึงความไม่แน่นอนกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง จึงคิดอยากจะเปลี่ยนธุรกิจด้วยเงินทุนก้อนสุดท้ายที่ได้จากงานก่อสร้าง ดิ โอลด์สยาม พลาซ่า ราว 50 ล้านบาท และให้บังเอิญที่ต้องพาเพื่อนที่กลับมาจากต่างประเทศไปหาตระเวณหาซื้อบ้านตามโครงการต่างๆ คิดว่า ตัวเองน่าจะทำโครงการแบบนี้ได้ก็เลยลองจับที่ดินมาแบ่งแปลงขายเป็นทาวน์เฮ้าส์ 4 ห้อง

ปรากฏว่า เจ๊ง ขายไม่ได้เลยสักห้อง ซึ่งคุณทองมายอมรับว่า ตอนนั้นเขารู้แต่งานก่อสร้าง ส่วนเรื่องของการขาย การตลาดไม่รู้เลย พอทำออกมาแล้วจึงขายไม่ได้ ยังโชคดีที่มีเพื่อนมาช่วยซื้อไป 3 ห้อง และอีกห้องมีลูกค้าผู้โชคดีมาซื้อไป

แต่คุณทองมายังไม่ลดละความพยายาม โดยไปหาซื้อที่ดินเปิดโครงการบ้านเดี่ยว 10 หลัง แถวๆ ซอยเสือใหญ่ รัชดาฯ ตั้งราคาขายหลังละ 2 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮ้าส์ แถวสุขุมวิท 101 อีก 13 ห้อง ขายห้องละ 1.3-1.4 ล้านบาท ในนามห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามเอ็นจิเนียริ่ง แต่ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดในธุรกิจอสังหาฯ กว่าทั้ง 2 โครงการ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่หลังจะขายหมดต้องใช้เวลาเป็นปี

จุดเริ่มต้นของ พฤกษาฯ และเจ้าพ่อบ้านราคาถูก
มีอยู่วันหนึ่งคุณทองมา ได้มีโอกาสไปฟังคุณชวน หลักภัย ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาได้พูดถึงบ้านราคาถูกราคาไม่เกิน 6 แสนบาท ซึ่งมีความต้องการอยู่มหาศาล และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนผ่านการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท

คุณทองมาปิ๊งไอเดยจากคำพูดของคุณชวน และใช้เวลาศึกษาตลาดบ้านราคาถูกอย่างจริงจังอยู่สักระยะก่อนที่จะเปิดโครงการแรก บ้านพฤกษา 1 ที่รังสิตคลอง 6 จำนวน 1,000 หลัง ขายราคา 3.5 แสนบาท ขายอยู่ 3 เดือนก็หมด แต่โครงการแรกนี้กลับเท่าทุนเพราะตั้งราคาถูกเกินไป

พฤกษา

คุณทองมา เริ่มโครงการพฤกษา 2 อีก 2,000 หลัง คราวนี้ขยับราคาเป็น 3.5-4.5 แสนบาท 3-4 เดือนก็ขายหมด และเปิดโครงการต่อเนื่องที่บางบัวทองเป็นโครงการพฤกษา 3 จำนวนถึง 7,000 หลัง ขายราคา 4-6 แสนบาท ขายอยู่ 1 ปีก็หมดเกลี้ยง ถือว่า เดินมาถูกทาง จากปี 2536 ธุรกิจบ้านพฤกษาราคาถูกก็โตวันโตคืน จนถึงปี 2540 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สถาบันการเงินถูกปิด บริษัทมีเงินสดหมุนเวียนอยู่แค่ 10 ล้านบาท ขณะที่ยังต้องสร้างและโอนบ้านให้ลูกค้าถึง 3,000 หลัง และมีหนี้อยู่อีกราว 1,000 ล้านบาทที่ต้องใช้ให้เจ้าหนี้

เปิดร้านอาหารเกสรหารายได้เลี้ยงลูกน้อง
พอตั้งหลักได้คุณทองมาใช้เงินที่มีอยู่ทะยอยสร้างบ้านให้ลูกค้า พอโอนได้ก็เอาเงินไปใช้หนี้ และเงินที่เหลือก็เอาสร้างบ้านให้ลูกค้าต่อใช้เวลา 2 ปี พฤกษา ถึงรอดพ้นจากวิกฤติที่หนักที่สุดมาได้ แต่ตลาดยังไม่ฟื้นกลับมา คุณทองมา เลยใช้ช่วงเวลานี้มาเปิดร้านอาหารชื่อร้านเกสร อยู่ตรงทางเข้าสนามกอล์ฟนอร์ธปาร์ค ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อให้พนักงานได้มีงานทำ และนำรายได้ส่วนหนึ่งมาเลี้ยงพนักงานที่ยังเหลืออยู่ จนถึงปี 2544 พฤกษา เรียลเอสเตท จึงกลับคืนวงการอีกครั้ง

การกลับมารอบนี้คุณทองมาถอดบทเรียนจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ค่อยๆ กระจายความเสี่ยงด้วยการขยายเซ็กเมนต์ไปในตลาดอื่นๆ นอกเหนือจากการทำแต่บ้านราคาถูก พร้อมนำเทคโนโลยี่การก่อสร้างระบบสำเร็จรูปมาใช้ โดยลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป พร้อมกับตั้งเป้าพลิกโฉมธุรกิจอสังหาฯให้เป็นระบบอุตสาหกรรม ( Real Estate Manufacturing) โดยใช้ความเร็ว (Economy of speed) จากที่เคยใช้เวลาสร้างบ้าน 6-7 เดือน เหลือแค่ 1 เดือน และการสร้างด้วยปริมาณมากๆ (Economy of Scale) เป็นอาวุธสำคัญในการทำธุรกิจ

พฤกษา

โค่นแชมป์ – แชมป์ที่ถูกโค่น ขาลงของพฤกษา?
หลังวิกฤติปี 2540 พฤกษาเติบโตอย่างรวดเร็ว จนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2548 ก็ยิ่งเหมือนเสือติดปีกจากรายได้ในปีเริ่มต้นของการเป็นบริษัทมหาชนกว่า 7,600 ล้านบาท ก็พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2552 ก็สามารถล้มแชมป์ตลอดกาลอย่างแลนด์แอนด์เฮ้าส์ไปได้ด้วยรายได้กว่า 19,000 ล้านบาท และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีรายได้สูงสุดในปี 2558 ที่ 50,000 ล้านบาท และมียอดขายสูงสุดในปี 2561 ที่ 51,000 ล้านบาท

ในช่วงที่พฤกษากำลังพุ่งทะยาน คุณทองมาวาดฝันจะมีรายได้ถึง 1 แสนล้านบาทในปี 2560 ก่อนจะขยับแผนอีกครั้งเป็นภายในปี 2570 พร้อมกับการขยายการลงทุนไปในต่างประเทศตั้งเป้าจะติด Top 10 ของบริษัทอสังหาฯของเอเชีย แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะการลงทุนในต่างประเทศกลับล้มไม่เป็นท่า เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงตลาดในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง และกฎระเบียบต่างๆ ที่กลายเป็นจุดตายของการลงทุนในแต่ละประเทศ

พฤกษา

ขณะที่ตลาดในประเทศก็เริ่มถูกท้าทายด้วยคู่แข่งขันระดับบิ๊กๆ มากหน้าหลายตาในแต่ละเซ็กเมนต์ที่พฤกษาขยายตัวออกไป ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาต่อเนื่องบั่นทอนกำลังซื้อในฐานที่มั่นสำคัญของพฤกษานั่นก็คือตลาดบ้านระดับกลาง-ล่าง สร้างผลกระทบต่อรายได้จนทำให้เสียแชมป์ให้กับแสนสิริไปในที่สุดเมื่อปีที่ผ่านและทำให้พฤกษาต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ก้าวต่อไปของพฤกษากับบ้านราคาถูกที่หายไป
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 คุณทองมา โปรโมทลูกน้องเก่าคุณปิยะ ประยงค์ ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2546 ขึ้นเป็น ซีอีโอ พฤกษา เรียลเอสเตท ปรับจูนการทำงานของพฤกษา เรียลเอสเตทใหม่ โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปีนับจากนี้เขาตั้งเป้าจะนำพา พฤกษา เรียลเอสเตท กลับไปในจุดที่เคยทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง พร้อมกับต่อยอดไปสู่ธุรกิจสุขภาพ โดยนำโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของพฤกษามาช่วยยกระดับการอยู่อาศัยไปอีกขั้น

ในวาระครบรอบ 28 ปี จึงมีงานที่ท้าทายรออยู่ เพื่อกลับคืนสู่บัลลังก์เบอร์ 1 ของตลาด แม้คุณทองมาจะบอกหลายครั้งว่าไม่ต้องการแข่งกับใคร ขอแข่งกับเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ให้ได้ก็พอ

คุณทองมา ได้กล่าวในวาระที่บริษัทครบ 28 ปีว่า ก้าวต่อไป พฤกษาจะนำความเชี่ยวชาญจากธุรกิจสุขภาพที่กำลังจะเปิดตัวของโรงพยาบาลวิมุตมาผนวกในการยกระดับการอยู่อาศัยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น จึงไม่ใช่เพียงแค่การอยู่อาศัย แต่ยังรวมไปถึงการใส่ใจดูแลด้านสุขภาพด้วย โดยจะยังคงยึดมั่นวิสัยทัศน์และพันธกิจภายใต้แนวคิด “ใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต” เพราะอยากให้ทุกคนมี “บ้าน” ที่อยู่แล้วมีความสุข

พฤกษา

28 ปีของพฤกษาก็ขอชื่นชมในความสำเร็จของคุณทองมา และเอาใจช่วยคุณปิยะให้นำองค์กรผ่านวิกฤติรอบนี้ไปให้ได้ สำหรับผมน่าเสียดายอยู่อย่าง ตรงที่พฤกษาในวันนี้แทบไม่มีบ้านราคาถูกให้ผู้มีรายได้น้อย-ปานกลางซึ่งวันนี้ก็ยังมีความต้องการอยู่อย่างมหาศาล และเคยเป็นฐานให้พฤกษาได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา

จะด้วยวิถีของธุรกิจ ความใหญ่ขององค์กรที่ทำให้กดต้นทุนไม่ลงหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมก็เชื่อว่า ด้วยศักยภาพของพฤกษา ทั้งคน ทั้งเทคโนโลยี่ และประสบการณ์อันโชกโชนในตลาดนี้ ถ้าเอาจริงๆ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะครับ สวัสดี #28ปีพฤกษา