28 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก
พฤกษา เรียลเอสเตท มีอายุครบ 28 ปีบริบูรณ์ไปเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาด้วยทุน 50 ล้านบาท เมื่อปี 2536 ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วหลายครั้ง ลุ้มลุกคลุกคลานมาแล้วหลายรอบ กว่าจะมายืนอยู่แถวหน้าเป็นบิ๊กอสังหาฯอย่างเช่นทุกวันนี้
เช่นเดียวกับคุณทองมาที่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ชีวิตถูกเคี่ยวกรํามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย ผมเคยนั่งสัมภาษณ์คุณทองมา คุยกันถึงชีวิตความเป็นมาของเขาก่อนที่จะขึ้นมาเป็นดีเวลลอปเปอร์ใหญ่ของเมืองไทย ซึ่งโดยปกติคุณทองมาจะเป็นคนพูดน้อย ตอบน้อย และถ่อมตัวอยู่เสมอ แต่วันนั้นคุยกันยาวเป็นชั่วโมงๆ พร้อมกับได้ Content ดีๆ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆ คนมาตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
วันนี้เลยขออนุญาตเล่าย้อนความถึงคุณทองมา กับ 28 ปี ของพฤกษาจากอดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตครับ
ป.4 ต้องออกจากรร. ต่อศึกษาผู้ใหญ่จนจบวิศวะจุฬาฯ
คุณทองมาในวัย 12 ปีต้องออกจากโรงเรียนตอนจบป.4 เพราะฐานะที่บ้านยากจน จึงต้องมาทำงานช่วยที่บ้านด้วยการเป็นลูกจ้างร้านบัดกรี ก่อนเข้ากรุงเทพฯมาเป็นลูกจ้างร้านขายยา ลูกจ้างร้านทอง ส่งเสียตัวเองเรียนศึกษาผู้ใหญ่ จนสอบได้ วิศวะ จุฬาฯ
พอจบออกมาเป็นวิศวกรบริษัทก่อสร้างอยู่หลายบริษัท ก่อนเข้าสู่วงการรับเหมาก่อสร้างด้วยการขอยืมเงินแม่เป็นทุนประเดิม 4-5 หมื่นบาท ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามเอ็นจิเนียริ่ง นับเป็นก้าวแรกของการเป็นเจ้าของธุรกิจเต็มตัว
เริ่มธุรกิจอสังหาฯ โครงการแรกเจ๊งขายไม่ออก
ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอยู่ได้ 7 ปี ก็เห็นถึงความไม่แน่นอนกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง จึงคิดอยากจะเปลี่ยนธุรกิจด้วยเงินทุนก้อนสุดท้ายที่ได้จากงานก่อสร้าง ดิ โอลด์สยาม พลาซ่า ราว 50 ล้านบาท และให้บังเอิญที่ต้องพาเพื่อนที่กลับมาจากต่างประเทศไปหาตระเวณหาซื้อบ้านตามโครงการต่างๆ คิดว่า ตัวเองน่าจะทำโครงการแบบนี้ได้ก็เลยลองจับที่ดินมาแบ่งแปลงขายเป็นทาวน์เฮ้าส์ 4 ห้อง
ปรากฏว่า เจ๊ง ขายไม่ได้เลยสักห้อง ซึ่งคุณทองมายอมรับว่า ตอนนั้นเขารู้แต่งานก่อสร้าง ส่วนเรื่องของการขาย การตลาดไม่รู้เลย พอทำออกมาแล้วจึงขายไม่ได้ ยังโชคดีที่มีเพื่อนมาช่วยซื้อไป 3 ห้อง และอีกห้องมีลูกค้าผู้โชคดีมาซื้อไป
แต่คุณทองมายังไม่ลดละความพยายาม โดยไปหาซื้อที่ดินเปิดโครงการบ้านเดี่ยว 10 หลัง แถวๆ ซอยเสือใหญ่ รัชดาฯ ตั้งราคาขายหลังละ 2 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮ้าส์ แถวสุขุมวิท 101 อีก 13 ห้อง ขายห้องละ 1.3-1.4 ล้านบาท ในนามห้างหุ้นส่วนจำกัด สยามเอ็นจิเนียริ่ง แต่ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดในธุรกิจอสังหาฯ กว่าทั้ง 2 โครงการ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่หลังจะขายหมดต้องใช้เวลาเป็นปี
จุดเริ่มต้นของ พฤกษาฯ และเจ้าพ่อบ้านราคาถูก
มีอยู่วันหนึ่งคุณทองมา ได้มีโอกาสไปฟังคุณชวน หลักภัย ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาได้พูดถึงบ้านราคาถูกราคาไม่เกิน 6 แสนบาท ซึ่งมีความต้องการอยู่มหาศาล และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนผ่านการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท
คุณทองมาปิ๊งไอเดยจากคำพูดของคุณชวน และใช้เวลาศึกษาตลาดบ้านราคาถูกอย่างจริงจังอยู่สักระยะก่อนที่จะเปิดโครงการแรก บ้านพฤกษา 1 ที่รังสิตคลอง 6 จำนวน 1,000 หลัง ขายราคา 3.5 แสนบาท ขายอยู่ 3 เดือนก็หมด แต่โครงการแรกนี้กลับเท่าทุนเพราะตั้งราคาถูกเกินไป
คุณทองมา เริ่มโครงการพฤกษา 2 อีก 2,000 หลัง คราวนี้ขยับราคาเป็น 3.5-4.5 แสนบาท 3-4 เดือนก็ขายหมด และเปิดโครงการต่อเนื่องที่บางบัวทองเป็นโครงการพฤกษา 3 จำนวนถึง 7,000 หลัง ขายราคา 4-6 แสนบาท ขายอยู่ 1 ปีก็หมดเกลี้ยง ถือว่า เดินมาถูกทาง จากปี 2536 ธุรกิจบ้านพฤกษาราคาถูกก็โตวันโตคืน จนถึงปี 2540 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สถาบันการเงินถูกปิด บริษัทมีเงินสดหมุนเวียนอยู่แค่ 10 ล้านบาท ขณะที่ยังต้องสร้างและโอนบ้านให้ลูกค้าถึง 3,000 หลัง และมีหนี้อยู่อีกราว 1,000 ล้านบาทที่ต้องใช้ให้เจ้าหนี้
เปิดร้านอาหารเกสรหารายได้เลี้ยงลูกน้อง
พอตั้งหลักได้คุณทองมาใช้เงินที่มีอยู่ทะยอยสร้างบ้านให้ลูกค้า พอโอนได้ก็เอาเงินไปใช้หนี้ และเงินที่เหลือก็เอาสร้างบ้านให้ลูกค้าต่อใช้เวลา 2 ปี พฤกษา ถึงรอดพ้นจากวิกฤติที่หนักที่สุดมาได้ แต่ตลาดยังไม่ฟื้นกลับมา คุณทองมา เลยใช้ช่วงเวลานี้มาเปิดร้านอาหารชื่อร้านเกสร อยู่ตรงทางเข้าสนามกอล์ฟนอร์ธปาร์ค ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อให้พนักงานได้มีงานทำ และนำรายได้ส่วนหนึ่งมาเลี้ยงพนักงานที่ยังเหลืออยู่ จนถึงปี 2544 พฤกษา เรียลเอสเตท จึงกลับคืนวงการอีกครั้ง
การกลับมารอบนี้คุณทองมาถอดบทเรียนจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ค่อยๆ กระจายความเสี่ยงด้วยการขยายเซ็กเมนต์ไปในตลาดอื่นๆ นอกเหนือจากการทำแต่บ้านราคาถูก พร้อมนำเทคโนโลยี่การก่อสร้างระบบสำเร็จรูปมาใช้ โดยลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป พร้อมกับตั้งเป้าพลิกโฉมธุรกิจอสังหาฯให้เป็นระบบอุตสาหกรรม ( Real Estate Manufacturing) โดยใช้ความเร็ว (Economy of speed) จากที่เคยใช้เวลาสร้างบ้าน 6-7 เดือน เหลือแค่ 1 เดือน และการสร้างด้วยปริมาณมากๆ (Economy of Scale) เป็นอาวุธสำคัญในการทำธุรกิจ
โค่นแชมป์ – แชมป์ที่ถูกโค่น ขาลงของพฤกษา?
หลังวิกฤติปี 2540 พฤกษาเติบโตอย่างรวดเร็ว จนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2548 ก็ยิ่งเหมือนเสือติดปีกจากรายได้ในปีเริ่มต้นของการเป็นบริษัทมหาชนกว่า 7,600 ล้านบาท ก็พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2552 ก็สามารถล้มแชมป์ตลอดกาลอย่างแลนด์แอนด์เฮ้าส์ไปได้ด้วยรายได้กว่า 19,000 ล้านบาท และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีรายได้สูงสุดในปี 2558 ที่ 50,000 ล้านบาท และมียอดขายสูงสุดในปี 2561 ที่ 51,000 ล้านบาท
ในช่วงที่พฤกษากำลังพุ่งทะยาน คุณทองมาวาดฝันจะมีรายได้ถึง 1 แสนล้านบาทในปี 2560 ก่อนจะขยับแผนอีกครั้งเป็นภายในปี 2570 พร้อมกับการขยายการลงทุนไปในต่างประเทศตั้งเป้าจะติด Top 10 ของบริษัทอสังหาฯของเอเชีย แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะการลงทุนในต่างประเทศกลับล้มไม่เป็นท่า เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงตลาดในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง และกฎระเบียบต่างๆ ที่กลายเป็นจุดตายของการลงทุนในแต่ละประเทศ
ขณะที่ตลาดในประเทศก็เริ่มถูกท้าทายด้วยคู่แข่งขันระดับบิ๊กๆ มากหน้าหลายตาในแต่ละเซ็กเมนต์ที่พฤกษาขยายตัวออกไป ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาต่อเนื่องบั่นทอนกำลังซื้อในฐานที่มั่นสำคัญของพฤกษานั่นก็คือตลาดบ้านระดับกลาง-ล่าง สร้างผลกระทบต่อรายได้จนทำให้เสียแชมป์ให้กับแสนสิริไปในที่สุดเมื่อปีที่ผ่านและทำให้พฤกษาต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ก้าวต่อไปของพฤกษากับบ้านราคาถูกที่หายไป
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 คุณทองมา โปรโมทลูกน้องเก่าคุณปิยะ ประยงค์ ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2546 ขึ้นเป็น ซีอีโอ พฤกษา เรียลเอสเตท ปรับจูนการทำงานของพฤกษา เรียลเอสเตทใหม่ โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปีนับจากนี้เขาตั้งเป้าจะนำพา พฤกษา เรียลเอสเตท กลับไปในจุดที่เคยทำได้ดีที่สุดอีกครั้ง พร้อมกับต่อยอดไปสู่ธุรกิจสุขภาพ โดยนำโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของพฤกษามาช่วยยกระดับการอยู่อาศัยไปอีกขั้น
ในวาระครบรอบ 28 ปี จึงมีงานที่ท้าทายรออยู่ เพื่อกลับคืนสู่บัลลังก์เบอร์ 1 ของตลาด แม้คุณทองมาจะบอกหลายครั้งว่าไม่ต้องการแข่งกับใคร ขอแข่งกับเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ให้ได้ก็พอ
คุณทองมา ได้กล่าวในวาระที่บริษัทครบ 28 ปีว่า ก้าวต่อไป พฤกษาจะนำความเชี่ยวชาญจากธุรกิจสุขภาพที่กำลังจะเปิดตัวของโรงพยาบาลวิมุตมาผนวกในการยกระดับการอยู่อาศัยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น จึงไม่ใช่เพียงแค่การอยู่อาศัย แต่ยังรวมไปถึงการใส่ใจดูแลด้านสุขภาพด้วย โดยจะยังคงยึดมั่นวิสัยทัศน์และพันธกิจภายใต้แนวคิด “ใส่ใจ…เพื่อทั้งชีวิต” เพราะอยากให้ทุกคนมี “บ้าน” ที่อยู่แล้วมีความสุข
28 ปีของพฤกษาก็ขอชื่นชมในความสำเร็จของคุณทองมา และเอาใจช่วยคุณปิยะให้นำองค์กรผ่านวิกฤติรอบนี้ไปให้ได้ สำหรับผมน่าเสียดายอยู่อย่าง ตรงที่พฤกษาในวันนี้แทบไม่มีบ้านราคาถูกให้ผู้มีรายได้น้อย-ปานกลางซึ่งวันนี้ก็ยังมีความต้องการอยู่อย่างมหาศาล และเคยเป็นฐานให้พฤกษาได้ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา
จะด้วยวิถีของธุรกิจ ความใหญ่ขององค์กรที่ทำให้กดต้นทุนไม่ลงหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมก็เชื่อว่า ด้วยศักยภาพของพฤกษา ทั้งคน ทั้งเทคโนโลยี่ และประสบการณ์อันโชกโชนในตลาดนี้ ถ้าเอาจริงๆ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะครับ สวัสดี #28ปีพฤกษา