fbpx
โซลาร์รูฟ

Solar Roof นวัตกรรมช่วยลดค่าไฟในยุค new normal

เมื่อหลายคนเริ่ม “อยู่บ้านทุกวัน” มองมุมไหนภายในบ้านก็เริ่มเห็นพื้นที่ หรือส่วนต่างๆ ที่ต้องซ่อมแซม หรือปรับสภาพให้น่าอยู่มากขึ้น และเมื่อคิดปรับปรุงบ้าน “หลังคา” มักถูกมองข้าม ทั้งที่ทำหน้าที่สำคัญ ทั้งช่วยบังแดดบังฝนให้บ้านร่มเย็น ซึ่งปัจจุบันในยุคที่มีนวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวช่วย ยิ่งทำให้เราใช้ประโยชน์จากหลังคาได้มากขึ้น ด้วยการติดตั้งระบบหลังคา “โซลาร์รูฟ”

ที่ผ่านมาหลายคนอาจมีความคิดว่าการติดตั้งหลังคาโซลาร์รูฟ เป็นเรื่องไกลตัว ยุ่งยาก หรือได้ไม่คุ้มเสีย แต่แท้จริงแล้ว หลังคาโซลาร์รูฟ เหมาะอย่างยิ่งกับบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวที่มีการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน เข้ากระแส new normal life ซึ่งวันนี้ทุกบ้านเริ่มมีสมาชิกในบ้าน Work From Home ขณะเดียวกับที่เด็กๆ ก็ต้อง Learn from Home ทั้งหมดล้วนแต่ใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวันเป็นหลัก

SCG Home Solution ผู้พัฒนา “เอสซีจี โซลาร์รูฟ” มีข้อแนะนำว่าก่อนที่จะติดตั้งโซลาร์รูฟ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เช็คลิสต์เพื่อตรวจสอบว่าบ้านเหมาะสำหรับการติดตั้งโซลาร์รูฟหรือไม่ ดังนี้

  • ค่าไฟฟ้าต่อเดือนมากกว่า 3,000 บาท
  • มีการใช้ไฟช่วงกลางวัน มีการเปิดแอร์ขั้นต่ำ 1 ตัว

หากเช็คลิสต์ผ่านทั้ง 2 ข้อ ขั้นตอนถัดไปต้องให้ผู้เชี่ยวชาญหรือมีความรู้ด้านการติดตั้งหลังค่าประเภทนี้ เข้าไปตรวจเช็คสภาพหลังคา และโครงสร้างก่อนการออกแบบและติดตั้งอย่างละเอียด เพื่อประเมินความเหมาะสม มั่นใจในประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน เพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างหลังคา ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างสูงสุด

อีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องของทิศที่เหมาะสมในการติดตั้ง โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะติดที่ทิศใต้และทิศตะวันตกที่แดดค่อนข้างจัด ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบ้านด้วยว่ามีต้นไม้หรืออาคารสูงมาบดบังแสงหรือไม่ สำหรับงานติดตั้งระบบหลังคาหากเป็นของ เอสซีจี โซลาร์รูฟ จะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน โดยเมื่อรวมขั้นตอนขออนุญาตจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน

นอกจากนี้ เอสซีจี โซลาร์รูฟ ยังมีบริการเพิ่มเติมคือ เจ้าของบ้านสามารถดูยอดเงินที่ประหยัดได้แบบเรียลไทม์ ผ่านแอปพลิเคชัน SCG Solar Solutions เพื่อติดตามผลการผลิตไฟฟ้าและแสดงผลเป็นยอดเงินได้แบบรายวัน รายเดือน และ รายปี เพื่อให้แน่ใจ ว่าระบบโซลาร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะมีกราฟแสดงการผลิตไฟฟ้าในแต่ละวัน

หากเจ้าของบ้านมีพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินก็สามารถขายคืนได้ ในปี 2564 โครงการโซลาร์ภาคประชาชน ปรับอัตราการรับซื้อไฟคืนเป็น 2.2 บาท/หน่วย เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียวแต่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่างเลยทีเดียว ส่วนเรื่องความคุ้มค่า เมื่อลงทุนติดตั้งแล้วจะใช้ระยะเวลาในการคืนทุนอยู่ที่ประมาณ 7-10 ปีขึ้นไป

หากคุณมีแผนในการปรับปรุงบ้าน การเปลี่ยนพลังแสงอาทิตย์ เป็นการประหยัดค่าไฟฟ้า ด้วยการติดตั้งระบบหลังคา โซลาร์รูฟ  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดไฟในบ้านแล้ว ยังช่วยลดการใช้พลังงาน ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังส่งผลดีในระยะยาวอีกด้วย