เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท และผู้ใช้งานต้องการความสะดวกสบาย “บ้านอัจฉริยะ” Home Technology กลายเป็นกระแสต่อเนื่องข้างปี และด้วยผลจากการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัส Covid-19 และปัญหาฝุ่น pm 2.5 ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต และสิ่งแลดล้อมรอบตัวเรามากขึ้น ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ปี 2021 เทรนด์บ้านที่มาแรงครองใจผู้ที่จะซื้อ หรือสร้างบ้าน คือ บ้านอัจฉริยะ Home Technology บ้านประหยัดพลังงาน Eco-friendly และบ้านที่ให้ความรู้สึกคืนสู่ธรรมชาติ Back to nature
บ้านอัจฉริยะ Home Technology ต้องมา
เหตุผลเป็นเพราะเราต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จนทำให้มีการปรับบ้านหลังเดิมให้มีความอัจฉริยะขึ้น หรือถ้าจะซื้อหรือจะสร้างบ้าน ความคิดเรื่องนวัตกรรมการที่จะสามารถอำนวยความสะดวกภายในบ้านได้จึงกลายเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง
บ้านหรืออาคารที่จะสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นบ้านสมาร์ทโฮม จะต้องมีคุณสมบัติ 3 ประการดังนี้
1. ต้องมี Smart Home Network หมายถึง ระบบการเดินสายหรือไร้สายที่ใช้สื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ใช้สำหรับการส่งข้อมูลระหว่างกัน
2. ต้องมี Intelligent Control System หมายถึง ระบบการควบคุมระบบอัจฉริยะเป็นเสมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่างเทคโนโลยีที่แตกต่างกันของอุปกรณ์ภายในบ้าน และยังทำหน้าที่เป็นเสมือน gateway เพื่อเชื่อมต่อกับบริการที่อยู่ภายนอกบ้านอีกด้วย
3. ต้องมี Home Automation Device หมายถึง อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ไฟหน้าประตูที่สามารถเปิดและปิดเองได้ ด้วยระบบการตรวจจับหาสมาชิกในบ้าน หรือผู้ช่วยเสมือนที่สามารถเปิดและปิดอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านด้วยการสั่งผ่านเสียงของสมาชิกในบ้านได้
บ้านประหยัดพลังงาน Eco-friendly ต้องมีในเทรนด์ปี 2021
เพราะเมื่อมีการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้กัน นั่นก็คือการสร้างบ้านที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม การออกแบบบ้านจึงจะเน้นไปอิงตามแนววิถีธรรมชาติเป็นหลัก เพื่อลดค่าใช้จ่าย และช่วยประหยัดพลังงาน
จะเรียกว่าเป็นบ้านแบบ Eco-friendly ต้องประกอบไปด้วย การใช้วัสดุที่สามารถช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พร้อมถูกออกแบบให้เกิดการระบายอากาศตามธรรมชาติที่เหมาะสมกับสภาพสภาพภูมิอากาศสำหรับประเทศไทย ภายในบ้านควรมีทางให้ลมผ่านเข้าออกได้เพื่อระบายอากาศและถ่ายเทความร้อน
การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีนำหนักเบาช่วยให้สามารถลดขนาดโครงสร้างของบ้านลงได้เป็นการ เลือกวัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน ฉนวนความร้อนที่มีประสิทธิภาพ กำหนดผนังแบ่งกั้นพื้นที่ภายในไม่ให้กั้นขวางทางลม และคำนึงถึงความสะดวกในการใช้สอยให้สอดคล้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน
บ้านที่ให้ความรู้สึกคืนสู่ธรรมชาติ Back to nature
ต้องไม่ได้เป็นการสร้างบ้านแบบลดทอนธรรมชาติ แต่กลับเป็นการเพิ่มปริมาณของธรรมชาติให้มีเพิ่มมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก เหตุเป็นเพราะเทรนด์ของผู้บริโภคที่อยากจะหวนคืนธรรมชาติ เพราะมีความรักสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความนิยมในการสร้างบ้านแบบใกล้ชิดธรรมชาติ และสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
โดยเริ่มจากการใช้วัสดุก่อสร้างและปิดผิวแสดงเนื้อแท้ของอิฐ หิน ปูน ไม้ แบบที่ว่ามีการแปรรูปไม่มากหรือไม่มีการทาสีเคลือบปกปิดผิวจริงของวัสดุ ยกเว้นประโยชน์ใช้สอยในแง่ของการกันสนิม ยืดอายุการใช้งาน หรือการใช้วัสดุทดแทนในบริเวณที่ต้องการบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะพื้นไม้ ระแนงไม้
ลดทอนความฟุ่มเฟือย ด้วยการออกแบบให้มีช่องเปิดโล่งขนาดใหญ่ นอกจากทำให้แสงลอดเข้ามาได้มากพอแล้ว ยังเปิดมุมมองไปยังส่วนที่ต้องการได้เต็มตา