fbpx
ถ้ำนาคา ภูลังกา..สายมูต้องไม่พลาด

ถ้ำนาคา ภูลังกา..สายมูต้องไม่พลาด

TPM ท่องโลก เที่ยวไทย “ต้องไป..ถึงรู้” by @P’Taak

สำหรับชนชาวมู.. ถ้ำนาคา-ภูลังกา-บึงโขงหลง-ปู่อือลือ… คนที่ยังไม่เคยไปก็ตั้งใจว่าจะต้องไปให้ได้ซักครั้ง ส่วนคนที่ไปแล้วก็อยากไปอีก..วันนี้เลยขอถือโอกาสนำประสบการณ์ที่เคยไปมาแชร์ในมุมของตัวเอง..บอกเลยคำว่า “ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่” มีอยู่จริง

อุทยานแห่งชาติภูลังกา..ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย อุทยานแห่งชาติภูลังกา ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม และอำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง ของจังหวัดบึงกาฬ ลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาเรียงซ้อนกันตามแนวแม่น้ำโขง คือ ภูลังกาเหนือ ภูลังกากลาง และภูลังกาใต้ ทอดยาวตามแนวทิศเหนือกับทิศใต้และสลับด้วยเทือกเขาขนาดเล็กหลายลูกสลับซับซ้อนกัน จุดสูงสุดบนภูลังกาเหนือ สูง 563 เมตรจากระดับน้ำทะเล

นอกจากถ้ำนาคาแล้ว อุทยานแห่งชาติภูลังกายังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นน้ำตกหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นน้ำตกตาดขาม น้ำตกตาดโพธิ์ อยู่ในอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ส่วนที่อยู่ในพื้นที่อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ คือ น้ำตกตาดวิมานทิพย์ และน้ำตกกินนรี

เตรียมพร้อมมากก่อนออกเดินขึ้นถ้ำกัน

ไหว้ศาลปู่อือลือ-เกาะดอนโพธิ์-ท่องดินแดนลับแลหรือเมืองบังบด
ทริปที่ครบสูตร ต้องสักการะสามจุด ศาลปู่อือลือนาคราช-เกาะดอนโพธิ์-ถ้ำนาคา

ศาลปู่อือลือนาคราช
เพื่อขอพรต่างๆ ที่สำคัญให้การขึ้นภูลังกา ราบรื่นปลอดภัย ไร้อุปสรรคใดๆ และผู้ที่นิยมของที่ระลึก เหรียญปู่อือลือหรือของบูชาก็ต้องที่นี่เลย

เกาะดอนโพธิ์ บึงโขงหลง
ตำนานว่า คือ เมืองรัตพานคร ที่ถูกถล่มโดยพญานาคและสาปปู่อือลือราชาให้เฝ้าอยู่ที่นี่..จะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อบังเกิดเมืองขึ้นใหม่ (อดีตพื้นที่นี้ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย ปัจจุบันเป็นจังหวัด “บึงกาฬ” จังหวัดเกิดใหม่ลำดับที่ 77 ของประเทศเมื่อปี 2554)..นั่งเรือรับลมเย็นสบายชิลๆ แป๊บเดียวก็ถึง มีตะกร้าใส่ชุดบูชาให้เราอธิษฐานขอพร..ที่นี่เป็นที่ทำพิธีพราหมณ์บวงสรวงของคณะต่างๆ กันด้วย..

ถ้ำนาคา ภูลังกา
การขึ้นภูต้องจองล่วงหน้าผ่านแอป QueQ และเมื่อไปถึงต้องซื้อตั๋วพร้อมทั้งไกด์ที่ขึ้นทะเบียนกับอุทยานนี้เป็นผู้นำทาง..เมื่อเดินเข้าไปไกด์จะนำคณะไปจุดไหว้บอกกล่าวขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาเปิดทางก่อน…บอกเลยแค่เริ่มต้นบรรยากาศก็เข้มขลังแล้ว (ขากลับลงมาเราก็ต้องไหว้ด้วย เหมือนธรรมเนียม ไปลา-มาไหว้)

ทางเดินขึ้นเขา 2 กิโลเมตร ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานมากๆ ที่ทำบันไดรวมประมาณ 1,400 ขั้น ช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวได้มากจริงๆ

การเตรียมตัว ควรสวมชุดที่คล่องตัว-รองเท้าเหมาะกับการเดินป่า (เคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการแต่งตัวสุภาพตามสมควร ไม่ใส่กางเกงสั้นมาก ไม่สบายสายชิล หรือโป๊มากไป) เป้สะพายหลังใส่ของจำเป็น เช่น น้ำ-อาหารว่างเล็กน้อย..เครื่องเคียงประเภท ยาดม ยาหม่อง ยากันยุง แล้วแต่บุคคล สิ่งต้องห้ามเด็ดขาด กระดาษทิชชู่ หลอดดูดน้ำ ถุงพลาสติก กล่องโฟม ดอกไม้ธูปเทียนเครื่องเซ่นไหว้

คณะเรามี 9 คน พอเดินไปๆ ก็แบ่งเป็นสองกลุ่มตามอายุโดยปริยาย..เป็นเหตุผลที่ทางอุทยานกำหนดว่าจะต้องมีไกด์ดูแลกลุ่มทัวร์อย่างเพียงพอ..ใช้เวลารวมประมาณ 4-5 ชั่วโมง (แล้วแต่สภาพเลย ^^)

ตลอดการเดินมีจุดให้เก็บภาพตามรายทาง ลอดผ่านประตูเต่า-หินที่มีรูปทรงคล้ายหัวและตัว ไกด์แนะนำอธิษฐานให้สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว…จากนั้นก็หินรูปเห็ด, ผาหนุมาน, เศียรพญางูที่ 3…บอกเลยว่าขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานมากๆๆ ที่ทำบันไดให้เราเดินอย่างสะดวกมาก แถมมีจุดพักเป็นระยะ ไม่ยากลำบากเหมือนช่วงแรกๆ ที่ต้องใส่ถุงมือเพื่อโหนจับเชือกปีนป่ายเขากันเลย…ขอแค่เราฟิตร่างกายพอสมควร

แม้การเดินจะเรียกเหงื่อได้มาก แต่เมื่อขึ้นไปถึงจุดบนสุดที่เป็นลานโล่ง มุมมองแบบ 360 องศา…เห็นบึงโขงหลง ประเทศเพื่อนบ้านลิบๆ ..หายเหนื่อยและให้ความภูมิใจ ประหนึ่งพิชิตภารกิจได้สำเร็จ

ที่ข้างบนยังมีเรื่องต้องทำ เช่น รอคิวเพื่อลงถ้ำนาคา ไปดูจุดที่เห็นเป็นลำตัวงูใหญ่ สถานที่ที่ปรากฏภาพคล้ายมิติทับซ้อนของเมืองบังบดหากใครมีบุญสัมพันธ์…ไหว้เศียรที่ 1 สถานที่สำคัญด้านบนมีหลายจุดให้เราสักการะ เจดีย์หลวงปู่เสาร์-อาจารย์ของพระสายวัดป่า, เจดีย์หลวงปู่วัง ที่ได้ชื่อว่า เทพเจ้าแห่งภูลังกา ศิษย์ของหลวงปู่เสาร์

พระธาตุภูลังกาหรือเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์…ซึ่งในส่วนพระธาตุฯ สร้างขึ้นโดยพระอาจารย์สมชาย ปุญญมโน ครั้งขึ้นมาปฏิบัติภาวนาเมื่อพ.ศ. 2542 ท่านว่าเทวดามานิมิตขอให้สร้าง จึงได้แจ้งข่าวแก่ชาวบ้านและได้รับความร่วมมือในการสร้างจนแล้วเสร็จ, ถ้ำชัยมงคล ที่หลวงปู่วังมาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน

ตลอดการเดินทางทริปนี้ บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก และจะกลับไปอีกแน่นอนหากมีโอกาส เหมือนหลายๆ คน ที่กลับไป..ไม่ใช่ครั้งสองครั้ง แต่บางคนไปมานับสิบครั้งกันเลย..ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเค้าคงได้ตามสิ่งที่อธิษฐานกันไว้นั่นเอง
หมายเหตุ : เศียรที่ 2 อยู่ไกลจากเส้นทาง อุทยานและไกด์จึงไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวไปกัน

# ร้านอาหารแนะนำ อยากแนะนำแค่ว่าไหนๆ ทริปเราก็มาแนวนี้แล้ว ก็ไปให้สุดด้วยการไปดื่มด่ำบรรยากาศที่ริมบึงโขงหลงที่มีหลากหลายอย่าง ตั้งแต่ร้านอาหารอร่อยไปจนถึงร้านกาแฟชิคชิค ไปจนถึงของดีบึงกาฬ แม้เป็นจังหวัดน้องใหม่ แต่ก็มาแรงแซงโค้งมากๆ สินค้าที่ระลึกเพื่อนักท่องเที่ยวมีมากมาย ทั้งสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด หมอนยางพารา ผ้าทอหมักโคลน และแน่นอน วัตถุมงคลจากพ่อปู่อือลือราชา ถ้ำนาคา เป็นต้น

เรื่องเล่าที่ 1…ตำนานปู่อือลือนาคราช

ข้อมูลนี้อ้างอิงจากโพสต์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ สามารถไปดูแบบเต็มๆ กันได้ที่ https://www.m-culture.go.th/buengkan/ewt_news.php?nid=3214&filename=index

ตำนานปู่อือลือที่ข้องเกี่ยวกับบึงโขงหลง เชื่อว่า เกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย บริเวณนี้เดิมเป็นที่ตั้งเมืองรัตพานคร มีพระอือลือราชา เป็นผู้ครองนคร มเหสีชื่อนางแก้วกัลยา มีพระธิดาชื่อพระนางเขียวคำ ต่อมาอภิเษกสมรสกับพระเจ้าสามพันตา มีพระโอรสชื่อ เจ้าชายฟ้ารุ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด มีความรอบรู้ และรูปงาม ขณะประสูติมีท้องฟ้าสว่างไสว ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับ นาครินทรานี-พระธิดาของพญานาคราชแห่งเมืองบาดาลที่แปลงกายเป็นมนุษย์ การอภิเษกสมรสจัดกันอย่างมโหฬาร ทั้งเมืองบาดาลและเมืองมนุษย์ (รัตพานคร) 7 วัน 7 คืน เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างพญานาคราช กับ พระเจ้าอือลือราชา

นั่งเรือบึงโขงหลงไปเกาะดอนโพธิ์

ทั้งสองอยู่กินกันเป็นเวลา 3 ปี ก็ไม่สามารถมีผู้สืบสายสกุลได้ (เพราะธาตุมนุษย์กับนาค) ทำให้ทั้งสองเศร้าโศกเสียใจ ต่อมาเจ้าหญิงนาครินทรานีล้มป่วยลง ทำให้ร่างกายของนางที่เป็นมนุษย์กลายเป็นนาคตามเดิม ข่าวได้แพร่สะพัดไปทั่วกรุงรัตพานคร และแม้นางจะร่ายมนตร์กลับเป็นมนุษย์ ประชาชนและพระเจ้าอือลือก็ไม่พอใจ ขับไล่นางนาครินทรานี กลับสู่เมืองบาดาลดังเดิม โดยแจ้งให้พญานาคราชมารับตัวกลับ ก่อนกลับพญานาคราชได้ขอเครื่องกกุธภัณฑ์ของตระกูลคืน แต่พระเจ้าอือลือราชาไม่สามารถคืนให้ได้ เนื่องจากนำไปแปรสภาพเป็นอย่างอื่น ทำให้พญานาคราชกริ้วมาก และประกาศว่าจะทำลายเมืองรัตพานคร และจะเหลือเอาไว้เพียง 3 วัดเท่านั้น

หลังจากพญานาคกลับไป ตอนกลางคืนได้ยกไพร่พลมาถล่มเมืองรัตพานคร และไม่มีประชาชนคนใดรอดพ้นจากฤทธิ์นาคได้ เมื่อนางนาครินทรานีทราบข่าว ได้ขึ้นมาตามหาเจ้าชายฟ้ารุ่ง จนถึงแม่น้ำสงครามก็ไม่พบจึงกลับเมืองบาดาล ส่วนเมืองรัตพานครได้ถล่มเป็น “บึงหลงของ” ต่อมานานเข้าคำพูดก็กลายเป็นโขงหลง และวัดที่เหลือ 3 วัด คือ วัดดอนแก้ว (วัดแก้วฟ้า) วัดดอนโพธิ์ (วัดโพธิสัตว์) และ วัดดอนสวรรค์ (วัดแดนสวรรค์) ทางที่นางนาครินทรานีตามหาเจ้าชายฟ้ารุ่ง คือ ห้วยน้ำเมา(เมารัก)

ส่วนพระอือลือราชา ไม่ได้สิ้นพระชนม์ไปกับเหตุการณ์นั้น แต่ถูกพระยานาคราชจับตัวไว้พร้อมทั้งสาปให้กลายร่างเป็นนาค เฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ ..จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ จึงจะล้างคำสาปของพระยานาคราชได้

เรื่องเล่าที่ 2…ภูลังกา และหลวงปู่วัง ฐิติสาโร วัดถ้ำชัยมงคล เทพเจ้าแห่งภูลังกา

ข้อมูลบางส่วนคัดมาจาก ตำนานภูลังกา เทศบาลบึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เข้าไปอ่านแบบเต็มๆกันที่ https://www.tesbanbkl.go.th/index/?page=picture76435802&detail=upzjiKCtN

ภูลังกาเป็นเทือกเขาห้าลูก เกาะกลุ่มอยู่ใกล้บึงโขงหลงและภูวัว ท้องที่จังหวัดหนองคาย เดิมขึ้นอยู่กับอำเภอบ้านแพง แต่ในปัจจุบันเป็นพื้นที่ของอำเภอบึงโขงหลง ใกล้กับอำเภอเซกา ภูลังกาเป็นตำนานอันลือเลื่อง เกี่ยวพันกับศาสนาและคติความเชื่อปรัมปรา ภูลังกามีความลี้ลับอาถรรพ์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนกระทั่งถึงปัจจุบัน เป็นเรื่องพูดยากอธิบายยาก เพราะเป็นเรื่องของนามธรรมที่ทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ไม่ได้ แต่ทั้งๆ ที่พิสูจน์ไม่ได้ คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่มีการศึกษาสูงๆ เป็นครู เป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และระดับศาสตราจารย์ด็อกเตอร์จากต่างประเทศจำนวนไม่น้อยก็ยอมรับว่า เรื่องความลึกลับนามธรรมเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ทางจิต ที่ต้องรับฟังไว้เพื่อศึกษาพิจารณาค้นคว้าต่อไป จะปฏิเสธเสียเลยทีเดียวไม่ได้

ภูลังกา เป็นตำนานเรื่องพระเจ้าห้าพระองค์ นโมพุทธายะ และเป็นเมืองหลวงของชาวบังบดลับแล อันมีเมืองพญานาครวมอยู่ด้วย และยังเป็นสนามรบกับกองทัพกิเลส ที่กองทัพธรรมของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ส่งศิษยานุศิษย์ที่เป็นพระธุดงค์กรรมฐานทุกรุ่นทุกสมัย มารบราฆ่าฟันกับกิเลสตัณหาที่ภูลังกา ไม่เคยเลิกรา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ พระกรรมฐานที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพเลื่อมใสของมหาชน ที่เคยไปบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูลังกามาแล้วคือ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล / หลวงปู่สิม พุทธาจาโร / ครูบาวัง ฐิติสาโร / พระอาจารย์สมชาย เขาสุกิม / พระอาจารย์ชา วัดหนองป่าพง / พระอาจารย์โง่น โสรโย ฯลฯ …

ในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อน เป็นดงหนาป่าทึบกว้างใหญ่ไพศาล ชุกชุมไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรด และโขลงช้างเถื่อน แต่ในปัจจุบันนี้ป่าใหญ่หายไปหมดสิ้น กลายเป็นทุ่งโล่งรกร้างและไร่นา จะพอมีป่าเหลืออยู่รอบๆ ภูลังกาบ้างเล็กน้อย รอบๆ ภูลังกามีวัดป่าตั้งอยู่ประมาณ 10 วัด มีทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุต พระสงฆ์องค์เณรรูปใดถ้าบกพร่องในศีลพระวินัยแล้วจะอยู่ไม่ได้นาน ต้องมีอันเป็นไปเพราะพระภูมิหรือเจ้าที่เจ้าทางแรงมาก ….

เรื่องราวความน่าอัศจรรย์ของหลวงปู่วัง ที่ได้ชื่อว่าเทพเจ้าแห่งภูลังกา ซึ่งท่านมรณภาพไปนานแล้ว แต่ได้เกิดบุญสัมพันธ์มาเข้านิมิตหลวงปู่ตอง ให้ไปบูรณะเจดีย์ของท่านที่ถูกคนร้ายทุบพังเพื่อหาวัตถุมงคล…ซึ่งเรื่องราวสิ่งลึกลับ เมืองบังบด ผีสางเทวดา ปีศาจ ยักษ์มาร หรือเรื่องยาสมุนไพร ที่เราได้รับรู้กันนี้ บางส่วนถูกถ่ายทอดจากหลวงปู่ตอง ซึ่งท่านได้ปฏิบัติจนมีอำนาจสมาธิ มีปิติแรงมาก จน“กายวิเวก จิตวิเวก” เชื่อมโยงกับ “มิติเร้นลับ” เข้าหา “โลกวิญญาณ” หรือโลกอันเป็นทิพย์